xs
xsm
sm
md
lg

ค้นโกดัง จ.นนทบุรี แหล่งพักยาเสพติดภาคกลาง ใช้กระบะดัดแปลงช่องลับ ยึดเฮโรอีน 91 กก.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ป.ป.ส. แถลง “ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดพื้นที่ตอนใน” จับเครือข่ายใช้รถกระบะดัดแปลงลำเลียงจากภาคเหนือ พบเฮโรอีน 91 กก. เตรียมส่งประเทศที่สาม

วันนี้ (2 ก.ย.) ณ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. และผู้แทนจากหน่วยงานภาคี พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด , พล.ร.ต.ไพฑูรย์ ชีชะนะ รองเจ้ากรมยุทธการทหารเรือ , พ.อ.ปริญญา วีระศรีนารรา หน.ศขย.ฝขว.ศปก.ทบ. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก , น.อ.บรรพต นิธิณัฐอาภาศิริ รองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ และ น.อ.วิสูตร งิ้วแหลม รองผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง กองทัพอากาศ ร่วมแถลงผลงาน “ปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ตอนใน” พร้อมยาเสพติดของกลาง เฮโรอีน 91.7 กก. (262 แท่ง) และรถกระบะที่มีการดัดแปลงทำช่องลับสำหรับซุกซ่อนยาเสพติด

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.67 มีรายงานอุบัติเหตุ รถยนต์กระบะ วีโก้ ต้องสงสัย เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางที่ จ.เชียงราย โดยผู้ขับขี่ไม่ยอมให้ยกรถไปซ่อมและได้หลบหนีไป เมื่อตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวมีช่องลับบริเวณกระบะท้ายรถ จากนั้นได้บูรณาการกับหน่วยงานในพื้นที่เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดและมอบหมายให้ หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) เฝ้าระวังรถยนต์ที่มีพฤติการณ์น่าสงสัย

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า ต่อมา วันที่ 3 ก.ค.67 นบ.ยส.35 และ กกล.ผาเมือง สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมไอซ์ 106 กิโลกรัม ที่ถูกดัดแปลงซุกซ่อนในรถยนต์ 2 คัน (ซึ่งผู้ต้องหาเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว และรถที่ประสบอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ จ.เชียงราย) เชื่อว่ามีเครือข่ายกลุ่มลำเลียงยาเสพติดที่ใช้รถกระบะดัดแปลงทำช่องลับในการซุกซ่อนยาเสพติดและคาดว่าน่าจะมีอีกจำนวนหลายคัน จึงได้เร่งสั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด มอบหมายชุดปฏิบัติการ เฝ้าติดตามสืบสวนวิเคราะห์พฤติการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถยนต์กระบะต้องสงสัยดัดแปลงทำช่องลับ จนสามารถพิสูจน์ทราบว่ามีจำนวนหลายคัน พบพฤติการณ์สวมทะเบียนรถปลอม เพื่อใช้อำพรางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า กระทั่งเช้ามืดของวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากชุดปฏิบัติการ ป.ป.ส. ตรวจสอบ พบว่ามีรถยนต์ต้องสงสัยที่กำลังสืบสวนและเฝ้าระวังเดินทางออกจาก จ.เชียงราย มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ภาคกลาง จึงบูรณาการความร่วมมือประกอบกำลัง ร่วมกับภาคี ติดตามจนพบว่า รถยนต์ต้องสงสัยขับ เข้าไปจอดในพื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และในบริเวณดังกล่าวมีลักษณะคล้ายโกดังล้อมรั้วด้วยสังกะสี ชุดปฏิบัติการจึงนำกำลังแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ทันที 2 คน (คนขับรถดัดแปลงที่ซุกซ่อนยาเสพติด และ คนขับรถนำทางเข้าโกดัง/เฝ้าโกดัง) และพบของกลาง เฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม (262 แท่ง) ถูกซุกซ่อนในรถกระบะดัดแปลงทำช่องลับ นอกจากนี้ ยังพบรถยนต์สภาพค่อนข้างเก่า จำนวน 4 คัน ถูกจอดทิ้งไว้ และได้ขยายผลตรวจค้นอีก 4 จุด (จ.นนทบุรี 1 จุด , จ.สมุทรปราการ 1 จุด , จ.ชลบุรี 2 จุด) ผลการตรวจค้น ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเพิ่ม แต่ได้ยึดทรัพย์สิน อาทิเช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง เงินสด รถยนต์ ทองคำ ยางอะไหล่รถยนต์ และล้อแม็ก รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท

"ทั้งนี้ จากการสืบสวน ผู้ต้องหาให้การว่า ลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง โดยยาเสพติดส่วนใหญ่เป็นประเภท เฮโรอีน ไอซ์ คีตามีน และ ยาบ้า ใช้เส้นทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ภาคเหนือ ลักษณะเลี่ยงด่านตรวจ ตั้งแต่ จ.เชียงราย จนถึง จ.นนทบุรี (จุดเก็บพักยาเสพติด) จากคำให้การของผู้ต้องหาเพิ่มเติมยังพบว่า ยาเสพติด (เฮโรอีน ไอซ์) ถูกลักลอบลำเลียงครั้งละประมาณ 100 กิโลกรัม เฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง ซึ่งเท่ากับว่าภายในระยะ 1 เดือน เครือข่ายดังกล่าวจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าพื้นที่ตอนในประมาณ 300 กิโลกรัม"

ซึ่งจากการสืบสวนและตรวจสอบของเจ้าหน้าที่นั้นพบว่า ตั้งแต่ห้วงเดือน มี.ค.67 – ปัจจุบัน รวมระยะเวลา 6 เดือน รถยนต์คันดังกล่าวมีพฤติการณ์ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 15 ครั้ง (เฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง) เมื่อนำยาเสพติดเข้าเก็บพักในพื้นที่ภาคกลาง และจะนำยาเสพติดไปซุกซ่อนในรถยนต์คันอื่นต่อ เช่น รถยนต์สภาพเก่าที่พบ เป็นต้น แล้วนำขึ้นรถสไลด์เพื่อทำการอำพราง จากนั้นจึงลำเลียงไปยังพื้นที่ภาคตะวันออก (จ.ระยอง) ผ่านการขนส่งทางเรือ เพื่อไปยังปลายทางประเทศที่สามต่อไป

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องขอขอบคุณและชื่นชมการบูรณาการความร่วมมือในการทำงานร่วมกันของหน่วยงานภาคี หลังจากใช้เวลาติดตามพฤติการณ์ขบวนการดังกล่าวมานานร่วม 3 เดือน จึงจะสามารถพิสูจน์ทราบรถยนต์คันอื่นๆ ที่อยู่ในขบวนการได้ รวมถึงขอบคุณความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ในการแกะรอยติดตามขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือเพื่อป้องกันและปราบปรามไม่ให้เข้าสู่พื้นที่ตอนในและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านขนส่งยาเสพติดไปประเทศที่สามต่อไป จากนี้สำนักงาน ป.ป.ส. จะเร่งขยายผลเพื่อหานายทุนผู้สั่งการและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และขออยากฝากประชาชนหากพบเห็นเบาะแสยาเสพติดสามารถแจ้งได้ที่ 1386 ได้ทันที เพื่อร่วมกันเฝ้าระวัง และร่วมกันสร้างสังคมปลอดยาเสพติด




กำลังโหลดความคิดเห็น