พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ผบช.ปส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เจ้าพนักงานตำรวจ กก.1 บก.สกส.บช.ปส. ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ได้ที่บริเวณริมถนนในหมู่บ้าน ตำบลพยอม ดังนี้ นายธีรภัทร ฯ อายุ 26 ปี อยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลพยอม อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น.ส.นงนุช ฯ อยู่ที่ หมู่ 3 ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลาง คือ ยาบ้า หรือ เมทแอมเฟตามีน จำนวนประมาณ 11,950,000 เม็ด ภายในรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล โดยกล่าวหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนี จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน หรือ เป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
ตามที่เจ้าพนักงานตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. รับแจ้งว่าจะมีกลุ่มบุคคลลักลอบลำเลียงยาเสพติดด้วยรถยนต์ 2 คัน จากพื้นที่ภาคอีสานตอนบน มาส่งให้ลูกค้าตามสั่งการของผู้ว่าจ้างในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และออกติดตามจนพบในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา แต่คนขับรถพยายามขับหลบหนี รถคันหนึ่งเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าริมถนนในหมู่บ้าน ตำบลพยอม เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อตรวจสอบ พบนายธีรภัทร เป็นผู้ขับขี่ และ น.ส.นงนุช โดยสารมาด้วย ได้รับบาดเจ็บ ส่วนรถยนต์เป้าหมายอีกคันหลบหนีไปได้
สำหรับ น.ส.นงนุช มีการประสานเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และนำส่งโรงพยาบาลวังน้อย เพื่อทำการรักษาต่อไป
จากการซักถาม ทั้งสองคนยอมรับว่าลำเลียงยาเสพติดของกลางมาจากพื้นที่จังหวัดหนองคาย เคยลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 1 ครั้ง คือเมื่อวันที่ 27-28 เมษายน 2567 ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง
นายธีรภัทร เคยถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ ครอบครองยาบ้า จำนวน 809 เม็ด ที่ สภ.วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศาลพิพากษาจำคุก 7 ปี 12 เดือน สารภาพลดเหลือ จำคุก 3 ปี 4 เดือน 15 วัน พ้นโทษมาประมาณ 2 ปี
พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ต้องหาเป็นทีมงานลำเลียง มีอาชีพขับรถยนต์รับจ้างขนสินค้าให้บริษัทขนส่ง แต่มาลักลอบขนยาเสพติด ทั้งนี้ ฝากถึงคนที่จะเข้ามาในวงการนี้ขอให้คิดให้ดี เพราะแม้รอดพ้นทำงานได้สำเร็จในครั้งแรก และได้เงินมาง่ายๆ แต่สุดท้ายจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุม สูญเสียอิสรภาพ และโทษที่จะได้รับสูงสุดคือประหารชีวิต ไม่คุ้มกับค่าจ้างที่จะได้รับ บช.ปส.จะยังคงความเข้มข้นในการสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดและการขยายผลการจับกุมและยึดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้า ผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลัง ที่ผ่านมาสามารถออกหมายจับและจับกุมได้จำนวนหลายรายและยึดทรัพย์ได้จำนวนมาก