ตำรวจสืบสวนนครบาลจับกุม “ตาตุ๋ย เคหะ” เอเย่นค้ายาบ้า ย่านแสมดำ สารภาพรับยามาขายคนทั่วไปในละแวกใกล้เคียง เม็ดละ 30 บาท ไม่ได้เสพเอง
วันนี้ (1 ก.ค.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1 บกสส.บช.น. พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฎิบัติการที่ 2 จับกุม นายสุรวิทย์ หรือตาตุ๋ย เคหะ อายุ 63 ปี ข้อหากระทำความผิดฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พร้อมของกลางในคดียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) สีส้มกลมแบน บรรจุอยู่ในซองพลาสติกสีน้ำเงิน ภายในบรรจุยาบ้าจำนวน 90 เม็ด จำนวน 1 ถุง ซึ่งจับกุมได้บริเวณบ้าน ซ.พระราม 2 ซอย 69 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
โดยพฤติการณ์ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีชายไทยสูงวัย ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง มีพฤติการณ์ในการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด แถวบริเวณพื้นที่ ซ.พระราม 2 ซอย 69 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ไปเฝ้าสังเกตการณ์อยู่บริเวณดังกล่าว พบนายสุรวิทย์ (ทราบชื่อภายหลัง) ตรงตามข้อมูลของสายลับได้ปรากฏตัว มีพฤติการณ์น่าสงสัย คล้ายคนกระทำความผิด โดยขับรถรถจักรยานยนต์ ไม่ติดหมายเลขทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ พร้อมได้แจ้งความประสงค์ที่จะขอตรวจค้นตัวนายสุรวิทย์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงความบริสุทธ์ใจให้ดูจนพอใจแล้ว ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งความประสงค์นายสุรวิทย์ เพื่อขอทำการตรวจค้นบ้าน ซ.พระราม 2 ซอย 69 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ นายสุรวิทย์ยินยอมให้เจ้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว โดยผลการตรวจค้นพบของกลางยาบ้าดังกล่าว
โดยนายสุรวิทย์รับว่า ยาเสพติดดังกล่าวนั้น เป็นของตนจริง โดยไปรับมาจากนายเอ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) บริเวณ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 11 เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับคนทั่วไปในระแวกใกล้เคียง ในราคาเม็ดละ 30 บาท โดยตนนั้นไม่ได้เสพยาเสพติดแต่อย่างใด อีกทั้งยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจปัสสาวะ โดยผลการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นพบว่านายสุรวิทย์ ไม่ได้เสพยาเสพติดจริง เนื่องจากมีโรคประจำตัว ต้องกินยาตลอด โดยหันมาขายยาบ้าให้กับชาวบ้านเสพอย่างเดียว ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ จึงนำตัวมาทำบันทึกจับกุม และควบคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบเคยถูกดำเนินคดีเมื่อปี 2559 ในข้อหามีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้นไป หรือมียาเสพติดที่มีสารดังกล่าวผสมอยู่จำนวน 15 หน่วยการใช้ขึ้นไป สน.ท่าข้าม จำคุก 3 ปี
ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้สืบสวนจับกุมคนร้ายที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่เน้นการแพร่กระจายเข้าสู่สังคมอันเป็นการตัดวงจรต้นเหตุของอาชญากรรมอื่น ๆ จึงขอเตือนภัยไปยังผู้ที่จะทดลองเสพยาเสพติดหรือจำหน่ายยาเสพติดทุกชนิด ล้วนมีผลเสียต่อตนเองและครอบครัว อีกทั้งยังสร้างความเสียหาแก่สังคมส่วนรวม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน