xs
xsm
sm
md
lg

ปี51 อินเตอร์ลิ้งค์เน้น"ธุรกิจ-ตลาด-คน"โตยั่งยืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อินเตอร์ลิ้งค์ประกาศนโยบายธุรกิจปี 51 มุ่งเติบโตต่อเนื่องและยั่งยืน พัฒนาทั้งธุรกิจ ตลาด บุคลากร พร้อมขยายฐานธุรกิจให้ครอบคลุมเคเบิลทุกประเภทไม่จำกัดแค่ไอที และขยายตลาดไปต่างจังหวัดมากขึ้น ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปีนี้ไว้ที่ 1,080 ล้านบาท

นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจรอบปีนี้ว่า สิ่งที่อินเตอร์ลิ้งจะทำคือเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจข่ายสายเคเบิล ด้วยวิสัยทัศน์คือการเป็นผู้จัดจำหน่ายอันดับหนึ่งในธุรกิจสัญญาณคอมพิวเตอร์และการสื่อสารโทรคมนาคมตลอดไป นอกจากนี้ ยังจะเป็นผู้วางระบบวิศวกรรมไฟเบอร์ ออปติกที่เชี่ยวชาญและใหญ่ที่สุดของประเทศ รวมถึงการเป็นผู้บุกเบิกเทคโนโลยีและวางระบบข่ายสายทุกชนิด

ส่วนนโยบายซึ่งเป็นยุทธศาสตร์รอบปี 2551 ของอินเตอร์ลิ้งค์คือ 1.เติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน พัฒนาธุรกิจ พัฒนาตลาดโดยการให้ความรู้ และพัฒนาบุคลการเพื่อรองรับการขยายธุรกิจ 2.ขยายธุรกิจให้ครอบคลุมประเภทของสายเคเบิลทุกชนิดไม่จำกัดแค่ไอที 3.รักษาความเป็นอันดับหนึ่งในธุรกิจสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสาร 4.ขยายตลาดและโอกาสทางธุรกิจ อีกทั้งขยายตลาดในต่างจังหวัดให้กว้างขวางและจริงจัง 5.ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นทั้งภาครเอกชน ภาครัฐ และกลุ่มพิเศษต่างๆ โดยรักษาลูกค้าที่ดีไว้ตลอด 6.ขยายธุรกิจข่ายสายที่เน้นความชำนาญ ความเชี่ยวชาญพิเศษ และความรับผิดชอบสูง 7.ทุ่มเทกับโครงการวิศวกรรมที่มีโอกาสและมีความได้เปรียบสูง 8.ยกระดับการจัดการขององค์กรโดยการพัฒนาบุคลากรทุกระดับ 9.บริการด้วยความซื่อสัตย์ ตรงเวลา และรับผิดชอบ

สำหรับการดำเนินธุรกิจของอินเตอร์ลิ้งค์ประกอบด้วย ธุรกิจดิสทริบิวชัน ที่นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์และสื่อสาร ธุรกิจวิศวกรรมวางระบบเครือข่ายและสายไฟเบอร์ออปติก โดยมีบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอมดำเนินการด้านการวิจัยและสำรวจตลาด

“ดิสทริบิวชันเป็นธุรกิจที่มีรายได้แน่นอน วิศกรรมเป็นธุรกิจที่มีรายได้หวือหวา ส่วนการคิดค้นต้องเป็นอินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม คือเรามีธุรกิจแบบ 3 อิน 1”

นางสาวขวัญตา นิ่งเต็ม ผู้อำนวยการธุรกิจจัดจำหน่าย กล่าวว่า ในส่วนของดิสทริบิวชันอินเตอร์จะจำหน่ายมีกลยุทธ์หลักปีนี้จะเน้น 3 ส่วนคือ 1.New Potential Markets โดยโฟกัสไปที่ตลาดการเงินและการลงทุน ตลาดผู้ค้าตู้สาขาโทรศัพท์ (PABX) 2.New Product โดยการจำหน่าย UTP Cat 6A (10G Ethernet), ไฟเบอร์ทั้งเอาต์ดอร์และอินดอร์, ซีซีทีวี เคเบิล, ซีซีทีวี มีเดีย คอนเวอร์เทอร์ และเทเลคอม โปรดักส์ 3.New Branch นอกจากจะมีสาขาอยู่ที่เชียงใหม่และหาดใหญ่แล้ว จะเปิดสาขาใหม่ที่จังหวัดขอนแก่นในวันที่ 1 ก.พ.นี้

ด้านนายอดิศักดิ์ เองมหัสกุล ผู้อำนวยการธุรกิจวิศวกรรม กล่าวว่า ในสายงานธุรกิจนี้มีจุดแข็งคือ 1.มีทีมงานวิศวกรรมที่มีความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ในการบริหารงานโครงการขนาดใหญ่ให้ประสบผลสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการจัดทำ ESTIMATE SHEET เพื่อควบคุมต้นทุนในการบริหารโครงการ และยังมีทีมงานวิศวกรที่สนับสนุนด้านเทคนิคระบบข่ายสายสัญญาณให้แก่ลูกค้าทั่วประเทศ 2.มีทีมงานช่างเทคนิคและติดตั้งที่มีความรู้ความชำนาญ และประสบการณ์ในการ Terminate และ Testing เป็นของตัวเอง เพื่อสนับสนุนการขายอีกทางด้วย

3.มีเครื่องมือทดสอบประสิทธิภาพเป็นของตัวเอง 4.มีทีมงาน Bidding เพื่อเสนองานประมูลที่มีคุณภาพ เตรียมพร้อมตลอดเวลา เพื่อเสนองานประมูลโครงการตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป 5.มีการสนับสนุนด้านการเงินที่แข็งแกร่งจากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ, เครดิต ไลน์ จากธนาคาร, การจ่ายเงินตรงตามกำหนด จึงทำให้มีอำนาจในการต่อรองด้านราคาสินค้าที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในโครงการ และค่าแรงในการติดตั้งโครงการได้เป็นอย่างดี

ส่วนโอกาสทางธุรกิจของธุรกิจกลุ่มนี้คือ 1.สามารถต่อรองด้านราคาสินค้า/บริการจากคู่ค้าและพันธมิตรที่มีศักยภาพได้ราคาต่ำสุด เพื่อชนะคู่แข่งขันได้ 2.มีความแตกต่างของสินค้าและบริการโดยรู้ความต้องการของลูกค้าให้การแนะนำประโยชน์ของสินค้า วิธีใช้และเสนอทางเลือกต่างๆ ให้ลูกค้า 3.มีโอกาสขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงกลุ่มพิเศษต่างๆ 4.สามารถขยายและเจาะจงธุรกิจที่ต้องการความชำนาญ ความเชื่อมั่น ความเชี่ยวชาญ และความรับผิดชอบสูง 5.บริษัทมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของผู้ว่างจ้าง โครงการขนาดใหญ่ 6.มีผลงานโครงการขนาดใหญ่ สามารถอ้างอิงได้ 7.สามารถประมูลงานได้ทุกรูปแบบ 8.มีพันธมิตรทางธุรกิจ

นายอดิศักดิ์กล่าวถึงทิศทางของธุรกิจกลุ่มนี้ในปี 51 ว่า จะมีการเซ็นสัญญาในเร็วๆ นี้กับทีโอทีในการเป็นผู้วางออปติคัล ไฟเบอร์ เคเบิล ขนาด 60 คอร์ 4 เส้นทาง และ 120 คอร์ 1 เส้นทาง ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมระยะทาง 689 กิโลเมตร คิดเป็นมูลค่า 141 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังจะมีการรุกเข้าไปในตลาดพิเศษ โครงการก่อสร้าง เคเบิลใต้น้ำแรงสูง โดยเซ็นสัญญากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคไปเมื่อปีที่ผ่านมาในการเป็นผู้ก่อสร้างเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะล้านและเกาะสีชัน จังชลบุรี มูลค่า 310 ล้านบาท ขณะเดียวกันก็เปิดตลาดโครงการ OPGW หรือออปติคัล ไฟเบอร์ คอมโพไซต์ กราวด์ ไวร์ ของการไฟฟ้าภูมิภาค ซึ่งเป็นงานออกแบบและติดตั้ง OPGW เหนือสายส่งแรงสูง 115 kv รวมถึงการเปิดตลาดโครงการที่ลดภาวะโลกร้อนอย่างโครงการเปลี่ยนระบบสายอากาศแรงสูง เป็นระบบใต้ดินแรงสูง ของการไฟฟ้านครหลวง และโครงการการก่อสร้างสถานีกังหันลมผลิตไฟฟ้า ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยใช้พลังงานจากธรรมชาติผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเป็นแนวโน้มที่กำลังมา

จากยุทธศาสตร์ที่อินเตอร์ลิ้งค์วางไว้ คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,080 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 100 ล้านบาท เป็นรายได้จากดิสทริบิวชัน 60% และวิศวกรรม 40%

Company Related Links :
InterLink
กำลังโหลดความคิดเห็น