”โดโด้ ยุทธพิชัย“โล่ง! ศาลอาญายกฟ้อง คดีเป็นจำเลยร่วมบริษัทลงทุนชื่อดังฉ้อโกงประชาชนร่วม 6 ล้านบาท เหตุเป็นเพียงผู้รับจ้างเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์และพรีเซ็นเตอร์ ไม่ได้รู้เห็น ส่วนผู้บริหารบริษัทโดนศาลลงโทษจำคุก 150 ปี
เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายยุทธพิชัย ชาญเลขา หรือโดโด้ ดารานักแสดง พร้อมทนายความให้สัมภาษณ์ ภายหลังศาลพิพากษายกฟ้อง คดีอาญาหมายเลขดำ อ.2144/2566 ที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บจก.การะเกด เวิลด์แพลน โดยน.ส.กุลสิญา ถมยาปริวัฒน์ ผู้มีอำนาจ, บจก.การะเกด 2019 โดยนายสาธิต ปินขำ และน.ส.กุลสิญา ถมยาปริวัฒน์ ผู้มีอำนาจ ,นายสาธิต ปินขำ, น.ส.กุลสิญา ถมยาปริวัฒน์ ,นายยุทธพิชัย ชาญเลขา เป็นจำเลยที่ 1-5 ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, ความผิดตามพ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มูลค่าความเสียหายประมาณ 6,000,000 บาท
นายยุทธพิชัย กล่าวว่า ศาลพิพากษายกฟ้องตนเอง ซึ่งเป็นจำเลยที่ 5 ทุกข้อหา เพราะว่าตนเองเป็นเพียงแบรนด์แอมบาสเดอร์ และพรีเซ็นเตอร์ ที่ทำสัญญาจ้างจาก บริษัทการะเกดเกี่ยวกับการร่วมลงทุน บางครั้งก็ขึ้นเวทีเป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการให้เขา แต่ก็ถูกดำเนินคดีด้วยอาจเป็นเพราะเข้าไปเกี่ยวข้อง ในฐานะที่เป็นภาพลักษณ์ของบริษัท
จึงฝากถึงดารานักแสดงหลายๆท่าน เวลาไปร่วมงานกับบริษัทใดก็ขอให้พิจารณาให้ละเอียดรอบคอบ ทั้งนี้เข้าใจว่าดารานักแสดงเป็นเพียงแบรนด์แอมบาสเดอร์ เราไม่มีสิทธิรับรู้หรอกว่าบริษัทเขาทำธุรกิจอะไรจริงๆแค่ไหน ถ้าเขาไปทำอะไรนอกเหนือจากบอกกับเราไว้ แล้วบังเอิญเราไปรับประกันสินค้าหรือบริษัท ก็จะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้องหรือทำให้ต้องมาวุ่นวายแบบตนเอง
นายยุทธพิชัย กล่าวต่อว่า ขอบคุณผู้พิพากษาศาลอาญาที่ให้ความยุติธรรมให้ตนเองได้พิสูจน์ความจริงว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับบริษัทดังกล่าว เป็นแค่ผู้รับจ้างทำหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์เท่านั้น สัญญาจ้าง 1แสนบาท และตนเองก็เป็นผู้เสียหายด้วย สำกรับคดีนี้ผู้เสียหายเกือบ 30 คน ตอนแรกก็แจ้งความดำเนินคดีบริษิทแต่คดีไม่คืบหน้า สุดท้ายก็ดำเนินคดีตนเองด้วย ทำให้เป็นกระแสข่าวดังขึ้นมา และคดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ตนเองก็รำคาญใจ ทุกข์ใจว่าทำไมเราต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยและช่วงที่มีการพิจารณาคดีก็วุ่นวายมาก แต่โชคดีที่ได้ทนายความและน้องๆจากคณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่มาด้วยตรวจดูเอกสารเพื่อใช้พิสูจน์ความจริงในการสืบพยานของศาล ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ในกระบวนการยุติธรรม ส่วนจะอุทธรณ์คดีหรือไม่ก็อยู่ที่พนักงานอัยการ แต่ก็พร้อมพิสูจน์ความจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ศาลพิพากษาลงโทษ จำเลยที่ 1-4 ว่ากระทำความผิดตามพ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนฯและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ลงโทษปรับจำเลยที่1,2 ในความผิดตามพ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน รายละ 5 แสนบาท และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ปรับ จำเลยที่ 1,2 รายละ 5 หมื่นบาท
ส่วนจำเลยที่ 3,4 กระทำผิดลงโทษจำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 30 กระทง จำคุก 150 ปี แต่ตามกฎหมายลงโทษจำคุก 20 ปี สำหรับนายยุทธพิชัย หรือโดโด้ จำเลยที่ 5 พิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานยังมีข้อพิรุธสงสัยตามสมควร จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย