xs
xsm
sm
md
lg

แก๊งเงินดำ ฆ่านักธุรกิจเมียนมา คาห้องพักย่านสุขุมวิท ชิงทรัพย์เงินสด 5 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม





หนุ่มใหญ่ชาวเมียนมา ทะเลาะวิวาทกับชาวสกอตแลนด์ 2 คน ปมขัดแย้งธุรกิจซื้อขายเงินดำกับ ก่อนถูกทำร้ายร่างกาย เสียชีวิตในแมนชั่นย่านสุขุมวิท ภายในห้องมีการรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย เงินสด 5 ล้านบาทสูญหายไป


เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 14 ก.พ. พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ มนัสชน สว.(สอบสวน)สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุชายถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิตในแมนชั่นแห่งหนึ่ง ซอยสุขุมวิท 4 เขตคลองเตย กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ฝ่ายสืบสวนสน.ลุมพินี เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 23 ห้องพัก 17/491 ภายในห้องพบศพชายชาวต่างชาติ สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลที่ปาก ใบหู และศีรษะมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก ทราบชื่อนาย คะยอ เซยา อายุ 51 ปี ชาวเมียนมา ภายในห้องมีการรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนมารดาผู้เสียชีวิต ให้การว่า ลูกชายตนทำธุรกิจรับแลกเงินตราต่างประเทศในประเทศไทย โดยร่วมธุรกิจกับ นายวิลเลี่ยม และ นายจอห์น คนผิวสี ชาวสกอตแลนด์ ต่อมาทั้ง 3 คนไปคุยธุรกิจกันบริเวณสถานที่แห่งหนึ่งย่านวัดพระยาไกร ก่อนเดินทางกลับมาที่ห้องพักที่เกิดเหตุ

จากนั้นชาวสกอตแลนด์ทั้งสองคนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับผู้ตายอย่างรุนแรง จนเกิดการชกต่อยกัน ตนเข้าไปห้ามถูกต่อยที่ใบหน้าจนสลบ เมื่อตื่นมาอีกครั้งก็พบว่าลูกชายของตนเองเสียชีวิตแล้ว จึงรีบวิ่งลงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของแมนชั่นให้ช่วยติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ตรวจสอบทรัพย์สินภายในห้องพักพบว่าเงินสด 5 ล้านบาท สูญหายไป ส่วนสาเหตุการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้พบว่ากลุ่มของผู้ก่อเหตุกับผู้ตายได้ทำการพูดคุยตกลงซื้อขายเงินดำ โดยมีการสั่งซื้อผงละลายสีเงินดำและตู้เซฟเพื่อใช้ในกรรมวิธีดังกล่าว แต่คาดว่าผู้ตายอาจเอะใจว่าอาจจะถูกหลอกจึงขอเงินคืนแต่กลุ่มคนร้ายไม่ยอมนำเงินกลับมาคืน จึงเกิดเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นตำรวจ สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบว่าผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายจากการกระแทกกับของแข็งแต่ไม่พบอาวุธในที่เกิดเหตุ จึงคาดว่าอาจเป็นการนำศีรษะกระแทกพื้นซึ่งต้องรอการตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดประกอบกับผลการชันสูตรศพของผู้ตายอีกครั้ง

นอกจากนี้ยังได้ยึดกระเป๋าเดินทางปริศนาที่ตกอยู่ภายในห้อง พร้อมกับตู้เซฟที่ผู้ตายและผู้ก่อเหตุซื้อมาเก็บไว้ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุทั้งสองคนมาดำเนินคดี พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.)ให้ช่วยสกัดการเดินทางตามสนามบินและด่านตรวจต่างๆ เพื่อนำตัวมาสอบปากคำดำเนินตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป








กำลังโหลดความคิดเห็น