xs
xsm
sm
md
lg

ทูตญี่ปุ่นขอบคุณตำรวจไทย ตามรวบ “ยามากูชิ” หน.แก๊งคอลฯ ปลาดิบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เข้าพบจเรตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณตำรวจไทยจับกุม “ยามากูชิ” หน.แก๊งคอลฯ บุคคลตามหมายจับ พร้อมช่วยเหลือเหยื่อชาวญี่ปุ่น เตรียมส่งตัวผู้ต้องหากลับญี่ปุ่น

วันนี้ (24 มี.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ให้การต้อนรับ นายโอตากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย และคณะ ได้แก่ นางอะคิยะมะ มาริ อัครราชทูตฝ่ายการเมือง, นายวาตานาเบะ นาโอโตะ เลขานุการเอกและผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจ, นายซาโตะ โทโมโนริ เลขานุการโทและทูตตำรวจ (ฝ่ายกงสุล), น.ส.แพรวพฤกษ์ จิตสกุลชัยเดช เจ้าหน้าที่สถานทูต พร้อมด้วย ผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติญี่ปุ่น ได้แก่ นายทารุอิ จุน สารวัตรใหญ่ และ นายโอโนกิ โซโกะสารวัตรใหญ่, ผู้แทนจากกองบัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดโอซากา ได้แก่ นายอิซุมิ ชิเกโตะ สารวัตรใหญ่, นายเดกุจิมาซาฮิโระ สารวัตร และ นายโทชิโอกะ ทัสซีกิ ดาบตำรวจ ซึ่งขอเข้าพบเพื่อขอบคุณกรณีการจับกุม นายยามากูชิ บุคคลที่มีหมายจับประเทศญี่ปุ่น และการช่วยเหลือเหยื่อชาวญี่ปุ่นจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา พร้อมหารือเชิญเข้าร่วมประชุมการต่อต้านแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โโยเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพ ในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้

พร้อมกับมอบเกียรติบัตรให้กับ พล.ต.อ.ธัชชัย พร้อมคณะข้าราชการตำรวจที่ร่วมจับกุมและช่วยเหลือดังกล่าว จำนวน 27 ราย


พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่า ทางการญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับทางการไทยในการขยายผลเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ ล่าสุด สามารถจับกุมตัวการสำคัญ คือ นายยามากูชิ ซึ่งเตรียมส่งตัวกลับญี่ปุ่นในเร็วๆ นี้ โดยจากการตรวจสอบพบว่า ใน Wallet ของนายยามากูชิมีเงินคริปโตมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติมเพื่อสืบหาวิธีการฟอกเงินของเครือข่ายดังกล่าว

ทั้งนี้ ทางการไทยและญี่ปุ่นจะหารือร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในญี่ปุ่น รวมถึงเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับกลุ่มในเมียนมาและกัมพูชา โดยข้อมูลที่ได้รับชี้ว่า กลุ่มคนญี่ปุ่นที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในสองประเทศนี้ มีเจ้าของเดียวกัน และสามารถดำเนินกิจกรรมได้ทั้งสองฝั่ง

จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้เกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในหลายสัญชาติกว่า 10,000 คน โดยในชุดแรกมีการส่งตัวกลับประเทศไปแล้ว 7,000 คน ขณะนี้ยังเหลืออีก 2,000 คน ซึ่งต้องประสานงานกับทางการเมียนมาและชนกลุ่มน้อยเพื่อดำเนินการส่งตัวต่อไป


ขณะเดียวกัน ทางการญี่ปุ่นได้เริ่มส่งข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลต้องสงสัยที่หลบซ่อนอยู่ในประเทศไทยให้กับทางการไทยแล้ว โดยเบื้องต้นพบว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวญี่ปุ่นในเมียนมายังมีจำนวนไม่มาก ไม่ถึงหลักร้อย ส่วนฝั่งกัมพูชา ที่ผ่านมาได้มีการจับกุมสมาชิกเครือข่าย 25 คน และส่งตัวกลับไปยังญี่ปุ่นบางส่วน

นอกจากนี้ มีรายงานว่า มีชาวญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาในพื้นที่อำเภอแม่สอด แต่ยังไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวัง ตรวจสอบการเข้า-ออกพื้นที่ และที่พักของบุคคลดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมติดตามสถานการณ์เป็นรายวัน

จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางการญี่ปุ่น พบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมีความเกี่ยวข้องกับหลายแก๊งระดับแกนนำ ซึ่งร่่วมกันดำเนินการเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน คาดว่า การจับกุมครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ทำให้การดำเนินงานของเครือข่ายเหล่านี้ยากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลไปยังผู้ที่สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือกลุ่มดังกล่าวต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น