ภายหลังจากที่นายสันติ เมธาวิกุล ได้ลาออกจากตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ที่รู้จักกันดีในนามดีแทค เมื่อเดือน พ.ค. 2551ด้วยเหตุผลสั้นๆ ถึงเวลาไล่ตามฝันมีบริษัทเล็กๆเป็นของตัวเอง
หายหน้าหายตาจากวงการไม่นานนัก สันติกลับมาพร้อมกับการเปิดตัวบริษัทใหม่ของตัวเองตามความฝัน ชื่อ บริษัท ไวด์ แอ็คเซ็ส จำกัด หรือ wide เป็นการก่อกำเนิดจากการรวมตัวของกลุ่มคน เล็กๆ ที่อยากทำอะไรสักอย่าง ที่หลุดพ้น จากกรอบความคิดเดิมๆ มีความกล้าที่จะมองโลกอย่างแตกต่าง
บริษัทแห่งนี้เริ่มต้นจากพนักงานบริษัทเพียง 5 คน เหมือนกับการเริ่มต้นสร้างทีมเล็กๆในดีแทค ซึ่งครั้งนั้นสันติสร้างจนมีพนักงานมากกว่าหลักพันคน
สันติบอกเล่าประสบการณ์ก่อตั้ง wide ด้วยดวงตามุ่งมั่นว่าเริ่มก่อตั้งบริษัทนี้ตั้งแต่ เดือน มิ.ย. 2551 เริ่มต้นคิดงานกันโดยที่ไม่มีออฟฟิศ อาศัยประชุมคิดแผนธุรกิจกันตามร้านสตาร์บัค เปลี่ยนโลเกชั่นไปเรื่อยๆแล้วแต่สะดวก และมาลงตัว ณ สถานที่หนึ่งในทองหล่อ เป็นที่สำหรับคนไม่มีออฟฟิศมารวมตัวคิดงาน ที่แห่งนี้ทำให้เขาได้แลกเปลี่ยนไอเดีย กับเพื่อนชาวต่างชาติ ทำให้เห็นแง่มุมใหม่
และสรุปว่าจะทำธุรกิจอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งมีช่องทางให้สามารถเติบโตและมีขนาดตลาดอีกมาก เนื่องจากไทยยังมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพียง 2 %ของจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศ งานนี้ถ้าเดาทางธุรกิจไม่ผิดตลาดอินเทอร์เน็ตไทยกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น เพราะจากประสบการณ์วงการโทรศัพท์มือถือที่มีการเติบโตลักษณะเดียวกันฉะนั้นธุรกิจนี้น่าจะมีพื้นที่ให้เขาสามารถสานฝันสร้างบริษัทที่มั่นคงได้
สันติไม่ได้มีหุ้นใน wide 100 % เพราะการเป็นเจ้าของเพียงผู้เดียวต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก โชคดีที่ได้เบญจจินดา โฮลดิ้งเข้ามาช่วยถือหุ้น 20 % โดย wide มีทุนจดทะเบียน เริ่มต้น 50 ล้านบาท และวางงบลงทุนในปีแรก 20 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนจะเป็นไปอย่างระมัดระวังค่อยเป็นค่อยไป ด้วยเหตุที่การลงสนามครั้งนี้ไม่ได้มีนายทุนใหม่หรือเงินลงทุนใหม่ แต่เป็นเงินส่วนตัวที่สะสมมาทั้งชีวิต
Wide ทำธุรกิจ 2 รูปแบบ 1.เป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือ ไอเอสพี ไร้สาย ด้วยความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ไม่ต้องมีเบอร์บ้าน ให้อิสระในการใช้บริการไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องมีสัญญา สามารถเลิกใช้ได้ทันทีหากไม่ต้องการใช้บริการ ในราคา 590 บาท ความเร็ว 2Mbps ส่วนการใช้งานนั้นสามารถใช้และติดตั้งได้เองโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านไอที พร้อมคู่มือเล่มเล็ก อ่านง่าย
2.ให้บริการขายอุปกรณ์ ขยายสัญญาณ ไวร์เลส ทั้ง wide mini ซึ่งเป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์มีดีไซน์สวย เบา พกพาง่าย ใช้ติดตั้งขยายสัญญาณไวร์เลสในออฟฟิศและอุปกรณ์ wide outdoor สำหรับใช้ขยายสัญญาณไวร์เลสนอกสถานที่ ซึ่งจะมีขายออนไลน์ในเว็บไซต์ www.wide.me
สันติเล่าว่า ‘ผมมีความฝันว่าอยากตั้งบริษัทเป็นของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน และมีเป้าหมายทำความฝันให้เป็นจริงเมื่อทำงานได้ 5 ปี แต่ผ่านไป 20 ปีแล้ว ความฝันก็ยังเป็นเพียงความฝัน ผมยังไม่เบื่อกับงานที่ทำ อาจเป็นเพราะงานที่ผมทำมีการเปลี่ยนแปลง ธุรกิจอยู่ในช่วงเติบโตไม่มีหยุด จากตำแหน่ง เซลส์ เลื่อน เป็นผู้จัดการ ขายเครื่องลูกข่ายให้กลุ่มยูคอม นาน 12 ปี ไม่ได้ทำให้รู้สึกเลยว่าเบื่อสักวัน เพราะการทำงานที่เปลี่ยนแปลง ท้าทายทุกวันต้องออกพบประตัวแทนจำหน่าย และเสนอขายเครื่องรุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง’
ต่อมาในปี 2543 สันติ ย้ายมาทำงานกับดีแทคในตำแหน่งรับผิดชอบการจำหน่าย และกระจายสินค้า ซึ่งงานก็ไม่ได้แตกต่างจากที่อยู่ยูคอมมากนักจะต่างก็ตรงที่ดีแทคทำธุรกิจที่จับต้องไม่ได้เหมือนยูคอม ที่จำหน่ายเครื่องมือถือที่มองเห็นและจับ ต้องได้
ยุคแรก ธุรกิจมือถือที่ดีแทคทำนั้นเป็นเรื่องใหม่มีคนใช้งานน้อย คนที่ใช้ต้องมีกำลังซื้อสูงเพราะเครื่องราคาสูง จึงต้องอาศัยความพยายามกระจายสินค้าและหาวิธีให้ลูกค้าสนใจมาใช้บริการ ซึ่งเป็นบริการที่จับต้องได้ยาก
“ตอนแรกก็งงดีไม่รู้ว่าขายอะไร ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเหมือนเครื่องมือถือ”
จนกระทั่งเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อกลุ่มเทเลนอร์เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นร่วมกับ ตระกูลเบญจรงคกุล ในสมัยที่กิจการไม่ดีนัก และเปลี่ยนจากแทคเป็นดีแทค ในปี 2544 ซึ่งใช้เวลาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างภายในช่วงข้ามคืนทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นศูนย์บริการลูกค้า ป้ายโฆษณาจุดต่างๆ แม้กระทั่งป้ายหน้าบริษัททุกอย่างต้องเรียบร้อย นั่นนับเป็นจุดเปลี่ยนที่แสนเหนื่อย แต่ก็ประทับใจไม่รู้ลืม
เมื่อเปลี่ยนมาเป็นดีแทค โทรศัพท์มือถือระบบเติมเงินก็เกิดขึ้นและเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะความง่ายในการใช้บริการ ทำเอาทุกคนลืมโทรศัพท์ระบบเหมาจ่ายไปจากประเทศไทย ในปี 2545 และมีผู้ใช้บริการเหลืออยู่เพียง 4-5 ล้านรายในตอนนั้น
‘ระบบเหมาจ่ายก้าวเข้าสู่ชั่ววิกฤตที่สุดเพราะยอดลูกค้าติดลบเดือนละ 4 แสนรายทุกเดือน จนเหลือลูกค้าแค่ 1.1 ล้านราย ระบบเติมเงินเข้ามาทำให้คนลืม ระบบเหมาจ่าย ดีแทค เองก็ออกดีพร้อมท์ และเอไอเอส ออกวัน-ทู-คอล’
จนกระทั่งดีแทค มี CO-CEO ก็ได้รับงานหินสมใจ สันติได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลระบบเหมาจ่าย บนทางเลือก 2 แพร่ง คือเลิกทำ หรือทำต่อไป และต้องทำให้ยอดลูกค้าที่ติดลบจำนวนมหาศาลพลิกฟื้นตัวขึ้นมาให้ได้
เวลานั้นผมเลือกเดินเข้าไปบอก 2 ซีอีโอว่าเลือกที่จะทำให้ระบบเหมาจ่ายกับมาเป็นบวกให้ได้ จากวันนั้นสันติสามารถพิสูจน์ฝีมือแล้วว่าทำได้ และงานที่เขาเลือกคือตัวผลักดันความคิดริเริ่มออกมามากมาย เพราะการทำงานที่ไม่มั่นคงจนเกินไปอย่างที่เขามองเห็นมาตั้งแต่แรก
วันนั้นดีแทคมีฐานลูกค้า ระบบเหมาจ่ายบวกต่อเนื่องได้มากกว่า 36 เดือน มีฐานลูกค้าสะสมจำนวน 1.9 ล้านราย ซึ่งเป้าหมายปีนี้วาดหวังไว้ที่ 2 ล้านราย เชื่อมั่นว่าลูกค้ากลุ่มนี้เติบโตได้ต่อเนื่องจะเป็นไปในรูปแบบการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวาแบบระบบเหมาจ่าย และเชื่อมั่นว่าจะสามารถมียอดลูกค้าใหม่ได้ปีละ 5 แสนราย
“เดือน พ.ค. 2546 เป็นเดือนแรกที่ยอดลูกค้าระบบเหมาจ่าย เริ่มเป็นบวก เพราะเราคิดแตกต่าง เราออกบริการโทร.เท่าไหร่จ่ายเท่านั้นไม่มีเหมาจ่ายและยิ่งโทร.มากค่าโทร.ยิ่งถูกลง นั่นเป็นแคมเปญแรกที่เริ่มกระตุ้นยอดลูกค้า”
สันติเป็นคนหนึ่งที่มีความคิดนอกกรอบ ซึ่งตรงกับนโยบายให้อิสระในการตัดสินใจ ทำให้ กล้าเสี่ยง มากขึ้น ตั้งแต่ต้นมาจนถึงปัจจุบัน เขาจะต้องทำงานแข่งกับตัวเอง เพราะคู่แข่งในตลาดไม่ให้ความสนใจระบบเหมาจ่าย จึงออกแพกเกจมาน้อย ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สันติก็มีทางออกให้การแข่งขันกับตัวเองมีรสชาติ โดยการออกโปรโมชัน ที่ดีกว่าเดิมทุกครั้ง บนแนวคิดที่ลูกค้า คู่แข่ง รวมไปถึงผู้ที่ยังไม่มีโทรศัพท์ ต้องมีคำถามขึ้นมาว่า
‘คิดได้ยังไง’
ที่ผ่านมาสันติได้สร้างความแปลกใจต่อสายตาสื่อมวลชนมาหลายต่อหลายครั้ง และทุกครั้งต้องเกิดคำถามขึ้นในใจทุกคนที่ได้เห็นว่า ‘ทำได้ไง’ด้วยภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูขี้อาย แต่กับทำอะไรที่สุดๆ เคียงบ่าเคียงไหล่ CEO จนหน้าทึ่งไม่ว่าจะเป็นแปลงร่างเป็นหมอ อัศวินยุโรป เป็นสจ๊วต ฯลฯ
นั่นเป็นเพราะสันติ เชื่อว่าคนเราทำสิ่งที่ตัวเองคิดไม่ถึง ได้ดีถึง 10 เท่า
‘ประสบการณ์ที่สนุกและโชกโชนในดีแทค จะช่วยให้การผลักดัน wide ของผมให้เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ อินเทอร์เน็ตไร้สายของประเทศและเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นกาเริ่มต้นฝันที่รอวันเป็นจริงในอนาคตอันใกล้’
Company Related Links :
Wide