ศาลยกฟ้องอดีตนายก อบต. ข้อหาจ้างวานฆ่า นายก อบต.บางสมบูรณ์ ปมขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ชี้ หลักฐานอ่อน สาวไม่ถึง โดนแค่ข้อหาสนับสนุนช่วยเหลือมือปืน ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
เมื่อเวลา 09.45 น.วันนี้ (27 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณา 905 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีจ้างวานฆ่าผู้อื่นหมายเลขดำ อ.713/2566 ที่อัยการฝ้ายคดีอาญา 4 โจทก์ และ ผศ.ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.โจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายประสพโชค นิ่มเรือง อายุ 62 ปี อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทย และอดีต นายก อบต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก เป็นจำเลยในความผิดฐาน “จ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและให้การช่วยเหลือผู้กระทำผิดหลบหนีการจับกุม” จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดีมาโดยตลอด และไม่ได้รับการประกันตัว
อัยการโจทก์ฟ้องความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลากลางคืนจำเลยนี้ได้ใช้จ้างวานให้ นายธวัชชัย ศรีชาญ นายภูริวัฒ นิ่มเรือง หรือ ออด กุมารดำและ นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือ บิ๊ก กุมารขาว (เสียชีวิต) ใช้อาวุธปืนขนาด7.62 มม. RUSSIAN นั่งรถยนต์มิตซูบิชิ แอททราส ขับประกบยิงรถตู้ ฮุนได หมายเลขทะเบียน ฮฮ 9622 กรุงเทพมหาคร เป็นเหตุให้ผศ.ดร.ญาณกร โท้ประยูร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายวัชระ นุชแดง คนขับรถ และ นายสมชาย ม่วงกาศ รองนายก อบต.บางสมบูรณ์ ที่นั่งเบาะหลังคนขับ เสียชีวิต สาเหตุจาการที่จำเลยโกรธแค้นที่แพ้การเลือกตั้ง นายก อบต.บางสมบูรณ์ และถูก ผศ.ดร.ญาณกร ตรวจสอบการทุจริต ให้แพไม้ซึ่งเป็นทรัพย์สินราชการและอยู่ในความครอบครองของ อบต.บางสมบูรณ์ แก่ผู้อื่นใช้ จำหน่ายหมูกระทะ ช่วงที่จำเลยดำรงตำแหน่งนายก อบต.บางสมบูรณ์ อันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
เหตุเกิดที่ ถ.ปากท่อ-บางปรัง หมู่ 2 ช่วงโค้งตายศ ตำบลศรีจุฬา อำเภอเมือง จ.นครนายก ขอให้ลงโทษจำเลยตามความผิด
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างกันแล้ว เห็นว่า แม้ก่อนเกิดเหตุ ที่จะมีการเลือกตั้งนายก อบต.บางสมบูรณ์ จำเลยจะเคยประกาศบนเวทีหาเสียงทำนองว่า ถ้าจำเลยแพ้การเลือกตั้งก็จะมีการตายเกิดขึ้น และถ้าใครคิดสมัครก็จะไม่ได้สวมเครื่องแบบ รวมทั้งจำเลยได้ติดต่อหัวคะแนน ให้เป็นหัวคะแนนให้ แต่ได้รับการปฏิเสธ เพราะว่ามาเป็นหัวคะแนนให้แก่โจทก์ร่วมแล้ว นอกจากนี้ จำเลยยังเคยแสดงความก้าวร้าว รุนแรงกับ นายสุรเดช บิดา ของโจทก์ร่วมอีกด้วยและจำเลยจะถูกดำเนินคดี กรณีนำแพไม้ให้ผู้อื่นไปใช้ประโยชน์ด้วยนั้น จากพยานหลักฐานโจทก์มิได้นำสืบให้ศาลเห็นว่า จำเลยได้มีการโอนเงิน หรือมอบเงินให้แก่กลุ่มคนร้ายเพื่อใช้กระทำผิด หรือมีการพูดคุยติดต่อทางโทรศัพท์หลังก่อเหตุ ซึ่งจากพยานหลักฐานโจทก์ฟังเพียงได้ว่า จำเลย ให้การช่วยเหลือ สนับสนุนคนร้าย โดยจำเลยได้ติดต่อคนอื่นๆ อีกหลายคนจัดหาที่พักให้นายรัฐพล หรือ กุมารขาว กับพวก ไปหลบซ่อนที่รีสอร์ต แห่งหนึ่ง ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อซ่อนเร้น มิได้เป็นความผิดฐานใช้ จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่น จึงไม่เป็นความผิดฐานละเมิด ที่โจทก์ร่วม ขอให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายกว่า 1 ล้านบาทด้วย
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 ฐาน ช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำ ความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุมจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ส่วนข้อหาอื่นให้ยก
ภายหลังฟังคำพิพากษา ผศ.ดร.ญาณกร นายก อบต.บางสมบูรณ์ คนปัจจุบัน ที่มาติดตามคดี กล่าวว่า วันนี้ศาลพิพากษายกฟ้งจำเลยฐาน ใช้ จ้างวานให้ฆ่าผู้อื่น แต่ลงโทษจำคุก ฐานเป็นผู้ช่วยเหลือให้การสนับสนุน ตนขอเป็นกำลังใจให้ผู้เสียหายรายอื่น โดยจะยื่นอุทธรณ์คดี ซึ่งศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา มีประสบการณ์ในการพิจารณาคดี อาจจะพิพากษาลงโทษประหารชีวิตได้
ต่อมาทนายความของ นายประสพโชค จำเลยได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างอุทธรณ์ อย่างไรก็ตามศาลอาญาพิจารณาแล้วเห็นควรส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาเพื่อมีคำสั่ง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวนายประสพโชคไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ