นอร์เทล หลบวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ มุ่งทำตลาดขยายมาร์เกตแชร์รายได้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เป็น 25 % จากเดิมทำได้แค่ 17 % ระบุยังมีความต้องการปรับปรุงอัพเกรดระบบเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่ ชี้ยังให้ความสำคัญกับประเทศไทยคาดปีนี้ตลาดรวมไอทีไทยโต 8 % มั่นใจนอร์เทลโตมากกว่าตลาดรวม
นายอารมณ์ พรประพันธ์ ผู้อำนวยการประจำประเทศไทย กลุ่มธุรกิจเครือข่ายสำหรับองค์กร บริษัท นอร์เทล เน็ทเวิร์คส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งลุกลามเข้าไปทั่วประเทศยุโรปส่งผลให้ตลาดในแถบอเมริกาเหนือ (Noth America) ที่ทำรายได้ถึง 52 % ลดลง นอร์เทลจึงหันมามุ่งเน้นทำการตลาดในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกเพื่อเพิ่มสัดส่วน จาก 17 % เป็น 25 % ในปีหน้า นอกจากนี้นอร์เทลมีสัดส่วนรายได้จากภูมิภาคยุโรป(EMEA) 25 % และCALA ประมาณ 6 %
อย่างไรก็ดีนอร์เทลเล็งเห็นว่าประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก แม้จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ด้วย แต่ก็ยังมีความต้องการลงทุนปรับปรุงโครงข่ายพื้นฐานอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศ จีน อินเดีย ที่มีตัวเลขการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“จากสภาวะเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐฯถดถอยส่งผลตลาดใหญ่ในแถบภูมิภาคอเมริกาเหนือ มีสัดส่วนน้อยลง และได้หันมามุ่งเน้นตลาดในเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากยังมีตลาดการลงทุนโครงข่ายเพื่อรองรับเทคโนโลยีใหม่อีกจำนวนมาก” นายอารมณ์ กล่าว
สำหรับในประเทศไทยนับเป็นอีกตลาดหนึ่งในเอเชียแปซิฟิกที่นอร์เทลให้ควาสนใจ ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดเป็นรองแค่ประเทศสิงคโปร์เท่านั้น สำหรับไทยในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวม 188 ล้านเหรียญฯ และปีนี้คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 8 % โดยตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ประเมินก่อนเกิดภาวะการเมืองไม่ปกติ ส่วนนอร์เทลนั้นคาดหวังว่าจะสามารถเติบโตได้มากกว่าตลาดรวม
นายอารมณ์ กล่าวต่อว่า แม้สภาวะเศรษฐกิจยจะชะลอตัวลง แต่ในภาคธุรกิจจะต้องมีการปรับปรุงตัวเองเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ส่วนลูกค้า SME ของนอร์เทลที่ผ่านมายังไม่พบปัญหาหนี้สูญเพราะส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอสเอ็มอีขนาดใหญ่ แต่ยอมรับว่างานภาครัฐมีจำนวนลดลงเพราะได้รับผลกระทบจากการเมือง ส่วนลูกค้าที่ยังมีความต้องการใช้ไอทีสูงคือกลุ่ม ธนาคาร เฮลธ์แคร์
“เดี๋ยวนี้เฉลี่ยอายุการทำงานอุปกรณ์ไอที มีอายุการใช้งานราว 3-5 ปี ซึ่งจะมีจำนวนผู้ประกอบการราว 20-30 % ที่ต้องมีการปรับปรุงโครงข่ายเพื่อให้สามารถแข่งขันในการทำธุรกิจได้” นายอารมณ์กล่าว
สำหรับโซลูชันที่นอร์เทลจะมุ่งเน้นในปีหน้า ได้แก่ UC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้พนักงานในบริษัทสามารถติดต่อภายในบริษัท และลูกค้าโดยไม่ต้องอยู่ประจำออฟฟิศ หรือ เดินทางออกพบลูกค้า ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทาง และส่งเสริม Wireless Mesh WLAN, Wimax fixed
นอกจากนี้ นอร์เทลยังให้ความสำคัญร่วมรณรงค์การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการมุ่งเน้นผลิตอุปกรณ์ประหยัดพลังงานเสนอให้ลูกค้า จากผลสำรวจ ของ The Tolly Group บริษัทกลางทำการสำรวจ และทดสอบการใช้พลังงาน ได้ทำการวัดผลกการทดสอบใช้พลังงาน Switch ปรากฏใช้พลังงานต่ำถึง 64 % ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานในการใช้อุปกรณ์ได้ถึง 40 %ต่อปี
Company Related Links :
Nortelnetworks
