“กัน จอมพลัง” พาแม่ของ ด.ญ. 7 ขวบ ร้อง รอง ผบ.ตร. หลังลูกสาวถูกเจ้าอาวาสวัดใน จ.อยุธยา ล่วงละเมิดทางเพศ แจ้งความผ่านมา 9 เดือน คดีไม่คืบ
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่ สโมสรตำรวจ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาแม่ของเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หลังลูกสาวถูกเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ล่วงละเมิดทางเพศในกุฏิ
นายกัณฐัศว์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุยายซึ่งทํางานเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ภายในวัดดังกล่าว ได้พาหลานสองคนไปทํางานด้วย แต่ต่อมาพบว่า หลานหายตัวไป จึงออกตามหาจนไปเห็นหลานสาวคนโตนั่งอยู่หน้ากุฏิของเจ้าอาวาส จึงเดินไปแอบดูที่หน้าต่างของกุฏิและพบว่า หลานสาวคนเล็กกําลังถูกเจ้าอาวาสล่วงละเมิดทางเพศ รวมถึงมีการเปิดหนังผู้ใหญ่ให้หลานสาวดู ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทําให้ยายเกิดอาการช็อกก่อนจะเข้าไปช่วยหลานออกมาและเดินทางกลับที่พัก
หลังจากนั้น เจ้าอาวาสได้ตามมาและพยายามพูดคุยขอไกล่เกลี่ยทํานองว่า ไม่ให้แจ้งความดําเนินคดีและจะเพิ่มเงินเดือนให้ยาย รวมถึงส่งเสียค่าเล่าเรียนให้กับหลานสาวที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งตอนที่เจ้าอาวาสมาขอไกล่เกลี่ยและรับสารภาพว่าล่วงละเมิด ทั้งนี้ ยายได้มีการแอบถ่ายคลิปเอาไว้ทั้งหมด แต่สุดท้ายถูกหญิงคนสนิทของเจ้าอาวาส ซึ่งทํางานอยู่ในวัดเช่นเดียวกันเข้ามาขอคลิปที่ถ่ายไว้ อ้างว่า จะนําไปต่อรองกับเจ้าอาวาส แต่สุดท้ายเป็นการทําเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เนื่องจากหญิงคนสนิทของเจ้าอาวาสอาศัยอยู่บนที่ดินของวัดและกําลังจะถูกยึดที่คืน จนสุดท้ายมีการลบคลิปวิดีโอทั้งหมดเหลือเพียงคลิปที่หลานเล่าเหตุการณ์ให้ยายฟังเท่านั้น
ด้านแม่ของเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2564 แต่ตนเพิ่งทราบเรื่องเมื่อปี 2566 ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา แต่ผ่านมา 9 เดือน คดีไม่คืบ โดยตํารวจอ้างว่า พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ เพราะคลิปที่หลานล่าเหตุการณ์ให้ยายฟังนั้นเป็นเพียงการบอกเล่ารวมถึงได้ส่งเด็กตรวจร่างกายแล้วก็ไม่พบร่องรอยของการถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพราะเรื่องผ่านมานานกว่า 2 ปี ทําให้ตรวจไม่พบอะไรทั้งสิ้น เบื้องต้นตํารวจเรียกเด็กไปสอบปากคําร่วมกับสหวิชาชีพแล้วแต่คดีก็ยังคงอยู่ที่โรงพัก
ทั้งนี้ แม่ของเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ กล่าวทั้งนํ้าตาว่า ตนรู้สึกเครียดมากและอับอายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงยังถูกคนสนิทของเจ้าอาวาสขู่ด้วยว่าหากหลักฐานไม่เพียงพอ และนําไปแจ้งความอาจเป็นการขู่กรรโชกทรัพย์และอาจถูกเจ้าอาวาสฟ้องร้องกลับได้
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนได้ติดต่อไปยัง ผกก.สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา แล้ว เบื้องต้นทราบว่าพนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง แต่ทางผู้กํากับยังไม่เซ็น ตนจึงนัดให้นําสํานวนมาให้ตรวจสอบภายในวันนี้