“ศรีสุวรรณ-เจ๋ง ดอกจิก” ได้ประกันตัวคนละ 4 แสน ยันไปเหยียบตาปลากลุ่มข้าราชการระดับสูง จนเสียผลประโยชน์จากการร้องเรียนวางแผนล้ม ขอเอฟซีมั่นใจจะเดินหน้าตรวจสอบคนโกงชาติอย่างเข้มข้นต่อไป ด้านทนายความชี้เป็นเรื่องผิดวิสัย เรียกสินบนแล้วให้เงินมาแขวนหน้าบ้าน
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปปป.ได้ดำเนินการสอบปากคำ นายศรีสุวรรณ จรรยา ในคดีข่มขู่เรียกรับเงิน นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าวนานกว่า 9 ชม. ในประเด็นต่างๆ พร้อมทั้งให้ชี้แจงภาพบริเวณจุดทิ้งถุงเงิน โฉนดที่ดิน 5 แปลง เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ รวมถึงของกลางที่ตรวจยึดมาจากบ้านพักที่จังหวัดปทุมธานี ก่อนแจ้งข้อหาฐาน “สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐเรียกรับทรัพย์หรือประโยชน์อื่นใด โดยมิชอบ, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใดฯ” ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง
โดย นายศรีสุวรรณ จรรยา เปิดเผยหลังสอบปากคำเสร็จสิ้น ว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาไม่มีอะไร ถือเป็นเรื่องธรรมดา ตนอยู่ตรงนี้เหมือนเดินฝ่าฝน มันต้องเปียกเป็นธรรมดา อย่างเรื่องการยื่นตรวจสอบนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง พวกนี้เป็นเรื่องที่ตนทำมาอย่างเข้มข้นและก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อย่างชัดเจน เพราะเราเชื่อมั่น และแน่นอนว่าหลังจากนี้จะทำหน้าที่ร้องเรียนต่อไป เพราะยังมีคนที่ต้องการให้ศรีสุวรรณทำหน้าที่นี้อยู่ ทั้งการฟ้องร้องคดีความให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมทั้งการจับผิดข้าราชการและนักการเมืองที่อาจเข้าข่ายการทุจริตและคอรัปชั่น ซึ่งก็มีจำนวนมาก พวกคุณเป็นผู้สื่อข่าวก็น่าจะรู้ว่าคนเหล่านี้ใช้อำนาจรัฐในการดำเนินการต่าง ๆ ซึ่งมาทำหน้าที่ตรงนี้ในประเทศไทยเหมือนเป็นตัวเด่นที่สุด การที่จะล้มศรีสุวรรณลงไปได้ การที่จะทำลายชื่อเสียงศรีสุวรรณลงไปได้ มันจะทำให้คนเหล่านี้แฮปปี้สบายใจ
“ยืนยันว่า ผมไม่ได้มีการเรียกรับเงิน ส่วนกรณีเรื่องโยนเงินของกลางทิ้งข้างบ้านนั้น ขอเท็จจริง คือ เขาได้มีการเอาเงินไปแขวนไว้ แฟนผมไม่รู้จึงนำมาให้ดู ผมก็ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับเงินดังกล่าวจึงต้องปัดออกไปก่อน แน่นอนว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็จะไปเหยียบตาปลาของผู้มีอำนาจ การเตะศรีสุวรรณให้ล้มลงได้ก็จะทำให้คนเหล่านี้ผยองขึ้นมาได้ ดังนั้น เป็นเรื่องที่ผมทำใจมาโดยตลอดอยู่แล้ว” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่าตกใจแต่ไม่เสียขวัญ ยังมีกำลังใจ เชื่อมั่นว่า เอฟซีทั่วประเทศก็ยังให้ความเชื่อมั่นและพร้อมจะเดินเคียงคู่ไปด้วยกัน ในการทำงาน ส่งข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ การตรวจสอบข้าราชการ นักการเมืองที่ประพฤติมิชอบ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ตนต้องทำอยู่แล้ว
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า มั่นใจว่า ถูกกลั่นแกล้งแน่นอน โดยเฉพาะจากผู้ที่สูญเสียอำนาจหรือผู้ที่ถูกตนตรวจสอบมาโดยตลอดเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา เพราะทุกคนก็รู้อยู่ว่าตนสามารถล้มใครไปได้เยอะแยะมากมาย ทั้งพรรคการเมือง ทั้งนักการเมือง ส่วนผู้เสียหายในคดีนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ตนได้ส่งข่าวให้นักข่าวว่าจะตรวจสอบเขาอย่างเข้มข้น เขาเองก็ต้องวิตกและพยายามหาหนทางในการหาเหตุล้มตนให้ได้ ทั้งนี้ ตนมีข้อมูลชัดเจนในการที่จะหักล้างสิ่งเหล่านี้ได้ ขอแค่พี่น้องเรา สื่อมวลชนและเอฟซีทั่วประเทศเชื่อมั่นว่าตนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและสามารถที่จะชี้แจงต่อพนักงานเจ้าหน้าที่และกระบวนการนี้ได้อย่างเชื่อมั่น
“ผมเดินเข้ามาในตึกนี้ บอกให้เชื่อมั่นในศรีสุวรรณ เพราะศรีสุวรรณจะยังทำหน้าที่นี้ต่อไปไม่หยุดหย่อน ซึ่งคนที่ผมไปเหยียบตาปลา เป็นตาปลาระดับประเทศ” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า หลังจากได้รับการประกันตัวก็จะต้องเข้ารายงานตัวกับพนักงานสอบสวน ไม่ได้มีเงื่อนไขใด และจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญต่อไป และจะตรวจสอบนักการเมืองต่อไป ส่วนภรรยาของตนไม่ตกใจ ภรรยาพร้อมที่จะสู้และเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับตนตลอดเวลา เพราะเราเผชิญปัญหาต่างๆ ด้วยกันมาตลอดอยู่แล้ว
ขณะที่ทนายความของนายศรีสุวรรณ เผยว่า มองว่า ในเรื่องนี้มันผิดวิสัย การที่จะไปเรียกรับเงินแล้วให้นำถุงเงินมาแขวนหน้าบ้าน ก็ขอฝากให้ทุกคนไปคิดดูว่าความจริงมันผิดวิสัย เพราะถ้าเขาจะไปเรียกรับเงิน หากเป็นคดีต่างๆ มันก็ผิดวิสัยในการจะรับเงิน ทำไมต้องไปใส่ถุงแขวนหน้าบ้าน ส่วนเรื่องที่ตำรวจบอกว่ามีการโอนเงินก่อนหน้านี้แล้วนั้น รายละเอียดนี้ตนยังไม่ทราบดี อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันเป็นข้อเท็จจริงที่ปรากฏก็จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานเข้ามา มันจึงยังไม่สามารถสรุปหรือพิจารณาให้ชัดเจนได้ ทั้งนี้การได้รับประกันตัวของนายศรีสุวรรณไม่มีเงื่อนไขอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายศรีสุวรรณ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมยื่นเงินสด จำนวน 400,000 บาท เพื่อขอประกันตัวในชั้นสอบสวน ซึ่งพนักงานสอบสวนไม่คัดค้านและอนุญาตให้ประกันตัว ก่อนนายศรีสุวรรณและภรรยาเดินทางกลับที่พักและยืนยันจะไม่มีการแถลงข่าวแต่อย่างใด
ด้าน นายยศวริศ หรือ เจ๋ง ดอกจิก ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเมื่อถูกถามว่า ได้เรียกรับเงินจริงหรือไม่ โดยเจ้าตัวตอบเพียงสั้นๆ ว่า ไม่มีๆ พร้อมส่ายหน้าปฏิเสธ และได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 400,000 บาท เพื่อขอประกันตัวเช่นเดียวกัน