MGR Online - "ดีเอสไอ" จับกุมผู้ต้องหารับเปิดบัญชีม้าให้เว็บพนันออนไลน์ ยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 100 ล้านบาท นำตัวส่งดำเนินคดีโทษหนัก
วันนี้ (1 ก.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ภายใต้การอำนวยการของ นายวิทวัส สุคันธรส ผู้อำนวยการศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว โดยชุดปฏิบัติการที่ 2 เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุม นายขจรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 645/2566 ลงวันที่8 มีนาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน "ร่วมกันจัดให้มีการเล่นพนันเอาทรัพย์สินกันทางอิเล็กทรอนิกส์ (พนันออนไลน์) โดยไม่ได้รับอนุญาตและร่วมกันฟอกเงิน" โดยจับกุมได้ที่บริเวณด้านหน้าลานจอดรถ วัดใหม่ยายแป้น แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา และสิทธิตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญาแล้ว รวมทั้งแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับและควบคุมตัว จนกระทั่งส่งตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกควบคุมตัว (ปท.1) ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ให้ผู้ต้องหาได้รับทราบ จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหากลับมายัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อส่งมอบตัวให้แก่พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดียาเสพติด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 288/2565 ซึ่งได้มีหน่วยงานรัฐ ส่งเรื่องเว็ปพนันออนไลน์ให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดซึ่งเป็นกลุ่มขบวนการบัญชีม้าจำนวนมาก ทั้งที่รับจ้างเปิดบัญชีและถูกหลอกให้เปิดบัญชีเพื่อใช้ในการฟอกเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดอื่นๆ มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,000 ล้านบาท โดยนายขจรศักดิ์ (ผู้ต้องหา) มีพฤติการณ์รับเปิดบัญชีม้าให้กับเว็บพนันเช่น LAVAGAME168 , Lucabet และเว็บไซต์อื่นๆ อีกหลายเว็บไซต์ มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชี 122,018,615 บาท โดยกองคดียาเสพติด ได้ดำเนินการสืบสวนเส้นทางการเงิน จนนำไปสู่การพบพยานหลักฐานในการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในข้างต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ
ทั้งนี้ การดำเนินการในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีพิเศษ เป็นไปตามข้อสั่งการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่กำหนดให้ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าวซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงการบังคับบัญชาจัดชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับโดยเฉพาะหมายจับที่ใกล้ขาดในอายุความเพื่อนำตัวผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดที่ยังหลบหนี เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป