“กัน จอมพลัง” พาสาววัย 23 ปี แจ้งความตำรวจ สน.บางเขน หลังถูกสามี “ส.ต.ต.” สังกัดนครบาล ทำร้ายเป็นประจำ เผย ต้องการให้ฝ่ายชายออกมาเคลียร์ เพราะต้องการให้ยอมเซ็นใบหย่า
จากกรณีที่ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีกับนายตำรวจ ยศ ส.ต.ต. อายุ 23 ปี (สามี) สังกัดอยู่ในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังถูกสามีทำร้ายร่างกายเป็นรอยช้ำตามแขนขาและลำตัว อยู่เป็นประจำ
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (4 ก.ค.) ที่ สน.บางเขน นายกัณฐัศว์ ได้พา น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายเดินทางมายัง สน.บางเขน จากนั้นได้ลงพื้นที่บ้านพักของฝ่ายชายซึ่งเป็นตำรวจย่านสุขาภิบาล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (3 ก.ค.) ได้มีผู้หญิงหนีออกจากบ้านมา ซึ่งผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาของตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่โดนสามีซ้อม กระทืบจนน่วม มีรอยฟกช้ำตามตัว โดยช่วงเช้าสายของเมื่อวานนี้ทางตำรวจคนดังกล่าวไม่ได้ทำเป็นครั้งแรก เคยกระทบผู้หญิงและหนักสุดคือเอาปืนตบหน้าและลากไปกระทืบหลังร้านส้มตำ ซึ่งสามีมีปัญหาเรื่องกัญชา น้ำกระท่อม วันนี้ผู้หญิงทนไม่ไหวแล้ว ได้พยายามหาทางช่วยสามี แต่สามีถามว่าจะทักไปหากันจอมพลังหรือไม่ โดยอ้างว่ารู้จักภรรยา กัน จอมพลัง เขาไม่ช่วยหรอก โดยเมื่อวานนี้ตนนั่งอยู่กับภรรยา ภรรยาบอกว่าไม่รู้จักชายคนดังกล่าว ตนจึงเดินทางมาที่ สน.บางเขนเพื่อพาผู้หญิงมาแจ้งความและได้ไปตรวจร่างกายเรียบร้อยแล้ว
โดยฝ่ายชายได้ดูไลฟ์สดของตนเอง คิดว่า จะกลับตัวได้ เพราะพ่อก็เป็นตำรวจ อยากให้คิดถึงพ่อแม่บ้าง ตนเองคิดว่าจะสำนึกได้ปรากฏว่าฝ่ายชายส่งแชทมาในไลฟ์สดว่า “เสียบเลย ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องใช้หนี้” เพราะภรรยาเปิดร้านกาแฟขายของไม่ดีขาดทุนและติดหนี้อยู่ ทั้งนี้ เกิดปัญหาก่อนหน้านี้ผู้หญิงแจ้งความมาแล้ว 2 ครั้ง โดย 2 ครั้งแจ้งที่ สน.บางขุนเทียน และ สน.พระราชวัง และครั้งที่สามถูกบังคับให้มาถอนแจ้งความที่ สน.บางเขน ทั้งนี้ ขอชื่นชมตำรวจ สน.บางขุนเทียน ซึ่งทางร้อยเวรใหม่ได้ติดต่อตนมาแล้วว่าอยากช่วย
นายกัณฐัศว์ กล่าวอีกว่า ตนเองตั้งคำถามกับตำรวจที่เป็นแบบนี้ เพราะตำรวจต้องเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ จะปกป้องใครได้ เมื่อครอบครัวตัวเองยังปกป้องไม่ได้ เพราะประชาชนคาดหวังให้ตำรวจมีจริยธรรมมากกว่าคนทั่วไป และอย่าท้าทายเพราะผมไม่ชอบคนท้าทาย หรืออย่าเอาชื่อหรือภรรยาของผมไปอ้าง ยืนยันว่าทางภรรยาไม่รู้จักกับตำรวจนายนี้
โดยตอนนี้มีการประสานงานกับหน่วยงานทั้งกองอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาล รวมถึง สน.บางเขน ให้เข้าไปนำตัวของฝ่ายชายออกมา ก่อนที่จะพูดคุยกัน เพราะความต้องการของภรรยา คือ ต้องการให้ตำรวจรายนี้ยอมเซ็นใบหย่า ทางผู้บังคับบัญชาของตำรวจนายดังกล่าวบอกแล้วว่าหากไม่ดีก็ไม่เอาไว้ ทางผู้หญิงอยู่ไม่ไหวแล้วเพราะโดนตีที่บ้านก็ทราบ หลังจากนี้ จะเข้าไปที่บ้าน โดยทางหัวหน้าของผู้ชายจะเชิญผู้ชายมาทำบันทึกข้อตกลงกัน ส่วนการดำเนินการทางวินัยและทางคดีก็จะดำเนินการไป
ด้าน น.ส.เอ กล่าวว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ มีข่าวออกไปทางสามีที่เป็นตำรวจก็ทักมาขอโทษ แต่เธอไม่ได้สนใจและไม่ได้อ่านข้อความก่อนที่ทางสามีที่เป็นตำรวจจะส่งข้อความมาไม่หยุดตลอดทั้งคืน แต่เธอก็ไม่ได้เปิดอ่าน เพราะมีแต่คำพูดเชิงลบ หลังได้รับการช่วยเหลือรู้สึกดีขึ้น แต่ตนเองยังเป็นห่วงอยู่เรื่องหนึ่ง คือ อยากพาลูกสาวมาอยู่ด้วยกัน เพราะเวลาฝ่ายชายมีปัญหา ก็จะพาลไปยังพ่อแม่ เวลาลูกเห็นเขาอารมณ์ร้ายก็จะนอนผวา เมื่อตนเองไม่อยู่หรือหนีออกจากบ้าน เขาก็มักจะไปพาลแม่จนแม่ทนไม่ไหวก็ต้องหนีออกมาเช่นเดียวกัน ส่วนจะช่วยลูกออกมาได้วันนี้เลยหรือไม่นั้นต้องขอคุยกับแม่เขาดูก่อน ปกติเวลาฝ่ายชายอยู่บ้านก็จะเสพกัญชา เล่นเกม กินน้ำกระท่อม ไม่ค่อยไปทำงาน
ขณะนี้ ตำรวจ สน.บางเขน พร้อมด้วย นายกัณฐัศว์ และ น.ส.เอ อยู่ระหว่างการลงพื้นที่บ้านพักย่านสุขาภิบาล