เอชพีนำกลยุทธ์ Print 2.0 สู่ตลาด พร้อมจับมือบ้านใร่กาแฟทำการตลาดแบบใหม่ “Seasonal Marketing” ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ ให้ผู้บริโภคซื้อกาแฟบ้านใร่ รับสิทธิพิเศษซื้อเครื่องพิมพ์ HP OfficeJet ในราคาพิเศษ
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) หรือเอชพี กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ ได้นำเสนอกลยุทธ์ใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์แห่งอนาคตภายใต้ชื่อกลยุทธ์ Print 2.0 ไปแล้วนั้น ได้มีแคมเปญสนับสนุนการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวคือ “What do you have to say?” หรือ “มีอะไรอีก...ที่คุณต้องการ” เพื่อสื่อไปยังผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มผ่านการดำเนินกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มนั้นๆ โดยสะท้อนให้ผู้บริโภคเห็นถึงตัวอย่างของความสำเร็จจากประสบการณ์การพิมพ์แบบดิจิตอล ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้ เกิดการใช้งานโซลูชันการพิมพ์ดิจิตอลอย่างแพร่หลายมากขึ้น
ส่วนกลุ่ม SMB เอชพีได้นำ “บ้านใร่กาแฟ” เป็นตัวแทนของผู้ที่ประสบความสำเร็จ โดยเลือก “สายชล เพยาว์น้อย” ผู้ก่อตั้งธุรกิจบ้านใร่กาแฟ เป็นผู้สะท้อนประสบการณ์ของการพิมพ์ดิจิตอลที่นำไปสู่ประสิทธิผลทางด้านการตลาด โดยนำผลิตภัณฑ์กลุ่ม HP OfficeJet มาเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดประสบการณ์ดังกล่าว พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “What do you have to say?” สำหรับกลุ่ม SMB โดยให้สายชลเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จของการบริหารจัดการบ้านใร่กาแฟที่มีเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิตอลของเอชพีอยู่เบื้องหลัง รวมถึงชี้ให้เห็นประโยชน์ของเครื่องพิมพ์ HP OfficeJet ในด้านของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ความง่ายและสะดวกในการผลิตสื่อต่างๆ รวมทั้งการใช้ interactive web นำเสนอเรื่องราวเหล่านี้บนwww.hp.com/th/aioด้วย
นอกจากการนำ “บ้านใร่กาแฟ” เป็นตัวอย่างของความสำเร็จของกลุ่ม SMB แล้ว ยังมีความร่วมมือทางการตลาดอื่นๆ กับบ้านใร่กาแฟ ซึ่งเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าไปยังผู้บริโภคที่เป็นคอนซูเมอร์ทั่วไปด้วย ซึ่งผู้บริหารเอชพีเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในแง่ของ Brand Partnership ที่จะช่วยเสริมการรับรู้แบรนด์ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น ซึ่งจากคติของบ้านใร่กาแฟที่เน้นในเรื่องของการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นหลักโดยมุ่งเสริมศักยภาพของพนักงาน สอดคล้องเป็นอย่างดีกับผลิตภัณฑ์ OfficeJet ของเอชพีที่มุ่งในการเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการที่จะเพิ่มประสิทธิผลการทำงานของคนให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการทำกิจกรรมการตลาดร่วมกันในรูปแบบ Seasonal Marketing โดยเลือกใช้เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาของการเริ่มแคมเปญ เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีเทศกาลของการเดินทาง ทำให้เพิ่มโอกาสทางการตลาด ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้ตอบโจทย์ของเอชพีในส่วนของการขยายการรับรู้แบรนด์ในแง่ของ Geographic expansion โดยเฉพาะสาขาของบ้านใร่กาแฟที่กระจายอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในพื้นที่ที่เหมาะสมทั้ง 74 สาขาใน 18 จังหวัด ทั่วประเทศ และจะช่วยขยายฐานลูกค้าของเอชพีในเซกเมนต์ใหม่ๆ
ผู้บริหารเอชพีย้ำว่า กลยุทธ์ Print 2.0 ของเอชพีมีวัตถุประสงค์เพื่อนำประสบการณ์การพิมพ์ดิจิตอลไปสู่ผู้บริโภค สร้างความต้องการในตลาดให้มากขึ้น ซึ่งกิจกรรมการตลาดทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นถือเป็นการตอบสนองกลยุทธ์ดังกล่าว และคาดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์เอชพีให้กว้างขวางและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าของบ้านใร่กาแฟซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความต้องการทางด้านไอทีอยู่แล้ว แต่กิจกรรมการตลาด ที่ผ่านมาของเอชพีอาจจะเข้าไม่ถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ การทำ Co-branding ครั้งนี้ถือเป็นการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ของเอชพีด้วยเช่นกัน
ด้านนายสายชล เพยาว์น้อย ผู้ก่อตั้งธุรกิจบ้านใร่กาแฟ กล่าวว่า แคมเปญการตลาดต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ในครั้งนี้ เอชพีและบ้านใร่กาแฟได้ทำร่วมกันเพื่อขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น การทำ Co-branding บนแก้วกาแฟ การจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าของบ้านใร่กาแฟในการซื้อผลิตภัณฑ์ HP OfficeJet เป็นต้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.นี้ ที่บ้านใร่กาแฟทุกสาขา ซึ่งถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการที่บ้านใร่กาแฟ
Company Related Links :
HP
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) หรือเอชพี กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ ได้นำเสนอกลยุทธ์ใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการพิมพ์แห่งอนาคตภายใต้ชื่อกลยุทธ์ Print 2.0 ไปแล้วนั้น ได้มีแคมเปญสนับสนุนการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวคือ “What do you have to say?” หรือ “มีอะไรอีก...ที่คุณต้องการ” เพื่อสื่อไปยังผู้บริโภคในแต่ละกลุ่มผ่านการดำเนินกิจกรรมการตลาดในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มนั้นๆ โดยสะท้อนให้ผู้บริโภคเห็นถึงตัวอย่างของความสำเร็จจากประสบการณ์การพิมพ์แบบดิจิตอล ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจให้ เกิดการใช้งานโซลูชันการพิมพ์ดิจิตอลอย่างแพร่หลายมากขึ้น
ส่วนกลุ่ม SMB เอชพีได้นำ “บ้านใร่กาแฟ” เป็นตัวแทนของผู้ที่ประสบความสำเร็จ โดยเลือก “สายชล เพยาว์น้อย” ผู้ก่อตั้งธุรกิจบ้านใร่กาแฟ เป็นผู้สะท้อนประสบการณ์ของการพิมพ์ดิจิตอลที่นำไปสู่ประสิทธิผลทางด้านการตลาด โดยนำผลิตภัณฑ์กลุ่ม HP OfficeJet มาเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดประสบการณ์ดังกล่าว พร้อมเปิดตัวแคมเปญ “What do you have to say?” สำหรับกลุ่ม SMB โดยให้สายชลเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวความสำเร็จของการบริหารจัดการบ้านใร่กาแฟที่มีเทคโนโลยีการพิมพ์ดิจิตอลของเอชพีอยู่เบื้องหลัง รวมถึงชี้ให้เห็นประโยชน์ของเครื่องพิมพ์ HP OfficeJet ในด้านของการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ความง่ายและสะดวกในการผลิตสื่อต่างๆ รวมทั้งการใช้ interactive web นำเสนอเรื่องราวเหล่านี้บนwww.hp.com/th/aioด้วย
นอกจากการนำ “บ้านใร่กาแฟ” เป็นตัวอย่างของความสำเร็จของกลุ่ม SMB แล้ว ยังมีความร่วมมือทางการตลาดอื่นๆ กับบ้านใร่กาแฟ ซึ่งเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าไปยังผู้บริโภคที่เป็นคอนซูเมอร์ทั่วไปด้วย ซึ่งผู้บริหารเอชพีเชื่อว่าความร่วมมือดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในแง่ของ Brand Partnership ที่จะช่วยเสริมการรับรู้แบรนด์ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น ซึ่งจากคติของบ้านใร่กาแฟที่เน้นในเรื่องของการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเป็นหลักโดยมุ่งเสริมศักยภาพของพนักงาน สอดคล้องเป็นอย่างดีกับผลิตภัณฑ์ OfficeJet ของเอชพีที่มุ่งในการเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการที่จะเพิ่มประสิทธิผลการทำงานของคนให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการทำกิจกรรมการตลาดร่วมกันในรูปแบบ Seasonal Marketing โดยเลือกใช้เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาของการเริ่มแคมเปญ เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่มีเทศกาลของการเดินทาง ทำให้เพิ่มโอกาสทางการตลาด ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้ตอบโจทย์ของเอชพีในส่วนของการขยายการรับรู้แบรนด์ในแง่ของ Geographic expansion โดยเฉพาะสาขาของบ้านใร่กาแฟที่กระจายอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในพื้นที่ที่เหมาะสมทั้ง 74 สาขาใน 18 จังหวัด ทั่วประเทศ และจะช่วยขยายฐานลูกค้าของเอชพีในเซกเมนต์ใหม่ๆ
ผู้บริหารเอชพีย้ำว่า กลยุทธ์ Print 2.0 ของเอชพีมีวัตถุประสงค์เพื่อนำประสบการณ์การพิมพ์ดิจิตอลไปสู่ผู้บริโภค สร้างความต้องการในตลาดให้มากขึ้น ซึ่งกิจกรรมการตลาดทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นถือเป็นการตอบสนองกลยุทธ์ดังกล่าว และคาดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์เอชพีให้กว้างขวางและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าของบ้านใร่กาแฟซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความต้องการทางด้านไอทีอยู่แล้ว แต่กิจกรรมการตลาด ที่ผ่านมาของเอชพีอาจจะเข้าไม่ถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ การทำ Co-branding ครั้งนี้ถือเป็นการเข้าถึงตลาดใหม่ๆ ของเอชพีด้วยเช่นกัน
ด้านนายสายชล เพยาว์น้อย ผู้ก่อตั้งธุรกิจบ้านใร่กาแฟ กล่าวว่า แคมเปญการตลาดต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ในครั้งนี้ เอชพีและบ้านใร่กาแฟได้ทำร่วมกันเพื่อขยายการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เช่น การทำ Co-branding บนแก้วกาแฟ การจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าของบ้านใร่กาแฟในการซื้อผลิตภัณฑ์ HP OfficeJet เป็นต้น โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.นี้ ที่บ้านใร่กาแฟทุกสาขา ซึ่งถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการที่บ้านใร่กาแฟ
Company Related Links :
HP