xs
xsm
sm
md
lg

รวบคาปั๊ม โจ๋นำปืนดัดแปลงลำกล้อง ใช้กระสุนจริง ขายผ่านทางเฟซบุ๊ก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจสืบสวนนครบาล จับหนุ่มวัย 19 ปี คาปั๊มน้ำมันย่านภาษีเจริญ หลังถูกล่อซื้อปืนประดิษฐ์ดัดแปลงลำกล้องใช้กระสุนจริง ขายผ่านทางเฟซบุ๊ก

วันนี้ (7 ก.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 และนักเรียนสืบสวน รุ่น 115 ร่วมกันจับกุมตัว นายพิษณุ อายุ 19 ปี โดยกล่าวหาว่า จําหน่ายอาวุธปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนไว้ในความครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธ ปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืน (ประดิษฐ์ ดัดแปลงลํากล้อง ) ขนาด .380 จํานวน 1 กระบอก และซองกระสุน จํานวน 1 ซอง สามารถจับกุมบริเวณลานจอดรถภายในสถานีบริการน้ำมัน ถ.เพชรเกษม แขวงบางว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

โดยพฤติการณ์ก่อนทําการจับกุมเจ้าพนักงานตํารวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้ออกติดตามสืบสวนหาข่าว เพื่อจับกุมผู้กระทําความผิดที่ลักลอบจําหน่ายอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางในการติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามคําสั่งของผู้บังคับบัญชา จากการสืบสวนของเจ้าพนักงานตํารวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. และได้รับแจ้งจากสายลับของ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ให้ข้อมูลว่า นายข้าวฟ่าง ใช้บัญชีเฟซบุ๊กในการขายอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนติดตามเรื่อยมา

กระทั่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. พ.ต.ต.สมพร คําเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ได้มีสายลับเข้ามาพบ และแจ้งว่า มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก ได้เสนอขาย อาวุธปืน (ประดิษฐ์ ดัดแปลงลํากล้อง) ขนาด .380 ในราคา 18,000 บาท โดยนัดหมายให้มารับบริเวณลานจอดรถภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ถ.เพชรเกษม แขวงบางว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ จึงรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อขออนุมัติในการล่อซื้อ จับกุมผู้กระทําความผิด และได้มอบหมายให้ เจ้าพนักงานตํารวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ทําการล่อซื้อ ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น. เมื่อเจ้าพนักงานตํารวจเดินทางไปถึงบริเวณจุดนัดหมาย ได้จอดรถรอบริเวณในสถานีบริการน้ำมัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตํารวจที่นั่งรถมากับสายลับได้ลงจากรถมารอบริเวณข้างเคียง ต่อมา นายพิษณุ ได้เดินมาที่รถยนต์ของสายลับ ซึ่งมีเจ้าพนักงานตํารวจมองดูอยู่บริเวณข้างเคียง เพื่อทําการซื้อขายอาวุธปืนของกลางดังกล่าว เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นอาวุธปืนของกลางดังกล่าว เจ้าพนักงานตํารวจจึง มอบเงินที่ใช้ทําการล่อซื้อให้แก่นายพิษณุ เป็นจํานวนเงิน 6,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 12,000 บาท สายลับได้แจ้งกับ นายพิษณุ ว่า จะโอนให้ และนายพิษณุ ได้รับเงินสดดังกล่าวไปแล้ว โดยสายลับได้ส่งสัญญาณให้เจ้าพนักงานตํารวจที่ร่วมปฏิบัติการล่อซื้อให้เข้าทําการจับกุม

ต่อมาเจ้าพนักงานตํารวจได้ควบคุมตัวนายพิษณุ มายัง กก.สส.2 บก.สส.บช.น. เพื่อสอบสวนขยายผลอาวุธปืน จากการ สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืน นายพิษณุ ได้ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 18,000 บาท จากนั้นได้ทําบันทึกการจับกุม นําตัวส่ง พงส.สน.ภาษีเจริญ เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า อาวุธปืนนั้น เป็นต้นตอของการก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ทั้งเหตุอุกฉกรรจ์ นักเรียนไล่ยิงกัน เป็นต้น โดยทางสืบนครบาลมุ่งเน้นที่จะปราบปรามจับกุมอย่างจริงจังตลอดเวลา และขอฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท




กำลังโหลดความคิดเห็น