เอ็มเอสเอ็น เผยผลสำรวจทางออนไลน์พบ ร้อยละ 3 ใช้กล้องถ่ายภาพประเภทฟิล์ม อีกกว่า ร้อยละ 90 ใช้กล้องดิจิตอลในการถ่ายภาพ ในจำนวนของผู้ถ่ายภาพทั้งหมด ร้อยละ 80 รู้สึกสบายใจในการอัปโหลดภาพถ่ายขึ้นสู่ออนไลน์ แต่จะสบายใจยิ่งขึ้นเมื่อได้กรองคนเข้าชมก่อน นอกจากนี้ยังพบเทรนด์การใช้มือถือถ่ายภาพเพิ่มขึ้น โดยร้อยละ 43 เคยถ่ายภาพคนดังด้วยกล้องมือถือ
เอ็มเอสเอ็น ประเทศไทย จัดทำผลสำรวจทางออนไลน์เมื่อเดือนธันวาคม 2550 ถึงมกราคม 2551 ที่ผ่านมา เกี่ยวกับพฤติกรรมการถ่ายภาพดิจิตอล ทำให้ได้รู้ข้อมูลที่น่าสนใจว่าคนไทยหันไปสนใจการถ่ายภาพดิจิตอลมากขนาดไหน และพวกเขารู้สึกอย่างไรกับการแบ่งปันภาพถ่ายออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์เครือข่ายชุมชนออนไลน์
ผลปรากฎว่าพบเพียงแค่ร้อยละ 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนทั้งหมด 1,271 คน บอกว่ายังคงใช้กล้องถ่ายภาพแบบดั้งเดิมหรือแบบที่ไม่ใช่ดิจิตอล ซึ่งใช้กล้องฟิล์มแบบ 35 มิลลิเมตร เป็นอุปกรณ์หลักในการถ่ายภาพของพวกเขา ในขณะที่ร้อยละ 93 ใช้กล้องดิจิตอลหรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการถ่ายภาพช่วงเวลาที่ประทับใจ โดยเหตุผลที่ผู้ตอบแบบสอบถามเลือกใช้กล้องดิจิตอล ร้อยละ 33 เพราะความง่ายในการใช้ ร้อยละ 28 ความง่ายในการเชื่อมต่อกับสื่ออื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ และเว็บไซต์เครือข่ายชุมชนออนไลน์
ผลสำรวจนี้ยังพบเทรนด์ที่น่าสนใจในการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ถ่ายภาพเพิ่มมากขึ้น โดยร้อยละ 28 ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอุปกรณ์หลักในการถ่ายภาพ และร้อยละ 43 ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าเคยถ่ายภาพบุคคลที่มีชื่อเสียงด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่
ต้องกรองคนดูได้
จากกระแสความนิยมของเว็บไซต์เครือข่ายชุมชนออนไลน์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ทำให้ไม่น่าแปลกใจเลยที่จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 64 บอกว่าเคยอัปโหลดภาพถ่ายลงบนเว็บไซต์เครือข่ายชุมชนออนไลน์ และเป็นที่น่าสนใจว่า ร้อยละ 44 ของผู้ตอบแบบสอบถามเคย อัปโหลดภาพถ่ายลงบนเว็บไซต์ที่สามารถดูได้อย่างสาธารณะ
เมื่อถามว่าพวกเขารู้สึกสะดวกใจในการแบ่งปันภาพถ่ายออนไลน์หรือไม่นั้น ร้อยละ 80 ของผู้ตอบแบบสอบถามตอบว่าสะดวกใจ แต่ร้อยละ 53 ของคนจำนวนนี้บอกว่าจะรู้สึกสะดวกใจในการแบ่งปันภาพถ่าย ถ้าพวกเขาสามารถกำหนดได้ว่าใครบ้างที่จะเข้ามาดูภาพถ่ายได้ โดยผ่านทางการตั้งระบบอนุญาตและความเป็นส่วนตัว (Permission and privacy settings)
นางกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ไมโครซอฟท์ ดิจิตอล แอดเวอร์ไทซิ่ง โซลูชั่นส์ กล่าวว่า คนส่วนมากจะแบ่งปันภาพถ่ายถ้าพวกเขาสามารถควบคุมคนที่จะเข้ามาดูภาพของพวกเขาได้ อย่างบน Windows Live Spaces ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการสร้างบล็อกและเครือข่ายชุมชนออนไลน์ ความปลอดภัยของผู้ใช้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถระบุได้ว่าใครบ้างที่พวกเขาต้องการให้เข้ามาดูเนื้อหาและภาพถ่าย
"เห็นได้ชัดว่าผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนมากเห็นด้วยว่าการอัปโหลดและแบ่งปันภาพถ่ายออนไลน์นั้น ให้ประโยชน์มากมายหลายอย่าง แต่ทั้งนี้การแบ่งปันจะขึ้นอยู่กับผู้ใช้ที่ให้ความใส่ใจ อาจจะเป็นครอบครัว เพื่อนๆ หรือสาธารณชน ตามแต่ผู้ใช้ที่จะแบ่งปันให้"
ภาพถ่ายเพิ่มขึ้นทวีคูณ
เมื่อถามว่าพวกเขาถ่ายภาพมากเท่าไรในปัจจุบันเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว ร้อยละ 82 ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าพวกเขาถ่ายภาพเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนถึง 2 เท่า โดยร้อยละ 20 บอกว่าพวกเขาถ่ายภาพเพิ่มมากขึ้นถึง 5 เท่า เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน
นายกันต์ สุสังกรกาญจน์ ช่างภาพมืออาชีพและอาจารย์ประจำวิชาถ่ายภาพ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวว่า กล้องดิจิตอลเป็นกล้องที่ได้รับความนิยมมากสุด ทำให้ผู้คนถ่ายภาพเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน สิ่งที่ทำให้เกิดความท้าทายในแง่ของการจัดการภาพถ่ายจำนวนมหาศาลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ได้นั้น คือแอปพลิเคชันการจัดการภาพถ่าย
"ยกตัวอย่าง Windows Live Photo Gallery ที่ทำให้สามารถจัดเก็บภาพถ่ายได้ง่ายมากขึ้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน นอกจากนี้ โปรแกรมยังสามารถอัปโหลดรูปภาพขึ้นสู่ออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย เพื่อแบ่งปันภาพถ่ายบนเว็บไซต์ อย่าง Windows Live Spaces และFlickr”
Company Related Links :
MSN Thailand