ทีมงานสายไหมต้องรอด พร้อมตำรวจ สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่ พม.เข้าช่วยหญิงชราวัย 94 ปี ถูกลูกสาวด่าทอและทุบตีนาน 2-3 ปี อ้างเหนื่อยต้องดูแลแม่เพียงลำพัง
วันนี้ (24 ส.ค.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด พร้อมตำรวจ สน.บางเขน และเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เดินทางเข้าตรวจสอบภายในบ้าน 2 ชั้นหลังหนึ่ง พื้นที่ประมาณ 65 ตารางวา ในซอยรามอินทรา 13 แยก 6 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ หลังจากมีผู้ร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอด ว่า บ้านหลังดังกล่าวมีลูกสาวอายุ 74 ปี ทำร้ายร่างกาย ด่าทอ และทุบตี แม่อายุ 94 ปี มาแล้วหลายครั้ง
นายศักดิ์ดา (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ชาวบ้านอาศัยในละแวกใกล้เคียง กล่าวว่า ลูกสาวที่พักในบ้านหลังดังกล่าว มีพฤติกรรมทำร้ายแม่ มานาน 2-3 ปีแล้ว ซึ่งชาวบ้านในละแวกนี้ต่างทราบดี เคยมีคนออกปากห้ามปรามตักเตือนแต่ก็ไม่มีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ยังคงทำร้าย ทุบ ตี แม่ของตัวเองอยู่เช่นเดิม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นวันแม่แห่งชาติ ตามปกติ ลูกๆ และครอบครัวจะต้องมาเยี่ยมเยียนแม่ มากินข้าวร่วมกัน แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครมา กระทั่งเวลา 14.00 น. ลูกสาวได้ด่าทอและทำร้ายแม่อีก ซึ่งเป็นเรื่องที่สะเทือนใจของคนในซอยนี้ จึงมีการถ่ายคลิปหลักฐานเสียงด่าทอเพื่อเก็บไว้ให้กับทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือ หรืออย่างน้อยก็ช่วยไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำร้ายแม่เช่นนี้ขึ้นอีก เพราะชาวบ้านที่รับทราบก็สุดทนที่เห็นลูกทำกับแม่อย่างนี้
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า คุณยายพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมากว่า 40 ปี ซึ่งจากการตรวจสอบร่างกายเบื้องต้นของผู้เป็นแม่ พบมีร่องรอยเขียวช้ำหลายแหล่ง โดยคุณยายมีลูก 5 คน ซึ่งทุกคนต่างมีครอบครัวและออกไปอยู่ที่อื่น มีเพียงลูกสาวคนโตที่ไม่มีครอบครัว ทางพี่น้องจึงมอบหมายให้มาดูแลแม่ที่บ้านหลังนี้ โดยที่ลูกๆ คนอื่นจะรวมเงินส่งเสียค่าใช้จ่ายให้เดือนละ 10,000 กว่าบาท และมักจะหมุนเวียนกันมาเยี่ยมเยียนบ่อยครั้ง
ส่วนสาเหตุนั้น ทางลูกสาวคนโต ระบุว่า เกิดจากว่าเหน็ดเหนื่อยที่ต้องดูแลแม่เพียงลำพัง และเมื่อเห็นคลิปที่ชาวบ้านถ่ายไว้ ก็ยอมรับว่าด่าทอแม่จริง ในวันนี้หลังจากทราบข่าวลูกๆ ของคุณยายได้เดินทางมาหาที่บ้านทันที และรู้สึกตกใจเมื่อเห็นคลิปที่ถูกบันทึกไว้ และตำหนิพี่สาวคนโตที่กระทำเช่นนี้กับแม่ ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีใครทราบว่าเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้
นายเอกภพ กล่าวอีกว่า สอบถามพี่สาวคนโต ก็ได้คำตอบว่า แค่ดุแม่ เพราะแม่ดื้อเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา ลูกๆ ของคุณยาย ก็เคยพาไปอยู่ด้วยกันที่บ้านของลูกๆ แล้ว แต่คุณยายไม่ยอม และเป็นคนติดบ้านหลังนี้ที่อยู่ประจำมาก จึงต้องพาตัวกลับมาที่บ้านนี้ หลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ พม.ก็จะปรึกษาร่วมกับครอบครัวคุณยาย ในการหาพี่เลี้ยงมาคอยช่วยดูแล และติดกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีก
นายเอกภพ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวลูกสาวคนโต ทางครอบครัวยังให้โอกาสปรับปรุงตัวไม่ดำเนินคดี หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกก็ขอให้ตัวพี่สาวย้ายออกไปอยู่ที่อื่น และทางเพจสายไหมต้องรอดเองก็พร้อมที่จะดำเนินการเข้าแจ้งความอีกด้วย