xs
xsm
sm
md
lg

อัยการฟ้อง "กำนันนก" จ้างวานฆ่าตำรวจทางหลวง ไม่ฟ้อง อดีต ผกก.สน.พญาไทกับพวก 5 คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายปวีณ จันทร์ทร์คล้าย หรือ “กำนันนก”
อัยการสั่งฟ้อง"กำนันนก"จ้างวานฆ่าสารวัตรตำรวจทางหลวง ส่วนคดีกลุ่มตำรวจสั่งฟ้อง 23 กลุ่มตำรวจ-พลเรือนคดีเกี่ยวกับละเว้นฎิบัติหน้าที่ปมไม่ช่วยเหลือ-ทำลายของกลาง ไม่ฟ้อง อดีต ผกก.สน.พญาไท กับพวก 5 คน ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ส่วน ผกก.เบิ้มไม่มีชื่อในคดี

วันนี้ (30 พ.ย.) นายประยุทธ เพชรชคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมด้วยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เเถลงข่าวสั่งฟ้องนายปวีณ จันทร์ทร์คล้าย หรือ “กำนันนก” อดีตกำนันชื่อดัง อ.เมือง จ.นครปฐม

นายวัชรินทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า คดีนี้แบ่งเป็น 2 สำนวน ได้แก่ คดีฆาตกรรม พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือแบงค์ สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและจ้างวานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ซึ่งมีผู้ต้องหาคือ นายหน่อง หรือธนันชัย หมั่นมาก (มือปืน) ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ และกำนันนก โดยอัยการสำนักงานคดีอาญา มีความเห็นสั่งฟ้องกำนันนก ตามที่พนักงานสอบสวนเสนอมาในคดีสั่งการจ้างวานฆ่า ส่วนนายหน่อง เนื่องจากถูกวิสามัญจึงมีคำสั่งยุติคดี

ส่วนสำนวนที่ 2 ซึ่งกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือน รวม 28 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์ ขณะที่มีการยิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต มีความเห็นสั่งฟ้องตำรวจ ได้แก่ พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สมสุข กับพวก และพลเรือน รวม 23 คน ในข้อหาแตกต่างกันไป ซึ่งรวม 6 คนแรกที่ถูกจับดำเนินคดี โดยเป็นกลุ่มที่ขับรถพากำนันนกหลบหนี และมีการทำลายพยานหลักฐาน ส่วนพลเรือนโดนข้อหาสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำความผิด รวมถึงกำนันนกด้วย


ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพนักงานอัยการได้นำตัวตำรวจและพลเรือนรวม 23 คน ไปส่งฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว

นายประยุทธ กล่าวยืนยันว่ากำนันนกถูกฟ้อง ทั้ง 2 ศาล คือศาลอาญาและศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง โดยอัยการจะมีการเสนอศาลให้นับโทษทั้ง 2 สำนวนต่อกันซึ่งขึ้นอยู่กับว่าศาลใดจะตัดสินคดีใดก่อน

อย่างไรก็ตามยังมีตำรวจ 5 นาย ที่พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง ได้แก่ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร อดีต ผกก.สน.พญาไท ,ร.ต.อ. ณัฏฐพล นาคกร ,พ.ต.ท.ภทร วรญาวิสุทธิ์ , พ.ต.อ.ภาณุทัต เหลืองสัจจกุล และร.ต.ท.มนัต จันทร์มีทรัพย์ สั่งไม่ฟ้อง เนื่องจากพนักงานอัยการเห็นว่าจัดอยู่ในกลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น พาผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหรือสนับสนุนช่วยเหลือในด้านต่างๆไม่ได้นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามความเห็นนี้ยังถือว่ายังไม่เด็ดขาด เนื่องจากที่ต้องนำตัวผู้ต้องหาและสำนวนสั่งฟ้องในวันนี้เพราะว่าเป็นวันสุดท้ายในการฝากขังแต่หากพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาบางรายก็จะต้องเสนอเรื่องไปที่ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้มีความเห็นทางคดี หากเห็นแย้งความเห็นของอัยการ ก็จะถูกส่งต่อให้อัยการสูงสุดวินิจฉัยชี้ขาด จึงจะถือว่าเป็นคำสั่งเด็ดขาด ถ้าอัยการสูงสุดมีความเห็นให้สั่งฟ้องตำรวจทั้ง 5 นาย ที่เดิมที่สั่งไม่ฟ้องในครั้งนี้ก็สามารถนำตัวตำรวจทั้ง 5 นายกลับมาดำเนินคดีได้ภายในอายุความ 20 ปี

ส่วนประเด็นรายละเอียดในสำนวนคดี พนักงานอัยการไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน รวมทั้งพ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ไม่มีรายชื่อเป็นผู้ต้องหาในสำนวนของพนักงานสอบสวนที่ส่งมาให้อัยการตั้งแต่แรก แม้จะอยู่ในเหตุการณ์วันดังกล่าวก็ตาม ซึ่งอัยการไม่ขอก้าวล่วง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกสั่งฟ้องเเละสั่งไม่ฟ้องประกอบด้วย

อัยการสั่งไม่ฟ้อง ดังนี้
1. สั่งไม่ฟ้อง ร.ต.ท. นิมิต สลิดกุล ผู้ต้องหาที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184
2. สั่งไม่ฟ้อง ร.ต.ท. ณรงศักดิ์ แตงอำไพ ผู้ต้องหาที่ 4 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 184, 189, 200
3. สั่งไม่ฟ้อง ร.ต.อ. ณัฏฐพล นาคกร ผู้ต้องหาที่ 5 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 184, 189, 200 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
4. สั่งไม่ฟ้อง พ.ต.อ. กฤษฎาพร จงอักษร ผู้ต้องหาที่ 7, พ.ต.ท. ภทร วรญาวิสุทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 10, พ.ต.อ. ภาณุทัต เหลืองสัจกุล ผู้ต้องหาที่ 15
5.ร.ต.ท. มนัต จันทร์มีทรัพย์ ผู้ต้องหาที่ 20 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172


อัยการสั่งฟ้อง ดังนี้
สั่งฟ้องพ.ต.ต. เกียรติศักดิ์ สมสุข ผู้ต้องหาที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 200 และมาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

สั่งฟ้อง ร.ต.ต. ประสาร รอดผล ผู้ต้องหาที่ 2, ร.ต.ท. สรรเสริญ ศรีสวัสดิ์ ผู้ต้องหาที่ 6 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 189, 200 และมาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 สั่งฟ้อง ร.ต.ท. นิมิต สลิดกุล ผู้ต้องหาที่ 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 189, 200 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

สั่งฟ้อง ร.ต.ท. ณรงศักดิ์ แตงอำไพ ผู้ต้องหาที่ 4, จ.ส.ต. พิสิฐ ชิวปรีชา ผู้ต้องหาที่ 8, ร.ต.อ. จตุรวิทย์ ชวาลเกียรติธนา ผู้ต้องหาที่ 9, ร.ต.อ. ประสมมาศ แสงสุขดี ผู้ต้องหาที่ 11, ส.ต.ต. สุทธิกานต์ แซ่ฮ้อ ผู้ต้องหาที่ 12 , ส.ต.ต. สรรเสริญ ศรีอุบล ผู้ต้องหาที่ 13, ส.ต.ต. ธนทัต ท่าน้ำตื้น ผู้ต้องหาที่ 14, ร.ต.อ. นุชิต บรรณชัย ผู้ต้องหาที่ 16, ด.ต. ถนอมศักดิ์ มีศรี ผู้ต้องหาที่ 17, จ.ส.ต. อภิรักษ์ โรจน์พวง ผู้ต้องหาที่ 18, ร.ต.อ. ศิริชัย รูปสวย ผู้ต้องหาที่ 19, ร.ต.ท. สมโชค บัวไชย ผู้ต้องหาที่ 21 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172

สั่งฟ้อง นายสนธยา สุดแน่น ผู้ต้องหาที่ 22, นายฐิตินนท์ อินทร์ต้นวงศ์ ผู้ต้องหาที่ 23, นายนิวัฒน์ชัย ปั้นดา ผู้ต้องหาที่ 24, นายกฤษฎา เหล่งดอนไพร ผู้ต้องหาที่ 25, นายชาตรี เขียวทับ ผู้ต้องหาที่ 26 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 184 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

สั่งฟ้อง นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ผู้ต้องหาที่ 27 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

สั่งฟ้อง นายอาทิตย์ เก้าลิ้ม ผู้ต้องหาที่ 28 ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 184 ประกอบมาตรา 84 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

ทั้งนี้ขอศาลเพิ่มโทษผู้ต้องหาที่ 26 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 และขอศาลนับโทษผู้ต้องหาที่ 27ในคดีนี้ติดต่อกับโทษในคดีอาญากองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามที่ 24/2566

วันเดียวกัน พนักงานอัยการคดีอาญา 7ได้ยื่นฟ้องนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก เป็นจำเลยต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก

ศาลอาญาประทับฟ้องไว้เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่อ3694/2566 และออกหมายเบิกตัวกำยันนกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเพื่อสอบคำให้การวันที่ 1ธ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น