ไอบีเอ็มส่งเซิร์ฟเวอร์เมนเฟรมสำหรับองค์กรธุรกิจเอสเอ็มอีลงตลาด สานต่อแนวคิดดาต้าเซ็นเตอร์องค์กรแห่งอนาคต
นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า ไอบีเอ็มได้นำซิสเต็ม ซี10 รุ่นบิสซิเนส คลาส (บีซี) ซึ่งเป็นเมนเฟรมรุ่นใหม่สำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี ออกสู่ตลาด เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเมนเฟรมของไอบีเอ็มในวงกว้างขึ้น โดยไม่จำกัดอยู่แค่ธุรกิจขนาดใหญ่อีกต่อไป
ผลิตภัณฑ์ที่ไอบีเอ็มเปิดตัวครั้งนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรสำหรับเอสเอ็มอี สามารถรองรับแอปพลิเคชันใหม่ๆ ช่วยให้องค์กรลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะด้านพลังงาน นอกจากนี้ ยังมีราคาย่อมเยา และมีขนาดเล็กกว่าเมนเฟรมรุ่นก่อนๆ พร้อมกันนี้ ยังสามารถผนวกรวมกับระบบเซิร์ฟเวอร์อื่นๆ เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ระดับองค์กรแห่งอนาคตด้วย
“สภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันทางธุรกิจในขณะนี้ องค์กรหลายแห่งจำต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนที่ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพความสามารถของการแข่งขัน และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งเราเห็นความท้าทายและความต้องการของลูกค้าตรงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องเผชิญการแข่งขันและความท้าทายรอบด้าน”
ผู้บริหารไอบีเอ็มเชื่อว่าซิสเต็ม ซี10 บีซีนี้จะสามารถตอบโจทย์ธุรกิจในกลุ่มเอสเอ็มอี และเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้พร้อมรับการแข่งขันในโลกไร้พรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสานต่อกลยุทธ์ไอบีเอ็มเกี่ยวกับแนวคิดดาต้าเซ็นเตอร์องค์กรแห่งอนาคต
สำหรับวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าว ไอบีเอ็มได้กำหนดยุทธศาสตร์ไว้ว่า 1.ใช้เทคโนโลยีให้เสมือนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งขั้นตอนนี้จะลดการเชื่อมโยงแอปพลิเคชัน ข้อมูล และระบบที่เกี่ยวข้องต่างๆ มาเป็นการปรับรูปแบบการจัดการระบบและทรัพยากรทางด้านไอทีให้เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจ 2.จัดการการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ 3.จัดการบริหารทางด้านไอทีที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจ 4.ระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อดำเนินธุรกิจอย่างราบรื่น ป้องกันปัญหาระบบล่มหรือข้อมูลสูญหายด้วยการควบรวมระบบดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งองค์กร และจัดการการรวมศูนย์ของระบบและข้อมูลขององค์กรขึ้นมาใหม่ 5.จัดการโครงสร้างพื้นฐานทางด้านข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ
จากการดำเนินการปรับวิธีคิดและแนวทางการจัดระบบตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ทำให้ลูกค้าหลายรายของไอบีเอ็มทั่วโลกประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ จากการปรับแนวทางตามขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้านไอทีที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว การใช้งานของทรัพยากรด้านไอทีทำได้รวดเร็วมากขึ้น ความสามารถในการลดความร้อนลงได้ถึง 60% และความสามารถในการลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 40%
ส่วนขั้นตอนการเข้าสู่ดาต้าเซ็นเตอร์องค์กรแห่งอนาคตให้กับองค์กรต่างๆ ประกอบด้วย 1.ลดความซับซ้อนของระบบ 2.จัดสรรทรัพยากรทางด้านไอทีให้ใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.ความยืดหยุ่น ซึ่งขั้นตอนนี้ทำให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการภายในให้สอดรับกับความต้องการทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างรวดเร็วได้เป็นอย่างดี
Company Related Links :
IBM
นายธนพงษ์ อิทธิสกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจคอมพิวเตอร์ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า ไอบีเอ็มได้นำซิสเต็ม ซี10 รุ่นบิสซิเนส คลาส (บีซี) ซึ่งเป็นเมนเฟรมรุ่นใหม่สำหรับองค์กรขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี ออกสู่ตลาด เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเมนเฟรมของไอบีเอ็มในวงกว้างขึ้น โดยไม่จำกัดอยู่แค่ธุรกิจขนาดใหญ่อีกต่อไป
ผลิตภัณฑ์ที่ไอบีเอ็มเปิดตัวครั้งนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรสำหรับเอสเอ็มอี สามารถรองรับแอปพลิเคชันใหม่ๆ ช่วยให้องค์กรลดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะด้านพลังงาน นอกจากนี้ ยังมีราคาย่อมเยา และมีขนาดเล็กกว่าเมนเฟรมรุ่นก่อนๆ พร้อมกันนี้ ยังสามารถผนวกรวมกับระบบเซิร์ฟเวอร์อื่นๆ เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ระดับองค์กรแห่งอนาคตด้วย
“สภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันทางธุรกิจในขณะนี้ องค์กรหลายแห่งจำต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนที่ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพความสามารถของการแข่งขัน และลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งเราเห็นความท้าทายและความต้องการของลูกค้าตรงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องเผชิญการแข่งขันและความท้าทายรอบด้าน”
ผู้บริหารไอบีเอ็มเชื่อว่าซิสเต็ม ซี10 บีซีนี้จะสามารถตอบโจทย์ธุรกิจในกลุ่มเอสเอ็มอี และเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บให้พร้อมรับการแข่งขันในโลกไร้พรมแดนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสานต่อกลยุทธ์ไอบีเอ็มเกี่ยวกับแนวคิดดาต้าเซ็นเตอร์องค์กรแห่งอนาคต
สำหรับวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวคิดดังกล่าว ไอบีเอ็มได้กำหนดยุทธศาสตร์ไว้ว่า 1.ใช้เทคโนโลยีให้เสมือนให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งขั้นตอนนี้จะลดการเชื่อมโยงแอปพลิเคชัน ข้อมูล และระบบที่เกี่ยวข้องต่างๆ มาเป็นการปรับรูปแบบการจัดการระบบและทรัพยากรทางด้านไอทีให้เอื้อต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อธุรกิจ 2.จัดการการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพ 3.จัดการบริหารทางด้านไอทีที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจ 4.ระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อดำเนินธุรกิจอย่างราบรื่น ป้องกันปัญหาระบบล่มหรือข้อมูลสูญหายด้วยการควบรวมระบบดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งองค์กร และจัดการการรวมศูนย์ของระบบและข้อมูลขององค์กรขึ้นมาใหม่ 5.จัดการโครงสร้างพื้นฐานทางด้านข้อมูลให้มีประสิทธิภาพ
จากการดำเนินการปรับวิธีคิดและแนวทางการจัดระบบตามยุทธศาสตร์ดังกล่าว ทำให้ลูกค้าหลายรายของไอบีเอ็มทั่วโลกประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ จากการปรับแนวทางตามขั้นตอนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสามารถในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรด้านไอทีที่เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว การใช้งานของทรัพยากรด้านไอทีทำได้รวดเร็วมากขึ้น ความสามารถในการลดความร้อนลงได้ถึง 60% และความสามารถในการลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 40%
ส่วนขั้นตอนการเข้าสู่ดาต้าเซ็นเตอร์องค์กรแห่งอนาคตให้กับองค์กรต่างๆ ประกอบด้วย 1.ลดความซับซ้อนของระบบ 2.จัดสรรทรัพยากรทางด้านไอทีให้ใช้งานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.ความยืดหยุ่น ซึ่งขั้นตอนนี้ทำให้องค์กรสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดการภายในให้สอดรับกับความต้องการทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างรวดเร็วได้เป็นอย่างดี
Company Related Links :
IBM
