ผบ.ตร.สั่งเสนอแนวทางแก้วิกฤตขาดแคลนพนักงานสอบสวน ให้เป็นรูปธรรมใน 15 วัน ย้ำ ห้ามนำพนักงานสอบสวนช่วยราชการ หากถูกร้องเรียนผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ เตรียมเสริมกำลังอีก 900 อัตรา ชง กมธ.งบประมาณเพิ่มเพดานค่าตอบแทนสร้างแรงจูงใจ
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤตพนักงานสอบสวนขาดแคลน ว่า พนักงานสอบสวนถือเป็นต้นทางของกระบวนการยุติธรรม ปัจจุบันมีปัญหาการขาดแคลนพนักงานสอบสวน การกำหนดตำแหน่งเลื่อนไหลให้พนักงานสอบสวน รวมทั้งเงินประจำตำแหน่งของพนักงานสอบสวน โดยทั้ง 3 เรื่องได้มีข้อสั่งการให้ดำเนินการไปแล้วก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกัน ได้มีข้อสั่งการไปแล้วว่าได้มอบอำนาจให้ผู้บัญชาการในการเกลี่ยกำลังพล ไปช่วยในสถานีตำรวจที่มีปัญหาไม่ให้ไปกระจุกอยู่ในกองบัญชาการ หรือกลุ่มงานสืบสวน โดยสั่งการให้รายงานผลการดำเนินการที่เป็นตัวเลขจริง มายังตนเองภายในวันที่ 29 ก.พ.นี้ ซึ่งจะตรวจสอบซ้ำอีกครั้งด้วย
“ในครั้งนี้ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้เห็นเป็นรูปธรรมภายใน 15 วัน เพื่อให้ตนเองสามารถดำเนินการได้ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ โดยจะต้องกำชับเรื่องการห้ามนำพนักงานสอบสวนไปช่วยราชการ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานของผู้ใดก็ตาม เพราะถือว่าเป็นการทำผิดตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 หากจะนำพนักงานสอบสวนไปช่วยราชการจะต้องมีบุคคลมาทดแทน ซึ่งข้อสั่งการนี้จะเน้นไปที่สถานีตำรวจโรงพักต่างๆ หากมีการร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวจะถูกส่งมาที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติโดยตรง และผู้บังคับบัญชาจะถูกดำเนินมาตรการทางปกครองด้วย” ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้เตรียมเสริมอัตราพนักงานสอบสวนอีก 900 คน โดยวานนี้ (20 ก.พ.) ได้มีการเลือกตำแหน่งที่จะลงไปช่วยอีกประมาณ 300-400 คน ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีกำลังในการผลิตบุคลากรในแต่ละปี จากที่ขาดแคลนอยู่ทั้งหมดประมาณ 2,000 คน รวมทั้งจะมีนโนบายให้นายตำรวจชั้นประทวนที่จบปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์ ให้ขึ้นทะเบียนรอการอบรมเป็นพนักงานสอบสวน หรือให้เป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวนก่อน เพื่อแบ่งเบาภาระให้พนักงานสอบสวนด้วย การมีผู้ช่วยที่มีองค์ความรู้ และผ่านการอบรมแล้วก็จะมีพนักงานสอบสวนเพิ่มขึ้น
เมื่อถามถึงการเพิ่มแรงจูงใจให้กับพนักงานสอบสวนนั้น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ค่าตอบแทนยังคงน้อยเมื่อเทียบกับพนักงานอัยการหรือศาล โดยได้สั่งการให้ศึกษาเปรียบเทียบค่าตอบแทนเพื่อนำไปหารือกับคณะกรรมาธิการงบประมาณหรือสำนักงบประมาณเพื่อขอเพิ่มค่าตอบแทนให้กับพนักงานสอบสวน เช่น เพิ่มเพดานค่าตอบแทนของพนักงานสอบสวนจาก 20,000 ถึง 40,000 บาท ให้มากขึ้นไปอีก