TNIS ยกเครื่องปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่จัดกลุ่มชัดเจน เอ็นเตอร์ไพรซ์ การธนาคารและการเงิน บริการด้านไอทีหวังเพิ่มความคล่องตัวเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่ม พร้อมแนะนำผู้บริหารใหม่ไฟแรง 3 คนช่วยดันธุรกิจขับเคลื่อนตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1,600 ล้านบาท
นายวิกรม ชัยสินธพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เอ็น.อินฟอร์เมชั่น ซิสเท็มส์ จำกัด หรือ TNIS เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับปรุงโครงสร้างบริษัทใหม่โดยแบ่งส่วนธุรกิจออกเป็น 3 ส่วนคือ กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ กลุ่มธุรกิจธนาคารและการเงิน กลุ่มธุรกิจบริการด้านไอที ซึ่งแต่ละส่วนแยกผู้บริหารและทีมงานออกจากกันชัดเจนเพื่อเพิ่มความคล่องตัว โดยทั้ง 3 บริษัทจะมีผู้บริหารใหม่ 3 คนเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ทั้งหมดประกอบด้วยนายอัศวิน วราทร ประธานกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ นายชาย แต่บรรพกุล ประธานกลุ่มธนาคารและการเงิน นายวรพจน์ ธีระพรกุล ประธานกลุ่มธุรกิจบริการไอที
ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ประมาณ 1,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านที่มีรายได้ประมาณ 1,350 ล้านบาท โดยรายได้ในปีนี้แบ่งเป็นรายได้จากส่วนธุรกิจ ธนาคารและการเงินประมาณ 800 ล้านบาท ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ ประมาณ 800 ล้านบาท ส่วนธุรกิจบริการด้านไอทียังไม่สามารถประมาณการรายได้ได้เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ต้องลงทุนจำนวนมาก
นายอัศวินกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์สร้างรายได้ให้กับกลุ่มฯราว 500 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาธุรกิจนี้ได้รับผลกระทบการจากเปลี่ยนถ่ายรัฐบาลแต่ในปีนี้คาดว่างานภาครัฐจะมีการเปิดประมูลตามปกติเนื่องจากรัฐบาลมีความชัดเจนแล้ว โดยในปีนี้มีงานวางระบบบริหารจัดการ หรือ ERP ของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง
“เราตั้งเป้าว่าธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ปีนี้จะสามารถเติบโตตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศภายหลังจากเกิดความชัดเจนทางการเมือง ทำให้โครงการของภาครัฐมีความชัดเจนแน่นอนมากขึ้นด้วย”
ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์จะรับผิดชอบให้บริการคำปรึกษา ออกแบบ วางระบบงานบริหารยุทธศาสตร์ และการจัดการทรัพยากร เพื่อสนองความต้องการและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าดำเนินการได้ง่ายขึ้น โดยจะรับดำเนินการให้กับหน่วยงานทั้งหน่วยภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน
นายชาย กล่าวว่า ในกลุ่มธุรกิจธนาคารและการเงิน ในปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรเข้าไปดำเนินการให้บริการในกลุ่มธุรกิจเช่าซื้อ(ลีสซิ่ง) ธุรกิจประกันภัย นอกจากนี้ยังมีแผนร่วมกับพันธมิตรเข้าไปให้บริการในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้เข้าไปให้บริการในประเทศ จีน เบลเยี่ยม ฟิลิปปินส์ และกำลังขยายเข้าไปสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังจะมีการเพิ่มการทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิดด้วยการส่งทีมที่ปรึกษาเข้าไปทำงานร่วมกับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ
ด้านนายวรพจน์กล่าวว่า ในส่วนงานธุรกิจบริการด้านไอทีในปีนี้ยังไม่มีการตั้งประมาณการรายได้เอาไว้ เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ต้องใช้การลงทุนสูงมาก ซึ่งคาดว่าต้องใช้ระยะเวลา 2-3 ปีถึงจะสามารถคุ้มทุนได้ โดยการลงทุนดังกล่าวจะเป็นการลงทุนในส่วนของการจัดหาทีมเซลเพิ่มเติม รวมไปถึงงบประมาณสำหรับการลงทุนด้านการตลาด ส่วนแผนการดำเนินการของธุรกิจบริการไอทีนั้นจะเน้นขยายเข้าไปในกลุ่มลูกSME เนื่องจากเป็นตลาดขนาดใหญ่ซึ่งมีอยู่ประมาณ 8 แสนราย ประกอบกับผู้ประกอบการกลุ่มนี้ต้องการระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
Company Related Links :
TNIS