เค้าลางชัดคดีวางยา 6 ศพ ในห้องพักแกรนด์ไฮแอทเอราวัณเกิดจากการหักหลังกันเองในธุรกิจร่วมลงทุนก่อสร้าง
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งพบศพ หญิงและชายชาวเวียดนาม รวม 6 คน ถูกวางยาพิษเสียชีวิตภายในห้องพัก พูลวิลล่าเลขที่ 502 ชั้น 5 โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ ส่งผลให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทินชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ต้องเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อร่วมไขคดี กับเจ้าหน้าที่ตำรวจยังจุดเกิดเหตุตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในช่วงเช้าวันที่ 17 ก.ค. หลังจากตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีประกอบด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้ทำการหารือร่วมกับ บช.สตม. บก.สส.บช.น.และ บก.น.5 พบข้อมูลว่า 1 ในผู้เสียชีวิต ได้แก่ Ms.SHERINE CHONG อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นชาวเวียดนามสัญชาติอเมริกัน น่าจะมีส่วนสำคัญกับการตายของ ผู้ร่วมธุรกิจอีก 5 ชีวิต รวมถึง น่าจะเป็นผู้กระทำการอัตวินิบาตกรรมตนเองด้วยเพื่อหนีความผิด
เนื่องจากแนวทาง การสืบสวนทราบว่า Ms.SHERINE CHONG นั้น มีพฤติกรรมชักชวนผู้เสียชีวิตรายอื่นๆ ลงทุนทำธุรกิจก่อสร้าง ก่อนประสบปัญหาทางการเงิน จนมีคดีความฟ้องร้องกัน เรื่องเงินหลายล้านบาท เกิดขึ้นที่ประเทศเวียดนาม และกำลังจะต้องเดินทางขึ้นศาล ไปสู้คดีกันในอีกประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากนี้
ส่งผลให้ Ms.SHERINE CHONG ต้องนัดเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีที่เสียชีวิต อีก 5 รายนอกรอบ โดยทีแรกตั้งใจจะเดินทางไปเจรจากันที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ติดปัญหาด้านเอกสารทำให้บางรายไม่สามารถเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่นได้ จึงนัดหมายทยอยกันเดินทาง มาไกล่เกลี่ยที่ประเทศไทย ตามหลักฐานซึ่งเห็นว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย เข้ามาภายในประเทศไทย คนละวันและเวลากัน อีกทั้งเมื่อมีการเดินทางเข้ามา ก็แยกย้ายเปิดห้องพักชั้น 7 โรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ คนละห้วงเวลา โดยเปิดห้องพักเลขที่ 708,709,726 และ 727 ก่อนจะมีกำหนดการเช็คเอาท์คืนห้องพักกันเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา
โดยหลังจากที่ทั้งหมดคืนห้องพักเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าการเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องหนี้สินน่าจะยังไม่จบ ดังนั้น Ms.SHERINE CHONG จึงได้ประสานกับทางโรงแรมขอเปิดห้องพูลวิลล่าเลขที่ 502 ชั้น 5 ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุพบศพทั้งหมด จากนั้น Ms.SHERINE CHONG ได้สั่งน้ำร้อนให้พนักงานเสิร์ฟ นำใส่ภาชนะขวดสแตนเลสขึ้นมาที่ห้องพัก และอ้างว่าเจ้าตัวจะขอชงชาบริการเพื่อนๆ ด้วยตนเอง จากนั้นในอีกประมาณ 24 ชั่วโมงต่อมา จึงพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย ถูกวางยาพิษ เป็นศพเกลื่อนห้องพักแล้วทั้งหมด
สำหรับหลักฐานสำคัญที่ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบในเบื้องต้นขณะนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้กำชับให้ ผู้ปฏิบัติพิสูจน์กระบอกเก็บความร้อน 2 กระบอก แก้วกาแฟ 6 ชุด รวมถึงน้ำดื่มในแก้วต่างๆ และอาหารที่ผู้ตายกินไปบ้างแล้ว 2 อย่าง คือ ต้มยำกุ้งและผัดผักบุ้ง พบว่า มีกาแฟดำ อยู่กระบอกเก็บความร้อนทั้ง 2 กระบอก ซึ่งมีการผสมสารพิษอยู่ 1 ชนิด ที่รับประทานไปแล้วจะเสียชีวิตได้ทันที ขณะนี้อยู่ระหว่างการยืนยันสารพิษดังกล่าว ด้วยกรรมวิธีทางพิษวิทยา
สอดคล้องกับแนวทางที่ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด อาจารย์ภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกมาให้ความเห็น ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า จากสภาพศพดูแล้ว มีเค้าลางจะเป็น "ไซยาไนด์" ซึ่งเป็นสารพิษที่ยับยั้งการหายใจระดับเซลล์ ทำให้เซลล์ไม่สามารถใช้ออกซิเจนในการสร้างพลังงาน จึงส่งผลกับอวัยวะที่ใช้ออกซิเจนและพลังงานสูง เช่น สมอง และหัวใจ เป็นลำดับแรก หากได้รับสารพิษในขนาดที่มากเพียงพอ สามารถทำให้เสียชีวิตเฉียบพลันได้
โดยสีของเม็ดเลือดแดงอาจจะมีสีชมพูสดแทนที่จะเป็นสีแดงคล้ำ เนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีคาร์บอกซีฮีโมโกลบิน (Carboxy Haemoglobin) จำนวนมาก สีชมพูลักษณะนี้อาจพบในศพที่ตายจากสารพิษไซยาไนด์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีจะเร่ง พิสูจน์พยานหลักฐานอย่างละเอียด เพื่อหาบทสรุป ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สถานทูตเวียดนาม และ ไขข้อสงสัยให้แก่ ญาติๆ ผู้เสียชีวิตทั้ง 6 ราย อย่างเร่งด่วนต่อไป