xs
xsm
sm
md
lg

"กิตติ์ธเนศ" ชน "บิํกโจ๊ก" โปลิสจับตำรวจ ใครคนจริง ใครของเก๊

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันพุธที่ 31 มกราคม 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ "กิตติ์ธเนศ" ชน "บิํกโจ๊ก" โปลิสจับตำรวจ ใครคนจริง ใครของเก๊



การทำงานให้โครมครามในแนวทาง “โปลิศจับตำรวจ” ของบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กำลังกลับกลายมาเป็นหอกทิ่มแทงตัวเอง

หรือกลายเป็นกรรมที่กำลังตามไล่ล่าตัวบิ๊กโจ๊ก ในยุคที่กำลังอับแสง หน้าตาหม่นหมอง อย่างในทุกวันนี้

ตำรวจที่เคยต้องเดือดร้อนสาหัส จากวิธีการเฉพาะตัวของบิ๊กโจ๊ก ออกมาทวงความยุติธรรมให้ตัวเอง เขาคือ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน อดีต ผบก.ชลบุรี เพิ่งขึ้นศาลเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่ยื่นฟ้องบิ๊กโจ๊ก ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
จากการให้สัมภาษณ์ออกสื่อ เมื่อปี 2565

ซึ่งกล่าวหาว่า พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ มีพฤติกรรมเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา คดีคนร้าย 6 คน ยกพวกบุกยิงรถคู่อริ ที่พูลวิลล่าแห่งหนึ่ง ย่านจอมเทียน แล้วจัดการดำเนินคดีกับ พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ

จน พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ต้องเผชิญวิบากกรรมมาจนทุกวันนี้ ต้องกระเด็นหลุดจากเก้าอี้สำคัญอย่างผู้การชลบุรี มาอยู่ในกรุ เป็น ผบก. ประจำ บช.สันติบาล แล้วก็มีคดีอาญา ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คาอยู่ในชั้น ป.ป.ช.

พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ก็ไม่งอมืองอเท้า จัดการแจ้งความดำเนินคดีอาญากับบิ๊กโจ๊ก ที่สภ.เมืองชลบุรี เช่นกัน เป็นคดีคาอยู่ใน ป.ป.ช.เหมือนกัน

คดีอาญาที่ทั้งสองฝ่าย แจ้งจับกันไปมา ยังไม่รู้จะจบวันใด แต่ที่จบลงเรียบร้อยแล้ว คือการสอบสวนทางวินัย
คณะกรรมการสอบสวนมีมติ 8 ต่อ 0 เมื่อเดือน ก.ย. 2566 ว่า พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ไม่ได้กระทำผิดตามที่บิ๊กโจ๊กตั้งเรื่องขึ้นมากล่าวหา

ทั้งนี้ เหตุการณ์ยิงกันที่พูลวิลล่าครั้งนั้น พล.ต.ต.กิตติธเนศ ชี้แจงว่า ทางตำรวจชลบุรี ไม่ได้มีพฤติกรรมเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาใดๆ ทั้งสิ้น
แต่ความวุ่นวายเกิดขึ้น เพราะฝ่ายผู้ต้องหา ดันส่งผู้ต้องหาตัวปลอม 2 คน มาแสดงตัว รับสมอ้างว่าเป็นคนลงมือ

แต่พนักงานสอบสวนก็พิสูจน์เบื้องต้น ด้วยการตรวจสอบใบหน้าคนร้าย เทียบกับกล้องวงจรปิดแล้ว พบว่าเป็นคนละคนกัน

จากนั้น มีการเรียกตัวเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจลายมือ เขม่าดินปืน เก็บดีเอ็นเอ เอาไปเปรียบเทียบกับในที่เกิดเหตุ

แล้ววันเดียวกันนั้นเอง ผู้ต้องหาอีก 2 คน ก็โผล่มามอบตัวอีก ซึ่งตอนนั้น ยังไม่มีการออกหมายจับใคร จึงไม่สามารถจับกุมใครได้

จนพิสูจน์ได้แน่ชัดในเวลาต่อมา ว่าผู้ต้องหา 2 คนแรก เป็นตัวปลอม ส่วน 2 คนหลังเป็นตัวจริง

ปัญหาเกิดขึ้น เพราะในขั้นตอนตรวจสอบ ใครเป็นคนร้ายตัวจริงตัวปลอมนั้นเอง มือขวาคนดังของบิ๊กโจ๊ก คือ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิสมัย ถูกส่งมาสังเกตการณ์การสอบสวนด้วย

แล้วไปๆมาๆ ข้อเท็จจริงก็ถูกพลิกไปอีกทาง กลายเป็นว่า ผู้การชลบุรี เปลี่ยนตัวผู้ต้องหา ซะอย่างนั้น

พ.ต.อ.เขมรินทร์ ณ เวลานั้น ก็ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่ปัจจุบัน ถือว่าเป็นตำรวจที่ดังกระหึ่มเมืองไปแล้ว ในฐานะหวานใจของเจ้าแม่เว็บพนัน “มินนี่” อายุน้อยร้อยเว็บ

และ พ.ต.อ.เขมรินทร์ ก็โดนข้อหารับเงินส่วยจากเว็บพนันไปแล้ว

พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ จึงแจ้งจับบิ๊กโจ๊ก พร้อม พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภาค 2 ขณะนั้น
กล่าวหาว่า สมคบกัน ช่วยเหลือ หรือสนับสนุน ให้ พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัย กับพวก เข้าทำคดี โดยไม่มีอำนาจหน้าที่ เป็นความผิดกฎหมาย พรป.ปปช. 2561 ม.171 ประกอบ ป.อาญา ม.83 และ 86

และกลั่นแกล้งอดีตผู้การชลบุรี ให้ได้รับความเสียหาย ต้องรับโทษทางอาญาและวินัย เป็นความผิดกฎหมาย ป.อาญา ม.200 วรรคสอง ม.267 ม.157 ประกอบ ม.83 และ 86

พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ กล่าวว่า “ผมต่อสู้คดี ไม่ได้ต่อสู้ว่าผมไม่ได้ผิดนะ แต่ผมสู้ว่าผมไม่ได้ทำ ผมบริสุทธิ์ ผมสู้เพื่อพิสูจน์ความจริง เพราะฉะนั้น ถึงจะเป็นรองโจ๊ก ผมก็จะใช้สิทธิ์ในทางกฎหมาย ในทุกกรณี”

และย้ำว่า “ความจริงมีหนึ่งเดียว”

--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น