เอไอเอสเตรียมเปิดบริการ 3G ที่เชียงใหม่แห่งแรกประเดิม 6 พ.ค. นี้ ตามด้วย กทม. 15 มิ.ย. ลั่นปลายปีให้บริการได้ทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวมือถือ 3 รุ่นรองรับบริการ 3G เผยเลือกเชียงใหม่เพราะเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 แต่บริการตลอดจนการเข้าถึง ADSL หรือบรอดแบนด์ทางสายยังน้อย ตั้งเป้าปลายปีมีลูกค้าใช้บริการไม่น้อยกว่า 8 หมื่นราย
นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสหรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสจะเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือ3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA ภายใต้แบนด์ 3 GSM advance โดยจะประเดิมให้บริการในจังหวัดเชียงใหม่เป็นพื้นที่แรกซึ่งจะเริ่มให้บริการในวันที่ 6 พ.ค.นี้
“สาเหตุที่เลือกให้บริการที่เชียงใหม่เป็นแห่งแรก เพราะเชียงใหม่เป็นจังหวัดใหญ่อันดับ 2 รองจากกทม. และมีจำนวนลูกค้าใช้งานประเภทดาต้าประจำจำนวน 3,800 ราย และไม่ประจำจำนวน 60,000 รายประกอบกับเชียงใหม่มี ADSL ใช้งานน้อยกว่ากรุงเทพฯ จึงมีความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตไร้สายเป็นอย่างมาก”
หลังจากนั้นเอไอเอสก็จะเปิดให้บริการ 3 GSM advance ในพื้นที่กทม.เป็นแห่งที่ 2 ในวันที่ 15 มิ.ย. โดยมีเป้าหมายให้บริการทั่วประเทศในปลายปีนี้ แต่จะยังไม่สามารถใช้บริการได้ทุกจังหวัด โดยจะใช้งานได้จำนวน 20 จังหวัดที่มีความต้องการใช้งานก่อนและคาดว่าจะมีผู้ใช้งานปลายปีนี้ 7-8 หมื่นราย
อย่างไรก็ดีในเบื้องต้นเอไอเอสได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือที่สามารถให้บริการ 3G ได้จำนวน 3 รุ่นรองรับการใช้งานระบบ 3G บนคลื่น 900 MHz ได้แก่ โนเกีย 6121 มีกล้อง 2 ตัว รองรับการใช้งาน 3Gได้ทั้งในย่านความถี่ 900 MHz และ 2.1 GHz , โฟนวัน TGM 602 และโฟนวัน 3G E500 โดยจะเปิดให้ลูกค้าที่มีความสนใจใช้งานสั่งจองเครื่องที่ร้านเทเลวิซและร้านสาขา ที่เชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 1-5 พ.ค.51 และกรุงเทพฯสั่งจองตั้งแต่วันที่ 1-14 มิ.ย.51 และคาดว่าจนถึงปลายปีจะมีมือถือ 3G ย่านความถี่ 900 MHz ออกมาวางจำหน่ายประมาณ 10 รุ่น
“3GSM advance เป็นระบบโทรศัพท์มือถือใน Generation ที่ 3 บนมาตรฐาน WCDMA (Wide Band CDMA) ที่คลื่นความถี่ 900 MHz หรือที่เรียกกันว่า 3G ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานรับ-ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง (HSPA) ขนาด 7,200 กิโลบิตต่อวินาที ซึ่งแตกต่างจาก GPRS หรือEDGE ปัจจุบันที่ให้ความเร็วเพียง 160 กิโลบิตต่อวินาทีหรือต่างกันถึง 45 เท่า ดังนั้นจึงทำให้สามารถให้บริการต่างๆได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก เช่น อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนมือถือ (High Speed Internet), โทรศัพท์แบบเห็นหน้า (Video Call) หรือ บริการดาวน์โหลดข้อมูลขนาดใหญ่ในลักษณะของ Video Clip, Video Streaming, Full Song, Music Video ซึ่ง 3GSM advance พร้อมที่จะเปิดให้บริการดังกล่าวทั้งหมด ส่วนค่าบริการยังอยู่ในอัตราเดิมกับเทคโนโลยี EDGE ส่วนบริการ ดาต้า เซอร์วิสหากต้องการรับส่งข้อมูลปริมาณมากกว่า 500 MB คิดราคาเพิ่ม 10 บาท/50 MB”
นายวิกรม ศรีประทักษ์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร เอไอเอส เปิดเผยว่า สำหรับงบประมาณในการติดตั้ง 3G ด้วยเทคโนโลยี HSPA ในปีนี้จะใช้งบประมาณ 600 ล้านบาทจากงบขยายเครือข่ายปีนี้ที่ตั้งไว้ 16,000 ล้านบาท โดยเงินดังกล่าวใช้สำหรับค่าแรงวิศวกรในการติดตั้งอุปกรณ์ ส่วนอุปกรณ์ที่จะนำมาติดตั้งนั้นเวนเดอร์ให้นำมาทดลองใช้จำนวน 4 ราย ได้แก่ หัวเว่ย อิริคสัน โนเกีย-ซีเมนส์ และเอ็นอีซี สำหรับพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่นั้น เอไอเอส ได้ติดตั้งอุปกรณ์ HSPA จำนวน 20 สถานีฐาน โดยอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้เป็นของหัวเว่ย
“สำหรับความเร็วของ 3G นั้นมีความเร็วสูงกว่าเทคโนโลยี EDGE ถึง 45 เท่าโดย EDGE มีความเร็ว 160 กิโลบิต/วินาที ในขณะที่ 3G มีความเร็วในการดาวน์โหลดข้อมูลสูงถึง 7,200 กิโลบิต/วินาที สำหรับความสามารถของคลื่นความถี่ 900 MHz ที่เด่นกว่าคลื่นความถี่อื่นคือมีความสามารถในการส่งสัญญาณได้ไกลเหมาะแก่การขยายเครือข่ายในต่างจังหวัด”
Company Related Links :
AIS