ผบก.น.5 ยืนยัน ยาตรางูไม่เกี่ยวข้องกับคดีวางยา 6 ศพ แต่จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัด และหาแหล่งที่มาของไซนาไนด์ ด้าน ผบก.พฐก. ระบุ ยังอยู่ระหว่างตรวจหาลายนิ้วมือแฝง
จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา พบศพชาวเวียดนาม 6 ราย แบ่งเป็นสัญชาติเวียดนาม 4 ราย และสัญชาติอเมริกัน 2 ราย ภายในห้องพักโรงแรมดัง ย่านราชประสงค์ หลังสืบสวนพบว่า 1 ในผู้เสียชีวิตเป็นคนลงมือวางยาไซยาไนด์ทั้งหมดนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (18 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ สน.ลุมพินี ยังคงมีสื่อมวลชนหลายสำนักมาเกาะติดรายงานความคืบหน้าคดี หลังยังมีประเด็นข้อสงสัยอยู่หลายประเด็น ซึ่งวันนี้ยังไม่มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือบุคคลใดเดินทางเข้ามาที่ สน.ลุมพินี มีเพียงชุดสืบสวนของ บก.น. 5 เข้ามาเพื่อมาติดตามคดีเท่านั้น
ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า วันนี้ยังไม่มีการประชุมและเรียกบุคคลใดเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ ยังต้องรอพยานหลักฐานทางนิติเวชทั้งหมดก่อน เพื่อพิจารณาว่าจะเรียกใครมาสอบปากคำเพิ่มหรือไม่ ส่วนประเด็นยาตรางูยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับคดี แต่จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดถึงแหล่งที่มาว่ามีการไปซื้อมาจากแหล่งใด
ส่วนแหล่งที่มาของไซยาไนด์นั้น ขณะนี้ยังไม่ทราบแหล่งที่มา ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าอาจมีการนำมาจากต่างประเทศ หรือหาจากในประเทศ ทั้งนี้ ยังต้องรอการพิสูจน์ก่อน ส่วนน้องสาวของหนึ่งในผู้เสียชีวิต หากมีความเป็นไปได้ก็อยากได้ตัวมาสอบปากคำ ซึ่งอยู่ระหว่างการติดต่อเพื่อขอสอบปากคำ
ขณะที่ พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก.เปิดเผยถึงกรณีที่ตรวจพบรอยนิ้วมือแฝงบนวัตถุพยาน ซึ่งรอประสานกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อเปรียบเทียบว่าตรงกับผู้ใด 1 ใน 6 คน หรือไม่ ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรอยนิ้วมือแฝงยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากมีวัตถุพยานเยอะ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ผลยังออกไม่หมด เมื่อผลออกแล้วจะส่งผลการตรวจสอบทั้งหมดให้พนักงานสอบสวน แต่ขณะนี้ผลเริ่มทยอยออกมาบ้างแล้ว โดยได้เริ่มตรวจตั้งแต่เมื่อวานนี้ และเพิ่งจะได้รับลายนิ้วมือของศพมาเมื่อคืนนี้จึงได้เริ่มทยอยตรวจตั้งแต่วันนี้
เมื่อถามว่า จะระบุได้หรือไม่ว่าเป็นไซยาไนด์แบบใด พล.ต.ต.วาที เปิดเผยว่า จากการฟังแพทย์ระบุว่าเป็นเกล็ดที่ใช้กันทั่วไป ระบุประเภทไม่ได้ เพราะไซยาไนด์มีหลายรูปแบบ โดยที่ใช้กันอยู่จะเป็นโพแทสเซียมไซยาไนด์ ซึ่งจะไปแตกตัวและออกฤทธิ์ทำให้เสียชีวิตโดยไซยาไนด์