เจ้าของตัวจริง บุกตัดกุญแจยึดบ้านคืน พร้อมแจ้งจับผู้ “บุกรุก” อ้างเป็นที่ “ปรปักษ์” ปลดป้ายไก่ตะเกียบ เก็บหลักฐานในบ้านส่งตำรวจเอาผิด หลานอากู๋เหมทัศน์ เตรียมเสื้อผ้าเข้านอนคืนนี้
กรณีบ้านปรปักษ์ของหลานอากู๋เหมทัศน์ที่ได้บ้านหลังดังกล่าวเป็นของขวัญแต่งงาน แต่มีข้อพิพาทระหว่างเพื่อนบ้านที่ฟ้องปรปักษ์ อ้างสิทธิ์ว่าครอบครองมาเกิน 10 ปี
ล่าสุดวันนี้ (13 ก.พ.) นายซัน - นางสาวอาย หลานชายและหลานสะใภ้ของอากู๋เหมทัศน์ พร้อมทนายกุ้ง น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ ทีมทนายความของ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เดินทางมาที่ สน.โคกคราม เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อลงบันทึกประจำวันพร้อมขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตัดกุญแจที่บ้านพิพาทและเก็บของกลาง เป็นหลักฐาน
โดยนายซัน บอกว่า ตนเองและภรรยา ในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจ จากอากู๋ ประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับ น.ส.ศรีพรรณ พร้อมกับพวกที่มีการบุกรุกเข้าไปในบ้านพิพาทหลังดังกล่าว ประกอบอาหาร ขายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลา ในคดีฐานบุกรุก ลักทรัพย์และทำให้เสียทรัพย์
ซึ่งตนเองมองว่าเกินที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยกันได้แล้ว เพราะรอบนี้ถือว่าเป็นการบุกรุกครั้งที่ 2 ถึงต้องมีการดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยตนเองได้เก็บหลักฐานไว้หมดแล้วว่ามีใครเป็นผู้บุกรุกบ้าง ไม่กังวลหากทางคู่กรณีไม่แสดงตัวหรือปฏิเสธ เพราะมีหลักฐานชัดเจน ทั้งชื่อนามสกุลและตัวบุคคล
ล่าสุดหลังลงบันทึกประจำวัน และแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจ สน.โคกคราม พร้อมนายซันเจ้าของบ้านและทีมทนายความได้พาช่างกุญแจมาที่บ้านพอพาทดังกล่าว ก่อนที่พนักงานสอบสวนจะถามว่ามีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่ซึ่งไม่มีบุคคลอื่นมาแสดงตัว มีเพียงนายซัน ทายาทอากู๋เท่านั้น
จากนั้นช่างกุญแจ ปีนเข้าไปในบ้านเพื่อมาดำเนินการตัดกุญแจที่หน้าบ้านพิพาท ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีก็สามารถตัดกุญแจเข้าไปด้านในได้ ซึ่งภายในบ้านจะมีข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์ทำครัวโต๊ะ เก้าอี้และเฟอร์นิเจอร์รับแขกบางส่วนอยู่ด้านในบ้านด้วน
โดยทนายกุ้ง เปิดเผยว่า ทรัพย์สินต่างๆภายในบ้านจะต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดไว้เป็นของกลางเป็นหลักฐานและดำเนินคดี เบื้องต้นตอนนี้ 1 คน คือ นางสาวศรีพรรณที่แสดงชื่อแสดงตัวติดป้ายอยู่หน้าบ้าน ส่วนใครที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกครั้งนี้จะต้องให้ตำรวจดำเนินคดีหมดทุกคน หากมีการต่อน้ำ ต่อไฟ มาจากบ้านไหนก็ต้องดำเนินคดีด้วยฐานสนับสนุนในการกระทำผิด ส่วนนายซันวันนี้ก็ขนเสื้อผ้าของใช้จะนอนที่บ้านหลังดังกล่าวคืนนี้ด้วย
ล่าสุดมีการปลดป้ายไวนิลไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาออกและนำป้ายแสดงความเป็นเจ้าของ ของในซันหลานอากู๋ขึ้นมาติดแทนโดยมีข้อความระบุว่า พื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาตหรือเข้ามากระทำการใดๆทั้งสิ้นหากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่น้องไก่ทอดที่ถูกนำเบอร์โทรศัพท์มาขึ้นป้ายไก่ตะเกียบทอดน้ำปลาแจ้งกับทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า เมื่อวานไปติดต่อที่ สภ.หาดใหญ่เพื่อแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ที่นำเบอร์ไปแอบอ้าง แต่ทางร้อยเวรแจ้งกลับมาว่าไม่รู้ว่าจะต้องเขียนสำนวนอย่างไรให้มาใหม่วันนี้เพื่อพบกับหัวหน้าพนักงานสอบสวน