ปคม.ตามรวบหนุ่มภัยสังคม เปิดเพจจัดหางานลวงหญิงสาวต่างด้าวข่มขืนต่อเนื่อง พบประวัติก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง เผยมีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกหลายราย บางรายถูกรุมโทรม-หายสาบสูญ
วันนี้ ( 27 ก.ย.) พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม.พ.ต.อ.พัฒพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2.บก.ปคม. พ.ต.ท.วรพล เลิศวิระยะพงศ์ สว.กก.2 บก.ปคม. นำกำลังจับกุม นายปัญญา อายุ 36 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4738 /2567 ลงวันที่ 27 ก.ย.67 ข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ , กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถจัดขืนได้,พาผู้อื่นไปเพื่อกระทำอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญ โดยใช้กำลังประทุษร้าย" ได้ที่โลตัส ถนนบ้านกล้วย- ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มี น.ส.หนิง (นามสมมติ)อายุ 19 ปี ชาวเมียนมา เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กก.2บก.ปคม.ว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา นายปัญญา ผู้ต้องหา ติดต่อมาทางเพจเฟซบุ๊กจัดหางาน ต้องการแม่บ้านมาทำงาน มีการสอบถามว่าทำงานบ้านเป็นหรือเปล่า โดยบอกลักษณะงานเกี่ยวกับรีดผ้า ทำความสะอาดบ้านต่างๆ เพื่อหลอกให้ตายใจว่าจ้างมาทำงานจริง ๆ โดยช่วงแรกจะให้เงินเดือน 7,500 บาท ถ้าทำงานดีจะเพิ่มเงินเดือนให้เป็น 9,000 บาท จนญาติผู้เสียหายหลงเชื่อพา น.ส.หนิง มาส่งที่หน้าร้านสะดวกซื้อ ภายในซอยหมู่บ้านบางบัวทอง 4
ต่อมา นายปัญญา ได้ขี่รถ จยย.มารับน.ส.หนิง ก่อนจะให้ซ้อนท้าย ขี่พาเข้าโรงแรมย่านนั้น โดยบอกว่าให้พักที่ห้องของโรงแรมก่อน เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อเข้าไปในห้อง ผู้ต้องหาได้ชกไปที่ท้องหนึ่งครั้ง ก่อนใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ถึง 2 ครั้ง ก่อนนำมาปล่อยไว้บริเวณใกล้สถานที่ดังกล่าว โดยยึดเอาโทรศัพท์ของผู้เสียหายไว้ด้วย จากนั้นได้มีโชเฟอร์แท็กซี่ผ่านมาพบผู้เสียหายนั่งร้องไห้อยู่ จึงเรียกให้ขึ้นรถ แต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แท็กซี่จึงพาไปปั๊มน้ำมันย่านนั้น ให้เด็กปั๊มที่เป็นชาวเมียนมาด้วยกันแปลก่อนนำมาส่งที่บ้านของผู้เสียหายดังกล่าว หลังรับเรื่องพนักงานสอบกก.2.บก.ปคม.ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ ก่อนจะนำกำลังไปจับกุมผู้ต้องหาได้ดังกล่าว พร้อมของกลางโทรศัพท์มือของผู้เสียหายอีก 1 เครื่อง
สอบสวนนายปัญญา ให้การภาคเสธ อ้างว่าเป็นการซื้อบริการทางเพศ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากตรวจสอบประวัติพบเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้หลอกลวงสาวลาวอายุ 19 ปี ในลักษณะเดียวกัน ที่บางบัวทอง แล้วนำไปข่มขืน ผู้เสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง
อีกคดีเมื่อเดือนสิงหาคม ก่อเหตุล่อลวงลักษณะเดียวกัน กับสาวชาวเมียนมา ที่ อ.สีคิ้ว แต่ถูกจับได้และประกันตัวชั่วคราวออกมา ก่อนจะมาก่อเหตุซ้ำในคดีนี้อีกครั้ง จึงนำตัวส่ง กก.2 บก.ปคม. ดำเนินคดีพร้อมขยายผลต่อเพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ส่วนสาเหตุที่ผู้ต้องหาลงมือเฉพาะคนต่างด้าว เพราะคิดว่า ผู้เสียหายหลบหนีเข้าเมืองมาแบบผิดกฏหมายคงไม่กล้าแจ้งความดำเนินคดีแน่ รวมทั้งตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาว่า ถ่ายคลิปเอาไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียลด้วยหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.พัฒพงศ์ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานทางตำรวจเชื่อว่าเป็นการหลอกผู้เสียหายเพื่อลวงผู้เสียหายมาข่มขืน ซึ่งทางตำรวจเองมั่นใจในในพยานหลักฐานและคำให้การของผู้เสียหายรวมทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ หรือกล้องวงจรปิดเชื่อว่ามีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดี อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะก่อเหตุแบบนี้กับผู้เสียหายรายอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งบางเคสอาจจะไม่กล้าแจ้งความ อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเป็นภัยสังคม ถือว่าเป็นนักข่มขืนต่อเนื่องนอกจากนี้สอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายทราบว่า มีการทำในลักษณะเดียวกันแต่เป็นการนำพาไปรุมโทรม อีกทั้งยังมีหญิงสาวต่างด้าวหลายรายที่หายสาบสูญไป ซึ่งทางตำรวจจะขยายผลต่อไป
