ดิเอสไพเรอร์สกรุ้ป ประกาศกำหนดจัดงาน COMWORLD October 2008 กลางเดือนหน้า ตรงกับช่วงเปิดตัว Eee-PC เจเนอเรชัน 2 พอดี งานนี้อัสซุสบอกว่าจะนำ Eee-PC รุ่นใหญ่ขึ้น จุมากขึ้น และเร็วขึ้นมาโชว์แน่นอน หากพร้อมขายก็จะขายเลย ด้านผู้จัดงานมั่นใจ วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ไม่มีผลกับการจับจ่ายสินค้าไอทีของผู้บริโภคและ SME ชาวไทย เชื่อว่าการอั้นซื้อหลังการเว้นช่วงงานไอที 3 เดือน และการจัดงานช่วงปิดเทอมจะดันยอดเงินสะพัดในงานทะลุ 1,800 ล้านบาท
นายวิโรจน์ อัศวรังสี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิเอสไพเรอร์ส กรุ๊ป จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่ายอดเงินสะพัดในงานที่วางไว้ 1,800 ล้านบาทนั้นสูงกว่ายอดเงินสะพัดในงานครั้งที่แล้วเมื่อต้นปีที่ทำได้ 1,500 ล้านบาท ระบุว่าการจัดงานครั้งนั้นมีปัจจัยการเมืองทำให้ไม่สามารถทำยอดได้สูงเท่าที่ควร แต่สำหรับครั้งนี้เชื่อว่า 3 ปัจจัยร่วมจะทำให้ยอดเงินสะพัดในงานเพิ่มขึ้น
"หนึ่งคือฤดูกาลจัดงานที่ได้เปรียบ เราจัดหลังนักเรียนสอบเสร็จ ช่วงปิดเทอมพ่อแม่พาลูกมาซื้อเน็ตบุ๊กได้ ผมเชือว่าการศึกษาผลักดันให้พ่อแม่ลงทุนเรื่องเทคโนโลยีอยู่แล้ว สองคือเป็นช่วงที่เทคโนโลยีออกใหม่พอดี เป็นจังหวะที่ดีสำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะคนที่เดินจับจ่ายในพารากอนที่มักจะเลือกสินค้าจากเทคโนโลยีมากกว่าพิจารณาจากราคา และสามคือแพคเก็จโปรโมชันที่คุ้มค่าในงาน"
วิโรจน์เชื่อว่า ยอดซื้อในงานส่วนใหญ่จะอยู่ที่เน็ตบุ๊ก โน้ตบุ๊กรุ่นเล็กที่สร้างมาสำหรับการเล่นเน็ตเป็นหลัก โดยพรเทพ วัชรอำนวย ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ ประเทศไทย การันตีว่า เน็ตบุ๊กรุ่นที่สองจะปรากฎโฉมในงานแน่นอน
"เน็ตบุ๊กรุ่นที่สองของอัสซุสจะมีหน้าจอใหญ่ขึ้น จาก 8.9 นิ้วมาเป็น 10 นิ้ว จุข้อมูลได้มากขึ้นเพราะใช้หน่วยความจำทั้งฮาร์ดไดร์ฟและ SSD แบตเตอรี่นานขึ้น มีช่องให้ใส่ซิมการ์ดเพื่อให้ผู้ใช้เชื่อมต่อ GPRS และ 3G ได้ กลุ่มตลาดใหญ่ขึ้นและรองรับการใช้งานแบบเคลื่อนที่เต็มรูปแบบคิดว่าราคาเน็ตบุ๊กคงไม่ลงไปมากกว่านี้ แต่สเปกจะหลากหลายขึ้น All in one มากขึ้น กลางเดือนหน้าเราจะมี Global launch ของ Eee-PC รุ่นล่าสุด บางเบา สวย และมาพร้อม SSD เราจะนำมาโชว์ในงานนี้"
นอกจากเน็ตบุ๊ก พรเทพบอกว่าอัสซุสกำลังแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ Eee-PC ไปยังส่วนตลาดใหม่ ด้วยการนำเอาแพลตฟอร์ม Eee-PC มาประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์ความบันเทิงในบ้านที่หลากหลายขึ้น ซึ่งอาจจะมีผลิตภัณฑ์อื่นๆเปิดตามมาในนามตระกูล "Eee Family"
"ได้แก่ Eee-Monitor ที่มีตัวเครื่องกับหน้าจออยู่ในตัวเดียวกัน สามารถนำไปแขวนผนังบ้านได้ สามารถสั่งการด้วยการสัมผัสหน้าจอ และ Eee-Box พีซีบางมากไร้หน้าจอที่สามารถบูธเครื่องภายใน 5 วินาทีเพื่อเล่นแอปพลิเคชันออนไลน์เบาๆอย่างสไกป์"
เน็ตบุ๊กเป็นเพียงหนึ่งใน 4 เทคโนโลยีที่จะนำมาโชว์ในงานคอมเวิล์ดครั้งนี้ เทคโนโลยีอื่นๆคือ 1. Centrino 2 ชิปเซ็ตยุคที่ 2 จากอินเทลทีทำให้โน้ตบุ๊กสามารถทำงานร่วมกับแลนไร้สายได้ไกลขึ้น 2 เท่า และรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น 5 เท่า 2. มัลติทัชโฟนพีดีเอ ซึ่งกำลังกลายเป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ทำงานได้หลากหลาย และ 3. ระบบแบตเตอรี่ซึ่งมีการพัฒนาให้ประหยัดไฟมากขึ้น และการนำจอ LED มาใช้งานร่วมกับหน่วยความจำ SSD ให้โน้ตบุ๊กสามารถทำงานต่อเนื่องเกิน 18 ชั่วโมง
วิโรจน์เชื่อว่าคอมเวิล์ดจะช่วยกระตุ้นตลาดไอทีไทยท่ามกลางภาวะการเมืองที่ไม่แน่นอนและวิกฤติการณ์ด้านการเงินในสหรัฐฯได้สำเร็จ เพราะงานนี้จะเป็นงานไอทีแรกที่มีแคมเปญ Cash Back คืนเงินลูกค้า 10 เปอร์เซ็นต์เมื่อซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิต
***การเมืองมีผลกับตลาดคอนซูเมอร์มากกว่าวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
พรเทพให้ความเห็นในฐานะผู้จำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดผลระทบด้านลบที่สุดในตลาดคอนซูเมอร์ไทยคือเรื่องการเมือง
"แรงที่สุดคือเรื่องการเมือง ผู้บริโภคไม่รู้ว่าพรุ่งนี้การเมืองจะเป็นยังไง อย่างช่วงเสาร์อาทิตย์ที่ร้านค้าหวังว่าจะมีลูกค้าคึกคัก ปรากฎว่าผู้บริโภคหยุดซื้อไปเลย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง ยอดซื้อก็เพิ่มขึ้นมาใหม่"
พรเทพบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นแปลว่าผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้าไอที จะอย่างไรก็ยังซื้ออยู่ แต่ผลร้ายจะไปตกกับเจ้าของร้านที่มีสายป่านธุรกิจที่จำกัด ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลข้างเคียงโดยตรง
"ตลาดไม่ได้หดตัวแต่แค่ดึงลงไป พักหนึ่งก็ขึ้นมาใหม่เหมือนเดิมได้ คนจะซื้อก็ยังซื้ออยู่ แต่ผลข้างเคียงจะอยู่ที่เจ้าของร้าน พวกนี้ต้องมีค่าใช้จ่ายประจำอย่างค่าเช่าร้าน ค่าพนักงาน ซึ่งต้องลำบากหากไม่ได้จำหน่ายสินค้าตามที่เคยทำได้"
สำหรับงาน COMWORLD October 2008 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคมนี้ ที่รอยัลพารากอนฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 1,200,000 คน เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านบาท
Company Relate Link :
Comworld