ซิสโก้เผยไทยยังมีการใช้เม็ดเงินลงทุนด้านไอทีในภาคอุตสาหกรรมการผลิตอยู่ในอัตราต่ำเพียง 1.3 % น้อยกว่าสิงคโปร์ อเมริกาอยู่หลายช่วงตัว ชี้ประโยชน์ของการพัฒนาโซลูชันใหม่ภายใต้เน็ตเวิร์กแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลทุกส่วนงานเข้าด้วยกันจะช่วยเพิ่มศักยภาพการผลิต การขยาย ตลอดจนการบริการให้ธุรกิจได้อย่างมาก
มิส ลอเรน เวนทูรา ผู้อำนวยการอาวุโสการตลาดธุรกิจทั่วโลก บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ อิงค์ กล่าวว่า ความสำคัญของการทำธุรกิจในปัจจุบันการปรับตัวเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งประเทศไทยก็เช่นกันการพัฒนาเพื่อให้ทันความต้องการของตลาดตลอดจนการเข้าสู่มาตรฐาน ISO มีความสำคัญเช่นกันโดยเฉพาะในส่วนของภาคอุตสาหกรรมต้องมีการพัฒนาสู่การเชื่อมโยงทุกส่วนงานเข้าด้วยกัน การแยกงานแต่ละส่วนอย่างอิสระจากกันไม่เป็นผลดีกับองค์กรอีกต่อไป ทุกวันนี้หลายประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญการลงทุนด้านไอทีเชื่อให้เกิดการเชื่อมโยงทุกส่วนงานเข้าด้วยกันโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตโดยมีเน็ตเวิร์กเป็นแพลตฟอร์ม เพื่อให้ทุกส่วนงานสื่อสารข้อมูลกันได้แบบเรียลไทม์ ส่งผลดีกับธุรกิจในการตัดสินใจที่รวดเร็ว
จากตัวเลขการลงทุนด้านไอทีในอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยที่ผ่านมาพบว่ามีเพียง 1.3% ขณะที่สิงคโปร์อยู่ที่ตัวเลข 3% และสหรัฐอเมริกาที่ 8.2% แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับการนำโซลูชันที่ทันสมัยเข้ามาใช้ภาคอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทยยังน้อยมาก
“การที่แต่ละส่วนงานมีการแยกการทำงานกันอย่างเป็นอิสระโดยเฉพาะข้อมูลโดยไม่มีการสื่อสารกับส่วนงานอื่นๆในองค์กรเดียวกันหรือสื่อสารกับเครือข่ายเดียวกันแต่อยู่ต่างสถานที่จะทำให้เกิดข้อเสียเช่นเมื่อเกิดปัญหาระบบล้มจะไม่สามารถหาต้นตอหรือผู้รับผิดชอบได้ว่าเกิดจากส่วนไหน ใครจะเป็นผู้แก้ไข ในที่สุดจะส่งผลร้ายต่ออุตสาหกรรมที่ใช้กำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่าโรงงานส่วนใหญ่ 70% ของเม็ดเงินต้องเสียไปกับการบำรุงรักษา และมีเพียงแค่ 30% ที่ใช้ไปกับการลงทุนในการซื้ออุปกรณ์ใหม่ด้านไอที”
ผู้บริหารซิสโก้กล่าวว่า การเชื่อมต่อที่ทำให้หน่วยงานมองเห็นข้อมูลจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านการขายและการบริการอย่างสมบูรณ์เป็นเรื่องสำคัญจะทำให้โรงงานผลิตนั้นตอบสนองต่อความต้องการในตลาดและแข่งขันได้ดีขึ้น ทำให้หน่วยงานต่างๆ ประสานความร่วมมือกันได้ง่ายขึ้น
ในส่วนของซิสโก้ให้ความสำคัญกับการนำเสนอโซลูชันที่มุ่งตอบโจทย์เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเชื่อมโยงข้อมูลสื่อสารกันทุกส่วนงาน โดยซิสโก้รวมเหล่าโซลูชันของพันธมิตรซึ่งเป็นผู้นำในตลาดเอาไว้ด้วย เพื่อที่จะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถตอบสนองต่อตลาดและมีความสามารถทางการแข่งขันได้มากขึ้น การเชื่อมโยงข้อมูลทุกขั้นตอนการผลิตเข้าด้วยกัน จะช่วยให้องค์กรตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจของทุกกลุ่มเป้าหมายในห่วงโซ่การผลิตได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการของข้อมูลจากการวิจัยและพัฒนา ความต้องการข้อมูลจากในห่วงโซ่อุปทาน ความต้องการข้อมูลในภาคการผลิต การขาย และการบริการ
โซลูชันสำหรับการเชื่อมต่อในภาคการผลิตจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเร่งความเร็วในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดได้เร็วขึ้น จะช่วยให้องค์กรเข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งทำให้องค์กรสามารถตอบสนองความต้องการนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการพัฒนาการประสานความร่วมมือกับทีมงานและคู่ค้า โดยไม่สำคัญว่าทีมงานเหล่านี้จะอยู่ที่ใด เพราะการใช้การความสามารถทางการสื่อสารที่หลากหลาย จึงทำให้องค์กรเชื่อมต่อกันได้อย่างง่ายดาย และสามารถประชุมหรือทบทวนโครงการหรืองานต่างๆ ร่วมกันได้ข้ามระยะทางที่ห่างไกล รวมทั้งสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้แบบเรียลไทม์อย่างปลอดภัย
ด้วยโซลูชัน ซิสโก้ ยูนิฟายด์ คอมมูนิเคชั่นส์ โซลูชันการเชื่อมต่อแบบอีเทอร์เน็ตในอุตสาหกรรม และระบบไร้สายที่พัฒนาการสื่อสารระหว่างผู้ค้าวัตถุดิบในการผลิต คู่ค้า และลูกค้า ของซิสโก้องค์กรสามารถขยายขอบเขตการเข้าถึงและมองเห็นสต๊อกสินค้าทั้งหมดที่มีอยู่ช่วยลดปริมาณสินค้าคงคลังไม่ให้มีจำนวนมากเกินไป โดยซิสโก้ให้ความสำคัญกับการอ้างอิงอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็นเรียลไทม์ แทนที่จะตัดสินใจจากรายงานเป็นหน้ากระดาษ ซึ่งมักล่าช้าจากเหตุการณ์จริงไปเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน องค์กรจะสามารถเข้าถึงข้อมูลปัญหาสำคัญของผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันตัวจากปัญหาเหล่านั้นได้
ผู้บริหารซิสโก้ กล่าวว่า นอกจากโซลูชันที่ซิสโก้นำเสนอต่อลูกค้าแล้วซิสโก้มีการนำโซลูชันเหล่านี้มาใช้ในองค์กรเองด้วย โดยพบว่าทำให้ประหยัดในการเดินทางของพนักงานได้ถึง 180 ล้านเหรียญด้วยการใช้โซลูชันของซิสโก้เอง
อย่างไรก็ตาม จากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ส่งกระทบไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยด้วย ผู้บริหารซิสโก้กล่าวว่า องค์กรธุรกิจโดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำจะต้องมีการประหยัดการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ยิ่งจำเป็นต้องมองหาโซลูชันที่จะช่วยให้องค์กรเกิดการประหยัดเข้ามาใช้
ในปีที่ 2008 ผ่านมา ( ปีงบประมาณซิสโก้สิงหาคม 07 – กรกฏาคม 08) มีการเติบโตในตลาดภาคอุตสาหกรรมประมาณ 30% มาในปี 2009 (สิงหาคม 08-กรกฎาคม 09) ซิสโก้คาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 20% โดยไม่ได้มองว่าเป็นตัวเลขที่ลดลงแต่เป็นเพราะฐานตลาดขยายกว้างมากขึ้น และเพื่อเป็นการมองตลาดแบบถนอมตัวไว้ก่อน โดยผู้บริหารกล่าวว่าเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่สำคัญและเป็นฐานการผลิตด้านอุตสาหกรรมที่ใหญ่ และมีการเติบโตที่รวดเร็ว
Company Related Links :
Cisco