"ชลน่าน" รอดูข้อเสนอ รพ.กลุ่ม UHosNet - คลินิกชุมชนอบอุ่น หลังจ่อยื่นร้อง 14 ก.พ.นี้ เหตุ สปสช.ติดค้างเบิกจ่ายทำขาดทุน เผยเคยหารือแล้ว ร.ร.แพทย์ระบุเบิกจ่าย 1 หน่วย 8,350 บาท ต่ำกว่าต้นทุนที่อยู่ 1.3 หมื่นบาท แถมงบปลายปิด หมดแล้วหมดเลย ส่วนคลินิกอบอุ่นขอหวนใช้แบบเหมาจ่ายรายหัวแทนรายบริการ ยันต้องหารือ รับระบบประกันไม่มีกำไร แต่ต้องทำให้ไม่ขาดทุน ลั่นไม่กระทบ 30 บาทรักษาทุกที่เฟสสอง
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธรณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (UHosNet) และเครือข่ายคลินิกชุมชนอบอุ่น ออกมาเรียกร้องถึงปัญหาขาดสภาพคล่อง จากปัญหาการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งจะมีการเดินทางมายื่นหนังสือวันที่ 14 ก.พ.นี้ ว่า ต้องขอดูข้อเสนอของทาง UHosNet และทางเครือข่ายคลินิกชุมชนอบอุ่นก่อน ซึ่งเรื่องนี้ตนก็เคยไปพบ เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องการจัดบริการและค่าใช้จ่าย ก็มีการนำเสนอมาหลายเรื่อง จึงบอกว่าขอให้นำเสนอมาเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ตนในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) จะได้เอาเข้ามาพิจารณาในรูปของกรรมการ ทั้งอนุกรรมการหรือบอร์ดใหญ่ ทราบว่าจะมายื่นวันที่ 14 ก.พ.นี้ก็จะรายละเอียด
ถามว่าการหารือมีข้อปัญหาที่ติดขัดอย่างไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า แยกเป็นสองส่วน คือ 1.กลุ่ม UHosNet ให้บริการระดับสูง Excellence Center โรคเฉพาะด้านเฉพาะทาง ที่เสนอมาคือค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าต้นทุนการให้บริการ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายต่อหน่วยที่ สปสช.คิดให้ จึงอยากให้พิจารณาเรื่องนี้ เนื่องจาก สปสช.ให้ค่าใช้จ่ายต่อ 1 หน่วยบริการ (AdjRW) อยู่ที่ 8,350 บาท ซึ่งต้นทุนอยู่ที่ 1.3 หมื่นกว่าบาทหรือมากกว่า ต้นทุนจึงต่ำมาก ทำให้เขาแบกรับภาระ และการกำหนดวิธีการจ่าย เป็นแบบปลายปิด หมดแล้วคือหมดเลย วิธีการคิดก็มีผลย้อนกลับมา อย่างที่ให้ 1 หน่วย พอเงินหมดแล้วก็เหลือ 0.7 หน่วย เป็นต้น
และ 2.คลินิกชุมชนอบอุ่นที่ใช้รูปแบบการจ่ายแบบโมเดล 5 หรือจ่ายตามรายการจ่ายจริง (Fee Schedule) ก็เรียกร้องว่าน่าจะกลับไปใช้วิธีการจ่ายแบบโมเดล 2 เหมือนเดิม คือการเหมาจ่าย ตามจำนวนผู้ใช้บริการในเขตที่รับผิดชอบ ที่ทำให้คลินิกชุมชนอบอุ่นดูแลทั้งการส่งเสริมป้องกัน รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสภาพ
ถามต่อว่าสมาคมคลินิกชุมชนอบอุ่นมีการเรียกร้องโดยการขึ้นป้าย จะส่งผลต่อประชาชนผู้รับบริการหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ถ้าเขาปฏิเสธดูแลผู้รับบริการก็ถือว่าส่งผล แต่น่าจะเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหารมากกว่า
ถามต่อว่าต้องพูดคุยหรือไม่ เาะอาจส่งผลกระทบต่อนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในการรับบริการ เพราะมีการพูดเหมือนว่า สปสช.ไม่มีเงินจ่าย นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต้องหารือแน่นอน แต่เราต้องยอมรับวิธีคิดการคำนวณเม็ดเงินต่อหัวประชาชนผู้มีสิทธิ ว่ามีวิะคิดแบบนั้น ภายใต้สมมติฐาน ข้อมูลข้อเท็จจริงของต้นทุนด้านสุขภาพที่คิดแบบนั้น และลักษณะเม็ดเงินเป็นแบบก้อนรวม เวลามากระจายออกไปตามรายการจ่าย ในส่วนของงบยูซีเหมาจ่ายรายหัว และไม่ใช่ยูซี ก็จะมีภาพการกระจายเม็ดเงินออกไป แน่นอนว่าระบบประกันทุกคนต้องมีส่วนร่วมเฉลี่ยทุกเฉลี่ยสุข คนไม่ป่วยช่วยคนป่วย วิธีการคิดระบบประกันต้องคิดให้สอดคล้อง ไม่มีกำไรแน่นอน แต่ทำอย่างไรให้อยู่ได้ไม่ขาดทุน
"จะเคลียร์แล้วเสร็จเมื่อไรตอบไม่ได้ แต่เป็นประเด็นที่ต้องหารือพูดคุยกัน เพราะเราจะเข้าสู่ระบบบัตรประชาชนใบเดียว รักษาทุกที่ เรื่องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลมีผลมากต่อการเข้าร่วมโครงการของภาคเอกชน ถ้าสมเหตุสมผลอยู่ได้ก็เข้าร่วมโครงการ เราก็สามารถเปิดช่องให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวก ลดความแออัดได้มากขึ้น" นพ.ชลน่านกล่าว
ถามว่า สปสช.ต้องเคลียร์ให้แล้วเสร็จก่อนขับเคลื่อนเฟส 2 บัตรประชาชนใบเดียวหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า ก็คงต้องทำควบคู่ไป เฟสสองเราจะไม่หยุดยั้งเพราะเรื่องนี้ เพราะเฟสหนึ่งที่ทำมาก็ไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้ แต่คำนึงว่าจะเปิดช่องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีความพร้อม ระบบมีความพร้อมอย่างไร ป้องกันปัญหาแทรกซ้อน ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นหลัก
ถามว่าก่อนหน้านี้ รพ.สังกัด สธ.ก็มีปัญหาสถานะการเงิน ได้มีการตรวจสอบสถานะการเงินในช่วงนี้ด้วยหรือไม่ว่าเป็นเช่นไร นพ.ชลน่านกล่าวว่า ไม่แตกต่าง เพราะวิธีคิดใกล้คเยงกันในค่าบริการ ที่จ่ายตามลักษณะงานหน่วยน้ำหนัก ก็มีภาพใกล้เคียงกัน แต่ของเราเป็นลักษณะเนื้อใน แยกเงินเป็นสองส่วน การบริหารจัดการของ สธ.ก็ก้อนหนึ่ง และเงินกองทุนเหมาจ่ายรายหัวเป็นภาคบริการ ส่วนสถานะเงินบำรุง รพ.ที่วิกฤตระดับ 6-7 ยังไม่เห็นมีรายงานเข้ามา ส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 3 เป็น รพ.ขนาดเล็ก ซึ่งเรามีแนวทางการแก้ปัญหา 1 จังหวัด 1 รพ. ที่ไหนมีปัญหาควรช่วยเหลือเกลี่ยกัน ไมได้หมายความว่าเงินบำรุงของ รพ.นี้ต้องเป็นของ รพ.นี้อย่างเดียว หากอีกแห่งเดือดร้อนก็สามารถถัวเฉลี่ยกัน
ถามว่าแล้ว UHosNet จะแก้อย่างไร เพราะไม่มีรูปแบบอย่าง สธ. นพ.ชลน่านกล่าวว่า รพ.ของ UHosNet เป็นการรับส่งต่อ ไม่ได้ดูแลในมุมของการส่งเสริมป้องกัน ดูแลแค่สองมิติคือการรักษาและฟื้นฟู การตามจ่ายคิดค่าใช้จ่ายก็ต้องไปดูตรงนั้นว่าสมเหตุสมผลหรือไม่