MGR Online - ดีเอสไอ ร่วมภาคี บุกค้นบ้านพัก-สำนักงานแก๊งปล่อยเงินกู้ออนไลน์รายใหญ่ ที่ชัยนาท ผ่านแอปพลิเคชัน เรียกเก็บดอกเบี้ยโหด กว่า 2,000% ต่อปี เงินสะพัดหลักพันล้านบาท
วันนี้ (4 เม.ย.) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบและในฐานะโฆษกดีเอสไอ, นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม และ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการร่วมกับ เจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และ ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท นำโดย พ.ต.อ.นรากร บุญครอบ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยนาท เข้าทำการตรวจค้นตามหมายค้นของศาลจังหวัดชัยนาท เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน รวม 2 จุด ประกอบด้วย 1. บ้านพักของนายชาญยุทธ (สงวนนามสกุล) กับ น.ส.กานติมา (สงวนนามสกุล) ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชัยนาท และ 2. โรงสีวงษ์ชัยเจริญธัญญกิจ อ.เมือง จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของบุคคลทั้งสอง และเคยปรากฏชื่อของ น.ส.กานติมา เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น
ผลการตรวจค้น สามารถพบและยึดสิ่งของเป็นพยานหลักฐานจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย ซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งที่ใช้แล้วและยังไม่ได้เปิดใช้ 150 ชิ้น, โทรศัพท์มือถือ 20 เครื่อง, กล่องโทรศัพท์ 70 กล่อง, สมุดบัญชีเงินฝาก 120 เล่ม, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊ก 10 เครื่อง, เอกสารและไฟล์ดิจิทัลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบ นอกจากนั้น ยังตรวจพบว่ามีการเปิดตู้เซฟกับธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.ชัยนาท คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจึงมีหนังสืออายัดตู้เซฟดังกล่าวเพื่อจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า สืบเนื่องดีเอสไอ ทำการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษที่ 55/2566 กรณีแอปพลิเคชันเงินกู้ส่วนบุคคลออนไลน์ “กู้ใด้ดีๆ” หรือ “ได้บาทง่ายๆ - สินเชื่อด่วน” มีพฤติการณ์ปล่อยเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาตผ่านช่องทางออนไลน์ และมีแอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้อื่นเกี่ยวข้องอีกกว่า 80 แอปฯ มีการปล่อยกู้และเรียกเก็บดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 2,339.65 บาท/ปี และกำหนดให้ชำระหนี้ภายใน 7 วันเท่านั้น หากไม่ชำระเงินภายในกำหนด จะมีกลุ่มบุคคลโทรศัพท์ติดตามทวงหนี้ ข่มขู่ คุกคามลูกหนี้และบุคคลที่ปรากฏรายชื่อในสมุดโทรศัพท์ของผู้กู้ ก่อให้เกิดความหวาดกลัว
“ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าวพบว่าปัจจุบันมียอดการดาวน์โหลดมากกว่า 1,000,000 ครั้ง จนปรากฏข้อมูลน่าเชื่อว่า นายชาญยุทธ และ น.ส.กานติมา เป็นเจ้าของแอปพลิเคชันดังกล่าว ได้ใช้บัญชีเครือญาติและบัญชีม้าในการทำธุรกิจเงินกู้ออนไลน์ ซึ่งมีเงินทุนหมุนเวียนหลักพันล้านบาท อย่างไรก็ตาม วันนี้มาตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม และยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับบุคคลใด” รรท.อธิบดีดีเอสไอ กล่าว