เอปสันตั้งเป้าเติบโตในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมประเทศไทยไว้ที่ 30% ภายในปีงบประมาณ 52/53 วางแผนเพิ่มเงินลงทุนในภูมิภาคอีก 2,300 ล้านบาท ภายใน 3 ปี เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าองค์กร ในไทย เดินหน้าแคมเปญ “BE THERE” บุกตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กร เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์องค์กรซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดรี-เอ็นจิเนียร์ ไมโคร ปิเอสโซ “เอปสัน สไตลัส ออฟฟิศ ซีรี่ส์” อิงค์เจ็ตพรินเตอร์ความเร็วเทียบเท่าเลเซอร์ หวังเติบโตในไทย 10% ชี้อิงค์เจ็ตเข้าแทนที่เลเซอร์พรินเตอร์มากขึ้นทุกวัน
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าววิเคราะห์สถานการณ์ตลาดไอทีในปีหน้าอันเนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์บ้านเมืองและปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันว่า ภาคธุรกิจอื่นอาจได้รับผลกระทบแต่ในตลาดไอทีแล้วมองว่ายังน่าจะมีการเติบโตได้อีกประมาณ 5-10% แม้ตลาดคอร์ปอเรต หรือองค์กรธุรกิจ แต่ตลาดที่ยังมีโอกาสคือธุรกิจภาครัฐและตลาดการศึกษาโดยเฉพาะการนำพรินเตอร์เข้าไปใช้การทำธุรกิจและการศึกษา ส่วนตลาดคอนซูเมอร์อาจหดตัวลงไปบ้าง โดยในมุมมองของผู้บริหารเอปสันคาดว่า ความนิยมใช้งานพรินเตอร์อิงค์เจ็ตจะได้รับความนิยมมากขึ้น และจะเข้ามาแทนที่เลเซอร์พรินเตอร์มากยิ่งขึ้น เพราะจากตัวเลขปัจจุบันตลาดรวมอิงค์เจ็ตประมาณ 1 ล้านเครื่อง ขณะที่เลเซอร์พรินเตอร์อยู่ประมาณ 2.3 แสนเครื่อง
“อิงค์เจ็ตกำลังเข้ามาแทนที่เลเซอร์พรินเตอร์มากขึ้นทุกวัน เนื่องจากประสิทธิภาพการใช้งานที่ให้คุณภาพงานพิมพ์ได้เทียบเท่าเลเซอร์พรินเตอร์”
นายนาโอยูกิ ซาเอกิ ประธานบริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่นเล็งเห็นศักยภาพกลุ่มลูกค้าองค์กรธุรกิจในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากทำการสำรวจตลาดและประสบความสำเร็จในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ธุรกิจใน สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอินเดีย โดยมั่นใจว่าเอปสัน ประเทศไทยจะประสบความสำเร็จในการบุกตลาดลูกค้าองค์กรเช่นเดียวกัน เนื่องจากกลุ่มลูกค้า SME และ SOHO ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงองค์กรภาครัฐและบริษัทขนาดใหญ่ก็มีการลงทุนด้านไอซีทีเพิ่มเติม เพื่อบริหารต้นทุน ลดค่าใช้จ่าย ซึ่งเอปสันตั้งเป้าเติบโตของภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้แก่ อินโดนีเซีย อินเดีย มาเลเซีย ฟิลิปินส์ สิงคโปร์ กลุ่มประเทศในอินโดไชน่า และประเทศไทย ไว้ที่ 30% ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2552/2553 โดยวางแผนจะเพิ่มเงินลงทุนในภูมิภาคอีก 2,300 ล้านบาท และเพิ่มบุคลากรด้านการบริการลูกค้าและการขายอีก 200 %ภายใน 3 ปี เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าองค์กร
นายยรรยงล่าวว่า เอปสันมีการเติบโตประมาณ 10% (เมษายน 08- มีนาคม 09) และคาดว่าในปีหน้าจะมีการเติบโตในระดับเดียวกัน โดยมีความพร้อมในการรองรับกลุ่มลูกค้าองค์กรด้วยการเทคโนโลยีไมโคร ปิเอสโซ เป็นจุดขาย
เทคโนโลยีไมโคร ปิเอสโซ ได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดหัวพิมพ์ที่มีความรวดเร็วและแม่นยำในการฉีดพ่นหมึก สามารถฉีดพ่นหยดหมึกที่มีขนาดเล็กเพียงหนึ่งในล้านล้านลิตรในอัตราสี่หมื่นครั้งต่อวินาที นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมปริมาณหยดหมึกให้สามารถหยดหมึกได้หลากหลายขนาดเพื่อให้ภาพมีความละเอียดคมชัดยิ่งขึ้น หมึกพิมพ์มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม แสงแดด อากาศ และความชื้น ให้ภาพที่สีสันสวยงามได้ยาวนานโดยไม่ซีดจาง และมีความสามารถในการประมวลผลสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยปริมาณของเหลว และคาร์บอนไดออกไซด์ที่ระบายทิ้งจากขั้นตอนการผลิตมีปริมาณน้อยมากเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม
เอปสันได้พัฒนาเทคโนโลยีไมโคร ปิเอสโซอย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่า 19 ปีจากการสำรวจความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก ล่าสุด เอปสันจึงได้พัฒนารีเอ็นจิเนียร์ ไมโคร ปิเอสโซ (Re-Engineered Micro Piezo) ให้มี 360 หัวพิมพ์ต่อสี 6 แถว จากเดิมมี 180 หัวพิมพ์ 4 แถว และเมื่อนำมาใช้กับบิสซิเนส อิงค์เจ็ต จึงทำให้สามารถพิมพ์งานได้รวดเร็วขึ้น
“ด้วยคุณสมบัติของหัวพิมพ์ที่มีขนาดเล็กจึงสามารถวางตำแหน่งการพิมพ์อย่างแม่นยำ ช่วยให้รูปทรงของหยดหมึกที่ถูกฉีดพ่นลงบนกระดาษไม่ฟุ้งกระจายหรือแตกเป็นจุดรอบๆ ทำให้คุณภาพของงานพิมพ์คมชัดเทียบเท่าเลเซอร์พรินเตอร์”
กลุ่มลูกค้าองค์กรซึ่งเอปสันจะให้ความสำคัญ เนื่องจากมีทิศทางการเติบโตสูง โดยเอปสันตั้งเป้าว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มลูกค้าองค์กรได้ 30% จากแคมเปญ “BE THERE” ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2551 สำหรับแผนการรุกตลาดที่วางไว้ จะทยอยแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เชื่อว่าจะโดนใจกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มออกมาเป็นระยะๆ
นายคณิน ธรรมภิบาลอุดม ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และการตลาดผลิตภัณฑ์ บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวโปรเจกเตอร์ 11 รุ่นภายใต้แคมเปญ “BE THERE” ล่าสุดเอปสันได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับลูกค้าองค์กรคือกลุ่ม เอปสัน สไตลัส ออฟฟิศ ซีรี่ส์ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ซิงเกิลฟังก์ชัน อิงค์เจ็ต Epson Stylus Office T30 สามารถพิมพ์งานได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับทุกงานพิมพ์ที่แต่ละองค์กรต้องการ นอกจากนี้ ยังมีคุณภาพคมชัด เทียบเท่ากับเลเซอร์พรินเตอร์ และช่วยให้องค์กรประหยัดต้นทุนการพิมพ์อีกด้วย เนื่องจากใช้หมึกสีแยกตลับ หมึกสีใดหมดเปลี่ยนสีนั้น
เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชั่น Epson Stylus Office TX300F สามารถพิมพ์ ถ่ายสำเนา สแกน และแฟกซ์ ช่วยให้แต่ละองค์กรทำงานได้สะดวก ง่ายดาย และช่วยทำให้ประหยัดเวลาในการดำเนินงาน ด้วยถาดป้อนกระดาษ ที่สามารถรองรับการส่งแฟกซ์ สำเนา และสแกนต่อเนื่องได้มากถึง 30 แผ่น
เครื่องพิมพ์ซิงเกิ้ลฟังก์ชั่น อิงค์เจ็ต ระบบการต่อเชื่อมไร้สาย Epson Stylus Office T40W โดยมีความเร็วพิมพ์เทียบเท่ากับเลเซอร์ สะดวกด้วยการเชื่อมเครือข่ายแบบไร้สาย ช่วยขจัดปัญหาความยุ่งยากในการเดินสายที่มีราคาแพง
ความสำคัญของเอปสัน สไตลัส ออฟฟิศ ซีรีส์ ใหม่ นอกจากการใช้หัวพิมพ์รีเอ็นจิเนียร์ ไมโคร ปิเอสโซจะทำให้งานพิมพ์มีความเร็วเทียบเท่าระดับเครื่องพิมพ์เลเซอร์แล้ว ยังช่วยประหยัดต้นทุน ลดความเสี่ยงในการบำรุงรักษาเครื่อง เนื่องจากความทนทานของเครื่อง นอกจากนี้ คุณสมบัติพิเศษของหมึกดูราไบต์ (Durabrite) ยังช่วยให้งานพิมพ์คมชัดทั้งสีและขาวดำ มีสีสดใส กันน้ำ แห้งเร็วไม่เลอะเปรอะเปื้อนหลังจากพิมพ์ ใช้พลังงานน้อยกว่าเลเซอร์พรินเตอร์ถึง 3 เท่า สามารถเปลี่ยนเฉพาะสีที่หมดด้วยตลับหมึกแบบแยกสี (InkdividualTM) และยังรองรับตลับหมึก Extra High Capacity จึงช่วยประหยัดในกรณีที่พิมพ์งานเป็นจำนวนมาก เหมาะกับกลุ่มธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อมโดยเอปสันตั้งเป้าว่าจะสามารถจำหน่ายบิสซิเนสอิงค์เจ็ตได้ ไม่ต่ำกว่า 5,000 เครื่องภายในสิ้นปีงบประมาณ 2551 นี้
Company Related Links :
EPSON
