รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 วันจันทร์ที่ 29 มกราคม 2567 นำเสนอรายงานพิเศษ "ต้นหอม" ถึงสาวจีน ด้านมืดมีดหมอเกาหลี ผ่าหน้า ทำสวยก็เละได้
ซอฟต์เพาเวอร์ของเกาหลี ได้รับแรงกระแทกอย่างแรงจากจีน เมื่อเกิดเหตุ สาวชาวจีนต้องสังเวยชีวิต จากการเดินทางไปทำศัลยกรรมความงาม ที่ประเทศเกาหลีใต้
ถึงขนาดสถานทูตจีนประจำประเทศเกาหลีใต้ ต้องออกแถลงการณ์เตือนภัยคนจีน ที่ต้องการ “สวยทางลัด” ต้องระวังให้ดี
ธุรกิจเสริมความงามของเกาหลี บันดาลให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ หรือการท่องเที่ยวเพื่อความงาม Beauty Tourism ดึงดูดผู้คนให้เดินทางมายังเกาหลีถึงปีละเกือบ 500,000 คน มีมูลค่าการตลาดถึง 71,000 ล้านบาทต่อปี
เกาหลีจึงเป็น “เมืองหลวงแห่งการศัลยกรรมโลก” เฉพาะที่กรุงโซลแห่งเดียว ก็มีสถานเสริมความงามหลายพันแห่ง มีหมอเสริมความงามในเกาหลีเกือบ 3,000 คน ครองสัดส่วนการตลาดศัลยกรรมความงามไปถึง 25% ของโลก
ลูกค้าประมาณครึ่งหนึ่งเป็นคนเกาหลีเอง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นคนชาวต่างชาติ จากจีน ญี่ปุ่น สหรัฐ และไทย
คนไทยคนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งมีข่าวน่าหวาดเสียวกับการบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี ก็คือ ดาราพิธีกรดัง “ต้นหอม” ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ เธอเผชิญอาการไม่พึงประสงค์ ใบหน้าบวม ผมร่วง
ต้องใช้เวลานานทีเดียว กว่าจะรักษาให้หายดีเป็นปกติ สามารถปรากฏตัวมาโชว์ใบหน้าใหม่ คล้ายนางเอกเกาหลีดัง “ซอง เฮ เคียว”
สำหรับเหยื่อศัลยกรรมเกาหลีที่ถึงแก่ความตาย เป็นสาวจีน วัย 29 ปี เธอสิ้นใจลงเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการไปดูดไขมันที่ย่านกังนัม ของกรุงโซล 3 ครั้ง
ปรากฏว่า เธอเกิดอาการผิดปกติร้ายแรง ไม่สามารถขยับตัวได้เลย มีอาการเจ็บแผลตรงจุดที่ดูดไขมันอย่างรุนแรง
เมื่อได้รับการส่งตัวไปพบแพทย์ที่เกาหลี ในสภาพสาหัส แพทย์ตรวจพบว่า เธอติดเชื้อจากการดูดไขมัน ทำให้เกิดเนื้อตาย กล้ามเนื้อเน่าเปื่อย สุดท้ายก็เสียชีวิตลง
โดยก่อนจากโลกไป เธอปล่อยคำพูดสุดท้ายออกมาว่า “เจ็บมากเหลือเกิน”
เมื่อพลิกย้อนประวัติการทำศ้ลยกรรมที่ผิดพลาดของเกาหลี สาวจีนคนนี้ไม่ใช่รายแรก กล่าวคือ เมื่อเดือนมกราคม 2566 หญิงชาวจีนวัย 20 ปี เสียชีวิตคาสถานเสริมความงามในกรุงโซล เพราะหัวใจหยุดเต้นไปเลย
ปี 2563 หญิงชาวฮ่องกงเสียชีวิต ระหว่างทำศัลยกรรมในเกาหลีใต้ เนื่องจากผลข้างเคียงที่เกิดจากยาที่ใช้ระงับประสาท
ปี 2562 หญิงชาวจีนวัย 29 ปี กลายเป็นอัมพาต เนื่องจากสมองได้รับความเสียหาย หลังจากเข้ารับการศัลยกรรมในเกาหลีใต้
คดี้มีการฟ้องร้อง ซึ่งศาลเกาหลีใต้ตัดสินให้โรงพยาบาลชดใช้ค่าเสียหายให้เป็นเงิน 1,000 ล้านวอน หรือประมาณ 30 ล้านบาท
ปี 2557 หญิงชาวจีน 3 คน ต้องมีใบหน้าเสียโฉม ทั้งหน้าผิดรูป จมูกเบี้ยว ปากชา โหนกแก้มไม่เท่ากัน มีรอยแผลเป็นที่ตา จนต้องใส่หน้ากากและสวมหมวกปิดบังใบหน้าไปตลอดชีวิต ผลจากการไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีใต้
สำหรับกรณีล่าสุด ที่สถานทูตจีนต้องออกมาเตือนคนของตัวเองนั้น ก็ถูกตอบโต้จากสมาคมศัลยแพทย์ของเกาหลี ว่าจีนอย่าเอาความผิดพลาดส่วนน้อย มาด้อยค่ามาตรฐานฝีมือศัลยกรรมของเกาหลี ซึ่งถือเป็นเบอร์ 1 ของโลก
ที่โลดโผนมาก เห็นจะเป็นประวัติความเป็นมาของการศัลยกรรมความงามของเกาหลี เกิดขึ้นในสมัยสงครามเกาหลีโน่น เมื่ออาจารย์แพทย์ผ่าตัดชาวสหรัฐ เดวิด ราฟ มิลลาร์ด เดินทางมาประจำการในกองทัพสหรัฐ ระหว่างสงครามเกาหลี
หน้าที่หลักของหมอมิลลาร์ด คือทำศัลยกรรมให้ทหารและประชาชนที่บาดเจ็บจากสงคราม
จุดเปลี่ยนเกิดขึ้น เมื่อล่ามชาวเกาหลี ขอร้องให้หมอมิลลาร์ด ช่วยผ่าตัดให้เขามีดวงตากลมโต เพราะตาหยีๆ ของเขา มันดูไม่น่าเชื่อถือ
นับจากนั้นเป็นต้นมา หมอสหรัฐผู้นี้ ก็เปิดบริการเสริมจมูกและทำตาสองชั้น อย่างเป็นล่ำเป็นสัน และยังฝึกสอนหมอลูกศิษย์ชาวเกาหลีไว้เป็นจำนวนมาก ก่อนที่เขาจะบินกลับบ้านเกิด
กระแสทำศัลยกรรมในเกาหลี มาได้รับความนิยมสุดขีด จากกระแสเคป๊อป ซึ่งดารานักร้อง ต่างเข้ารับการเสริมความงามกันแทบทั้งสิ้น ส่งผลให้ปัจจุบันนี้ สาวเกาหลีถึง 30% และหนุ่มเกาหลี 4% เคยผ่านการศัลยกรรมความงาม
ทุกคนต่างฝันถึงมาตรฐานความงามแบบไอดอลเกาหลีทั้งหลาย คือใบหน้า V-shaped ตาสองชั้น ผอมบาง ผิวขาวใส ที่ทุกคนยอมจ่ายเงินลงทุนจำนวนมาก และยอมแลกด้วยความพิการ หรืออาจจะถึงตายก็ไม่หวั่น
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android