ตำรวจสืบสวนนครบาลจับ “เจมส์ ตลิ่งชัน” ลักลอบขายปืนไทยประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้องขนาด .380 ผ่านทางเฟซบุ๊ก
วันนี้ (19 มิ.ย.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ดำเนินการจับกุมตัว นายอนุวัฒ หรือ เจมส์ ตลิ่งชัน อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง) ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก และซองกระสุน จำนวน 1 ซอง
โดยพฤติการณ์แห่งคดี ก่อนทำการจับกุมตำรวจชุดสืบนครบาลได้ออกติดตามสืบสวนหาข่าว เพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดที่ลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เป็นช่องทางในการติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา จากการขยายผลจากคดีที่ก่อเหตุจากอาวุธปืน คนร้ายใช้บัญชีเฟสบุ๊กในการขายอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ออกสืบสวนติดตามเรื่อยมา
กระทั่งมีสายลับเข้ามาพบ และแจ้งว่า มีผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กได้เสนอขาย อาวุธปืน (ไทยประดิษฐ์ ดัดแปลงลำกล้อง) ขนาด .380 ในราคา 10,000 บาท โดยนัดหมายให้มารับ บริเวณลานจอดรถหน้าวัดปุรณาวาส แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จึงรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อขออนุมัติในการล่อซื้อจับกุมผู้กระทำความผิด จึงได้ออกเดินทางโดยก่อนออกเดินทาง เจ้าพนักงานตำรวจได้ทำการตรวจค้นตัวสายลับไม่พบสิ่งของที่ผิดกฎหมาย และได้มอบเงินล่อซื้อ ให้กับสายลับโดย พร้อมให้เจ้าพนักงานตำรวจเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ไปกับสายลับเพื่อไปทำการล่อซื้ออาวุธจากนายอนุวัฒ
เมื่อตำรวจเดินทางไปถึงบริเวณจุดนัดหมาย นายอนุวัฒ ได้เดินมาที่รถยนต์ของสายลับ เพื่อทำการซื้อขายอาวุธปืนของกลางดังกล่าว เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นอาวุธปืนของกลางดังกล่าว เจ้าพนักงานตำรวจจึงมอบเงินที่ใช้ทำการล่อซื้อให้แก่นายอนุวัฒ เป็นจำนวนเงิน 6,500 บาท ส่วนที่เหลืออีก 3,500 บาท ได้แจ้งกับนายอนุวัฒ ว่า จะโอนให้ หลังได้รับเงินสดดังกล่าวไปแล้ว ตำรวจที่ทำการล่อซื้อได้ส่งสัญญาณให้เข้าแสดงตัวเพื่อทำการจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนควบคุมตัวนายอนุวัฒ ส่ง สน.ธรรมศาลา เพื่อสอบสวนขยายผลอาวุธปืนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
ในชั้นจับกุมจากการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืน นายอนุวัฒ ได้ให้การว่า ได้เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 10,000 บาท
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท