ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงผลตำรวจ ปส.สกัดกั้นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ จับผู้ต้องหา 42 คน ยึดยาบ้ากว่า 37 ล้านเม็ด ไอซ์ 942 กก. ยาเค 70 กก. และเฮโรอีน 80 กก.
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผบช.ปส. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผบก.ปส.2 พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พล.ต.ต.อิทธิพล จันทร์ศรีบุตร ผบก.ขส. และ พล.ต.ต.วิทัศน์ บริรักษ์ ผบก.สกส. ร่วมแถลงผลสกัดกั้นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ (นักบินตายแทน) 15 เครือข่าย ผู้ต้องหา 42 คน ยึดยาบ้า 37,286,000 เม็ด ไอซ์ 942 กก. เฮโรอีน 80 กก. คีตามีน 70 กก. ยึดรถยนต์ 25 คัน และ รถจักรยานยนต์ 3 คัน
โดยคดีแรก จับกุม นายธีรภัทร และ น.ส.นงนุช ของกลางยาบ้า 11,950,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวรถกระบะโตโยต้า ทะเบียน บษ 15xx พระนครศรีอยุธยา ขณะลำเลียงขนมาจากพื้นที่ จ.นครพนม มาถูกจับกุมบริเวณริมถนนในหมู่บ้าน ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ในพื้นที่ จ.นครพนม
คดีที่ 2 ตำรวจ บก.สกส. ร่วมกับ บก.ปส.4 บก.ขส. ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุม นายสุเนตร์ บริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร พร้อมยาบ้า 5,000,000 เม็ด ซุกซ่อนมาในตัวถังรถบรรทุกกากน้ำตาล ทะเบียน 70 23xx นครปฐม และ นายดิศวัฒน์ พร้อมรถกระบะ ทะเบียน 3ฒร 52xx กรุงเทพมหานคร ซึ่งใช้เป็นรถนำทาง/สำรวจเส้นทางให้กับนายสุเนตร์ บริเวณถนนสายหลังสวน-ละแม ต.บ้านควน อ.หลังสวน จ.ชุมพร โดยผู้ต้องหาทั้งสองเป็นกลุ่มเครือข่ายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ทางภาคเหนือ มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้
คดีที่ 3 ตำรวจ บก.สกส. บก.ขส. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จับกุม นายราเมนทร์ และ นายณัฐพล กลุ่มเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และจะนำลงมาส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ได้ด่านตรวจยาเสพติดพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ พร้อมยาบ้า 2,900,000 เม็ด และไอซ์ 150 กิโลกรัม ซุกซ่อนภายในห้องโดยสารด้านท้ายรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน บห 27xx ฉะเชิงเทรา
คดีที่ 4 ตำรวจ บก.สกส. บก.ขส. และ ตำรวจ สภ.ศรีสัชนาลัย ภ.จว.สุโขทัย จับกุมนายเจษฎา และ นายสุรเชษฐ ได้ที่ ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย พบยาบ้า 1,250,000 เม็ด ซุกซ่อนบนเบาะที่นั่งแถวหลังของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทะเบียน กท 2869 อุตรดิตถ์ เพื่อมาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง และจับกุมนายทศพร ได้ที่ด่านตรวจยาเสพติดแม่สำ ต.แม่สำ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
คดีที่ 5 ตำรวจ บก.สกส. บก.ปส.4 และ บก.ขส.บช.ปส. สืบสวนขยายผลทราบว่ามีขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากภาคกลาง ไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคใต้ จึงบูรณาการสกัดจับผู้ต้องหาทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดและรถสำรวจเส้นทาง 6 คน คือ นายชัยนิตย์ นายวิมล นายวิริยะ นางสาวปัทมา นางณัฐฐินันท์ และ นางสาวดอกลั่นทม ได้บริเวณด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ตรวจค้นพบยาบ้า 1,000,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณช่องวางของหลังรถยนต์ทะเบียน 4ขฌ 69xx กรุงเทพมหานคร
คดีที่ 6 ตำรวจ บก.สกส. บก.ขส. ร่วมกับ ตำรวจ ภ.จว.ตาก และ ตชด.จับกุม 3 วัยรุ่นสาวร่วมกันลำเลียงยาเสพติดต้นทางจาก จ.เชียงราย เพื่อไปส่งปลายทาง จ.ตาก โดยใช้รถ 2 คัน ลำเลียงผ่านเส้นทาง อ.เมือง จ.เชียงราย จ.ตาก กระทั่งพบ น.ส.นันท์นภัส ที่จุดตรวจ สภ.วังประจบ ต.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก พร้อมรถกระบะ วีโก้ ทะเบียน กต 61xx ลำพูน ตรวจค้นในรถพบยาบ้า 202,000 เม็ด ส่วน น.ส.มณิภา และ น.ส.อรปรียา ทำหน้าที่ขับรถนำทาง/สำรวจเส้นทาง ถูกจับกุมได้ที่ถนนสายตาก-สุโขทัย ต.น้ำรึม อ.เมือง จ.ตาก
คดีที่ 7 ตำรวจ สกส.จับกุมนายนภดล และพวกของกลางไอซ์ 150 กิโลกรัม สืบสวนขยายผลเครือข่ายดังกล่าวพบนายนภดล ว่าจ้างให้มีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน จ.เชียงราย เพื่อไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางอย่างต่อเนื่อง ตำรวจ สกส. ร่วมกับ บก.ขส. และเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. จับกุมนางศิริรักษ์, น.ส.โยธกา และ นายยุทธโธปกรณ์ ที่ลานจอดรถ ปั๊มน้ำมันต.ทำนบ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ พร้อมไอซ์ 300 กก. บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสีน้ำตาลวางซุกซ่อนอยู่ท้ายกระบะ และห้องโดยสารด้านหลังรถกระบะ ทะเบียน 1 ฒณ 59xx กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้น ขยายผลจนนำไปสู่การจับกุม นายชิตณรงค์ ขณะมารับยาเสพติด บริเวณลานจอดรถยนต์ห้างสรรพสินค้า ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อเนื่องกันสามารถจับกุมนายมงคลธร ขณะมารับยาเสพติดต่อที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
คดีที่ 8 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 สืบสวนพบว่ามีเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดมาพักคอยในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงเฝ้าระวังพบรถยนต์เป้าหมายซึ่งเป็นรถเช่าขับออกมาจากพื้นที่ อ.เชียงดาว มุ่งหน้า อ.พร้าว และมีรถจักรยานยนต์ (จยย.) ขับนำทางไปในเส้นทางรองเพื่อหลบด่านตรวจลักษณะบรรทุกสิ่งของมีน้ำหนักจึงเข้าสกัด แต่รถ จยย.และรถยนต์เร่งความเร็วฝ่าด่านตรวจ ทำให้รถยนต์เสียหลักชนกับเสาไฟฟ้าริมถนนสาธารณะ ปากทางบ้านหลวง ต.โหล่งขอด อ.พร้าว และจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า รวม 5,600,000 เม็ด ใส่ไว้ในกระสอบวางไว้ที่นั่งหลังคนขับ
คดีที่ 9 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 จับกุม นายนัธธี พร้อมพวกรวม 7 คน ยึดยาบ้า 7,000,000 เม็ด และขยายผลพบว่ามีกลุ่มผู้ร่วมลำเลียงยาเสพติดในเครือข่ายนี้ใช้รถกระบะตู้ทึบทะเบียน 3 ฒย-58xx กทม.และ ทะเบียน 2 ฒก-20xx กทม. และรถกระบะทะเบียน ขง 71xx นครศรีธรรมราช จึงเฝ้าติดตามเรื่อยมาพบว่ารถเป้าหมายเดินทางลักษณะเป็นขบวนขับเข้ามาบ้านเลขที่ 81/233 ม.6 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เพื่อช่วยกันลำเลียงสิ่งของต้องสงสัยไปไว้ในบ้าน ก่อนจะขับรถมาจอดรถที่ รีสอร์ต ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงเข้าตรวจค้นและคุมตัวไปตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าวพบเป็นยาบ้า 5,100,000 เม็ด ไอซ์ 122 กก. และคีตามีน 20 กก.
คดีที่ 10 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.3 สืบสวนพบเครือข่ายยาเสพติดลำเลียงยามาพักคอยในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่าย ต่อมาพบความเคลื่อนไหวรถยนต์เป้าหมายในพื้นที่ จ.สุโขทัย จึงติดตามเส้นทางรองใน อ.เถิน จว.ลำปาง มุ่งหน้า เข้าตัวเมือง จ.สุโขทัย พบรถยนต์เป้าหมายมีการบรรทุกของสิ่งของที่มีน้ำหนักมาด้วยและขับในลักษณะช้าบ้าง เร็วบ้าง จนมาถึงปั๊มน้ำมัน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย จึงเข้าจับกุมและตรวจค้นพบยาบ้า 1,988,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณเบาะผู้โดยสารด้านหลังและบริเวณที่วางสัมภาระตอนท้าย
คดีที่ 11 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.3 พบความเคลื่อนไหวกลุ่มเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ต่อมาพบรถยนต์ที่เฝ้าระวัง 2 คัน ขับขี่ในลักษณะรถนำและรถตามจึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบแต่รถยนต์ที่ทำหน้าที่ขับนำหลบหนีไปได้จับกุมผู้ต้องหาที่ขับรถลำเลียงยาเสพติดได้ตรวจค้นรถพบยาบ้า 296,000 เม็ด
คดีที่ 12 ตำรวจ กก.3 บก.ปส.2 ร่วมกับตำรวจทางหลวง, ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 2,540,000 เม็ด ได้ริมทางหลวงหมายเลข 229 อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น จึงสืบสวนขยายผลพบความเคลื่อนไหวกลุ่มเป้าหมายจะลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่แนวชายแดน ด้าน จ.บึงกาฬ ไปส่งให้กับลูกค้าในเขตพื้นที่ตอนในประเทศ โดยใช้รถกระบะ ทะเบียน ผผ 74xx อุดรธานี ต่อมาพบรถเป้าหมาย แล่นไปตามถนนมิตรภาพมุ่งหน้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น และสกัดจับกุมได้บริเวณสามแยกจุดสัญญาณไฟจราจร แยกกัลปพฤกษ์ หน้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พบนายพรพจน์ เป็นผู้ขับขี่ และนายนัฐพงษ์ นั่งข้างคนขับ ตรวจค้นภายในรถพบวัตถุถูกใส่ถุงดำวางไว้ที่นั่งหลังคนขับตรวจสอบเป็นยาบ้ารวม 2,000,000 เม็ด
คดีที่ 13 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.2 ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.คำปิง อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ พร้อมยาบ้า 4,000,000 เม็ด จึงสืบสวนขยายผลและตรวจสอบตามเส้นทางที่เฝ้าระวังพบรถเป้าหมายต้องสงสัยกระทั่งพบรถคันดังกล่าวขับเข้าไปในพื้นที่ จ.บึงกาฬ ก่อนจะขับออกมาโดยมีรถยนต์ ทะเบียน 5กฬ 6401 กทม. ขับตาม ตั้งแต่ จ.บึงกาฬ เข้าไปในบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.คำปิง ถนนสุระนารายณ์ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีนายณัฐพล ผู้ขับขี่ และน.ส.ณัฐภัค โดยสารมาด้วย ภายในรถพบไอซ์ 50 กิโลกรัม และคีตามีน 50 กิโลกรัม ถูกวางอยู่ด้านท้ายรถยนต์ ขณะที่รถยนต์ PAJARO ทะเบียน 9กธ 3495 กทม. ทำหน้าที่นำทางและสำรวจเส้นทางขับหลบหนีตำรวจจึงจัดกำลังติดตาม พบรถเกิดพลิกคว่ำบริเวณ ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จึงควบคุมตัว นายฐิติธรรม ผู้ขับขี่ พร้อมด้วย น.ส.สิริพร สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด สารภาพว่ารับยาเสพติดมาจาก อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เพื่อไปส่งปลายทาง จ.สระบุรี รับค่าจ้างประมาณ 600,000 บาท
คดีที่ 14 ตำรวจ กก.3 (ส่วนหน้าท่าเรือกรุงเทพ) บก.ปส.1 สืบสวนพบว่าจะมีการส่งยาเสพติดที่ซุกซ่อนในสินค้าชนิดต่างๆ ไปยังต่างประเทศ จึงประสานงานกับบริษัทขนส่งพัสดุไปต่างประเทศ ต่อมารับแจ้งจากบริษัทขนส่งเอกชน เขตบางนา ว่ามีพัสดุต้องสงสัยตรงตามที่รับแจ้งไว้จึงไปตรวจสอบพบกล่องพัสดุ 36 กล่อง ปลายทางส่งออกประเทศออสเตรเลีย เมื่อเปิดกล่องตรวจสอบพบถุงบรรจุงาคั่วเม็ด ถูกซีลด้วยระบบสุญญากาศ ตรวจสอบภายในถุงพบเป็นเฮโรอีนและไอซ์ ซุกซ่อนอยู่เป็นไอซ์น้ำหนัก 300 กก.และเฮโรอีนน้ำหนัก 80 กก. ต่อมาขยายผลจนทราบชื่อผู้นำส่งพัสดุ คือ น.ส.กัญญณัช จึงตามไปยังที่พักพบหญิงลักษณะรูปพรรณคล้ายผู้ส่งพัสดุ ขับรถยนต์ไปยังห้างสรรพสินค้าย่านพระราม 3 ก่อนจับกุม เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหา “พยายามส่งออกซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน, เฮโรอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจาย และเป็นการก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป”
และ คดีที่ 15 ตำรวจ กก.2 บก.ปส.1 พบว่า มีเครือข่ายนักค้ายาเสพติดต่างชาติที่พักอาศัยอยู่ในประเทศไทยมีพฤติกรรมใช้ประเทศไทยเป็นที่ส่งออกยาเสพติดไปยังต่างประเทศ และนำบางส่วนมาจำหน่ายให้กลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศ โดยนำยาเสพติดมาจากกลุ่มผู้ค้าทางภาคเหนือ จึงจับกุม นายชัยวัฒน์ พร้อมไอซ์ 20 กก. ได้บริเวณปากซอยหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาสาธุประดิษฐ์ สืบสวนพบเตรียมนำยาเสพติดจำนวนดังกล่าวส่งออกไปต่างประเทศ ต่อมาจับกุมนายทามัง บีร์ บาอาดูร์ สัญชาติเนปาล และ นายนพชัย เพื่อร่วมขบวนการที่ลานจอดรถ หน้าร้านสะดวกซื้อ ซ.ลาดพร้าว 130 แยก 4 เขตบางกะปิ จากนั้นคุมตัวไปตรวจค้นที่พักอาศัยตรวจยึดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ 3 รายการ คือ รถยนต์ 1 คัน, เงินสด 12,000 บาท และทองรูปพรรณ 11 รายการ
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า สำหรับการปราบปรามยาเสพติดในห้วง 7 เดือน ที่ผ่านมาตั้งแต่ 1 ต.ค. 2566 -15 พ.ค. 2567 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้ 811 คดี ผู้ต้องหา 1,152 คน ของกลางเป็นยาบ้า 261,626,536 เม็ด, ไอซ์ 5,857 กก., เฮโรอีน 342 กก., คีตามีน 2,041 กก. และ ยาอี 1,407 เม็ด ยึดอายัดทรัพย์สินไว้เพื่อตรวจสอบมูลค่าประมาณ 1,681 ล้านบาท