xs
xsm
sm
md
lg

มอบตัวอีก 1 แก๊งอ้างกองปราบ อุ้ม-ยัดยา รีดเงิน 1 แสน พบก่อเหตุโชกโชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



มอบตัวเพิ่มอีก 1 แก๊งชายฉกรรจ์ อุ้ม-ยัดยา รีดเงิน 1 แสน ในพื้นที่สายไหม พบประวัติก่อเหตุโชกโชน สารภาพอ้างกองปราบเนื่องจากดูน่ายำเกรง

วันนี้ (14 ก.พ.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป.สนธิกำลังร่วมฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 เร่งคลี่คลายกรณีเพจสายไหมต้องรอด พาวัยรุ่น ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม หลังถูกชายฉกรรจ์ 4 คน อ้างว่า เป็นตำรวจกองปราบปราม เข้าค้นบ้านพักย่านสายไหม แต่ไม่พบของผิดกฎหมายก่อนจะพาขึ้นรถแล้วยัดยาเสพติดบังคับรีดเงินจำนวน 1 แสน แต่ผู้เสียหายไม่มีให้ ระหว่างนั้นได้ค้นเจอเงินในตัว 5,200 บาท และได้นำเงินจำนวนนั้นไปโดยคืนให้ผู้เสียหาย 200 บาท จากนั้นนำผู้เสียหายไปปล่อยที่ซอยรามอินทรา 46 แล้วแยกย้ายหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา

ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.สายไหม ได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีจำนวน 4 ราย กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมาสามารถจับกุม นายมานะ อรุณศรี อายุ 58 ปี ได้ย่านลาดพร้าว จากนั้น นายวีรยุทธ จันทรเวช อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหา “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุทนแรงกดดันไม่ไหวได้ติดต่อมอบตัวที่ สน.สายไหม เมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากเกรงว่าจะถูกตำรวจกองปราบปรามจับกุม

สอบสวน นายวีรยุทธ ให้การภาคเสธ แต่รับว่าตนกับพวกรวมสี่คนได้ไปที่เกิดเหตุจริง และขอยืนยันว่า กลุ่มคนที่ก่อเหตุไม่มีใครเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบตามปรากฏในข่าวแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เนื่องจากกองปราบ เป็นหน่วยที่มีความน่าเชื่อถือสูง หากนำมาอ้างก็จะทำให้ดูน่ายำเกรงขึ้น

เบื้องต้นคดีดังกล่าวยังมีผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 ราย คือ นายบุญทิ้ง อายุ 50 ปี และ นายนิด หรือ นายไหม (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงเร่งติดตามตัวเพื่อนำมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

จาการตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว 3 คดี โดยเมื่อปี 62 นายมานะ และพวก ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าค้นผู้ประกอบการจำหน่ายเครื่องสำอาง ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ข่มขู่เรียกรับเงิน 2 ล้านบาท แลกกับการไม่จับกุมดำเนินคดี ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการ, เมื่อปี 65 นายบุญทิ้ง กับพวก ได้อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้เสียหายซึ่งมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ เหตุเกิดในพื้นที่ สน.บางนา และ ปี 66 นายมานะ, นายบุญทิ้ง และ นายวีรยุทธ ได้ร่วมกันกับพวก อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พาตัวผู้เสียหายออกมาจากบ้าน ข่มขู่เรียกเงิน จำนวน 50,000 บาท แลกกับการไม่ดำเนินคดีในข้อหายาเสพติด เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.บางศรีเมือง








กำลังโหลดความคิดเห็น