รมว.ไอซีทีใหม่ หมายมั่นปั้นมือปรับสัมปทาน WIN-WIN ระหว่างรัฐ-เอกชน ระบุเตรียมความรู้ด้านกฎหมายช่วยแก่ปมข้อพิพาททีโอที-กสท เต็มที่ รับลูกเข็นทีโอที-กสท เข้าตลาดหลักทรัพย์ต่อ ขอความร่วมมือหน่วยงานในสังกัดดันไทยล้ำหน้าเขมร เท่ามาเลเชีย สิงคโปร์ “กิติพงษ์”เสนอไกล่เกลี่ยข้อพิพาท เอซี “พิศาล” อ้อนรมว.จับเข่าคุยลดค่าไลเซนส์ ด้านบอร์ดกสท ยอมไขก๊อกลาออกแล้ว
นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยหลังจากเข้ารับตำแหน่งวันแรกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลสัญญาสัมปทานของหน่วยงานในสังกัดเบื้องต้นพบว่ามีสัญญาสัมปทานบ้างฉบับที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงอย่างบริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน)เสียเปรียบ ส่งผลให้รายได้วิสาหกิจกำไรลดลงในขณะที่ผู้ประกอบการมีผลการดำเนินงานที่ดีมากขึ้น
ทั้งนี้จะมีการนัดหารือระหว่างหน่วยงานรัฐวิสาหกิจกับผู้ประกอบการเอกชน ปรับสัญญาสัมปทานให้เป็นไปในลักษณะเกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย โดยการปรับสัญญาสัมปทานดังกล่าวจะดำเนินการบนบรรทัดฐานให้รัฐวิสาหกิจอยู่ได้ ส่วนเอกชนก็สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้เพราะการพัฒนาไอซีทีของประเทศทั้งในอดีตและอนาคตยังต้องอาศัยการขับเคลื่อนโดยเอกชนเป็นตัวหนุน เนื่องจากเอกชนมีเงินลงทุนและความคล่องตัวในการดำเนินการต่างๆมากกว่าภาครัฐ
“ด้วยความที่ผมเป็นนักกฏหมายเชื่อได้ว่าผมจะใช้ความรู้ความสามารถด้านกฎหมายช่วยหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดได้ไม่มากก็น้อยทั้งในเรื่องการปรับสัญญาสัมปทานให้เป็นธรรมกับรัฐวิสาหกิจและผู้ประกอบการ รวมไปถึงคดีความต่างๆที่รัฐวิสาหกิจในสังกัดมีอยู่โดยคดีใดอยู่ในศาลก็คงต้องให้ดำเนินการต่อไป แต่เรื่องที่สามารถเจรจารอมชอมกันได้ผมก็พร้อมจะดำเนินการ”นายมั่นกล่าว
อย่างไรก็ดีส่วนการแปรรูป ทีโอที และกสท นั้นจะต้องดำเนินการต่อไป เนื่องจากรัฐวิสาหกิจ ที่แปรรูปไปแล้วไม่สามารถ ยกเลิกได้ และการแปรรุปจะต้องผลักดัน ทีโอที และกสท.เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
นายมั่นกล่าวต่อว่ากรณีบอร์ดชุดเดิมของรัฐวิสาหกิจในสังกัด ทีโอที กสท ไปรษณีย์ไทย ซิป้า หากยังมีความประสงค์จะปฎิบัติหน้าที่ต่อให้เข้ามาพูดคุยกับตน แต่หากใครจะลาออกจากการเป็นบอร์ดก็ขอให้จากลากันแบบพี่น้อง
นอกจากนี้ด้วยความที่ตนเป็นนักการเมืองมืออาชีพไม่มีความสัมพันธ์กับพ่อค้ากลุ่มใดจึงเชื่อมั่นได้ว่าการดำเนินการใดจะยึดผลประโยชน์โดยรวมเป็นหลักไม่เข้าข้างใคร โดยจะนำความรู้ด้านกฎหมายมาช่วยเหลือทีโอทีและกสท ได้ แต่ด้วยความที่ตนเป็นนักกฎหมายและนักเศรษฐศาสตร์ แต่ไม่ใช่วิศวกรไม่มีความรู้ด้านไอซีที โทรคมนาคมมากนักจึงจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความสามารถของคนหน่วยงานในสังกัดช่วยเสริม
“แม้ผมจะไม่ใช่วิศวกรที่มีความรู้ด้านไอซีที โทรคมนาคม ก็มั่นใจว่าคนในหน่วยงานในสังกัดจะช่วยเหลือ อีกทั้งยังสามารถปรึกษาหารือกับน.พ.สุรพงษ์ สืบวงค์ลี รมว.คลัง นายสุวิทย์ คุณกิติ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งรมว.ไอซีทีมาก่อนค่อยเป็นพี่เลี้ยงได้ ซึ่งได้ว่าผมเข้ามาในจังหวะที่ดี”นายมั่นกล่าว
ทั้งนี้ในช่วงที่ตนอยู่ในตำแหน่งอยากให้หน่วยงานในสังกัดช่วยกันทำงานและผลักดันให้ไอซีทีของประเทศพัฒนานำหน้าประเทศกัมพูชา และต้องไม่น้อยหน้าประเทศมาเลเชีย รวมทั้งสามารถแข่งขันกับประเทศสิงคโปร์ ได้ด้วย
นายมั่นกล่าวต่อว่า ในส่วนโยบายทางด้านไอซีทีของพรรคเพื่อแผ่นดิน นั้นนายสุวิทย์ ได้ร่างสิ่งที่ต้องทำไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะนำนโยบายดังกล่าวไปเสนอรวมกับนโยบายรัฐบาลหลักที่อยู่ระหว่างร่างคาดว่านโยบายหลักรัฐบาลจะแล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์หลังจากนั้นจึงจะสามารถเปิดเผยนโยบายที่กระทรวงจะดำเนินการ
ทีโอทีเสนอรมว.ไกล่เกลียข้อพิพาทเอซี
นายกิตติพงศ์ เตมียะประดิษฐ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทีโอที เปิดเผยว่า ปัจจุบันทีโอที และกสท มีข้อพิพาทระหว่างกันเรื่อง แอ็คเซ็สชาร์จ หรือ เอซี ที่ไม่สามารถตกลงกันได้จึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องผลักดันให้มีการขายหุ้นกิจการร่วมค้าไทยโมบายเพื่ออัพเกรดระบบให้บริการ 3 G โดยกสท ได้เสนอข้อเสนอขายหุ้นจำนวน 42 %เบื้องต้นที่ราคา 2,400 ล้านบาทมาเมื่อปลายปี 2550
กสท.เสนอไอซีทีขอกทช.ลดค่าไลเซนส์
นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการ กสทฯ กล่าวว่า อยากให้รมว.ไอซีที หารือ กับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม หรือ กทช.ปรับลดค่าในอนุญาตซึ่งอยู่ในระดับที่สูงคือ 3 % ของรายได้ โดยต้นทุนดังกล่าวเป็นต้นทุนที่สูงและถูกผลัดไปให้ผู้บริโภครับผิดชอบ โดยการปรับลดใบอนุญาตจะช่วยให้ต้นทุนค่าบริการโทรคมนาคมสูง ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการโทรคมนาคมง่ายขึ้น ทั้งนี้ยังอยากให้มีการผลักดันให้ระบบโทรคมนาคมทันสมัยเทียบเท่าสากลเพื่อสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้โดยขณะนี้ประเทศไทยมีการพัฒนาการด้านไอซีทีล่าช้ากว่าประเวียดนามแล้ว
บอร์ดกสท.ไขก๊อกลาออกยกชุด
พล.อ.ต.พิริยะ ศิริบุญ โฆษกคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท กล่าวว่า พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ ประธานบอร์ดได้มอบนโยบายว่าหากบอร์ดท่านใดต้องการลาออกก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยขณะนี้ประธานบอร์ดและตนได้เขียนใบลาออกแล้วและจะมีผลในวันที่ 8 ก.พ.นี้ ส่วนบอร์ดท่านอื่นนั้นตนก็คาดว่าจะลาออกเช่นเดียวกัน เนื่องจากการลาออกจากการเป็นบอร์ดในครั้งนี้เป็นการลาออกตามมารยาทเพราะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำหน้าที่แล้ว
Company Related Links :
ICT