สามแม่ลูกตระกูลพรประภา ดอดพบตำรวจ ปอศ. เข้ารับทราบข้อหา หลังมีชื่อพัวพันคดีหุ้นมอร์ เผยออกหมายจับ “ปิงปอง อภิมุข” ตัวการสำคัญแล้ว
วันนี้ (22 ม.ค.) นางอรพินธุ์ พรประภา พร้อมด้วย นายเอกภัทร หรือ ไฮโซคิม และนายอธิภัทร พรประภา บุตรชายทั้งสอง เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. ตามหมายเรียกของคณะพนักงานสอบสวนคดีปั่นหุ้นมอร์ เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ,อั้งยี่ซ่องโจร และ ร่วมกันฉ้อโกง “ หลังพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว
นายเอกภัทร หรือ ไฮโซคิม กล่าวว่า วันนี้เป็นการมาเข้าพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังตกเป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา หรือ ผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่ผ่านมาตนเองบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อย่างที่รู้กันว่าผมมีพื้นฐานที่ดี เรื่องที่เกิดขึ้นถ้าตนไม่บริสุทธิ์ใจจริงก็คงไม่มา ส่วนข้อเท็จจริงต่างๆจะข้อชี้แจงกับทางตำรวจ ซึ่งได้เตรียมพยานหลักฐานและขอมูลมาไว้หมดแล้ว
“ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนายอภิมุข บำรุงวงศ์ หรือ “ปิงปอง” ยอมรับว่ารู้จักกันจริง แต่พึ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ประมาณ 3-4 เดือนเท่านั้น ที่ผ่านมาไม่เคยเล่นหุ้น ปกติครอบครัวจะเป็นคนลงทุนโดยใช้ชื่อของตน กระทั่งเห็นว่าขาดทุนจึงหันมาบริหารดูแลเอง แต่เนื่องจากเป็นคนกระหายความสำเร็จ จับปลาหลายมือ จึงไปจ้างคนมาดูแลเรื่องการลงทุนแทน จึงทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น ถือเป็นบทเรียนสำคัญ” นายเอกภัทร กล่าว
ทั้งนี้คดีดังกล่าวมาจากกรณีสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบพบความผิดปกติเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นของบริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) ในช่วงระหว่างวันที่ 18 ก.ค. 2565 – 10 พ.ย. 2565 ที่ส่อเค้าเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย จนมีการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ก่อนที่ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษจะรับเรื่องเป็นคดีพิเศษ ก่อนที่ต่อมาทาง สำนักนายกรัฐมนตรีจะมีคำสั่งให้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางมาเข้าร่วมอยู่ในขณะทำงานเพื่อเร่งรัดคลี่คลายคดีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของ นายอภิมุข บำรุงวงศ์ หรือ “ปิงปอง” ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีดังกล่าวนั้น ก่อนหน้าพนักงานสอบสวนได้มีการออกหมายเรียก แต่ไม่มีการตอบรับ หรือให้ความร่วมมือ เข้าข่ายมีพฤติกรรมหลบหนี จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลอาญา ออกหมายจับ ในความผิดฐาน “สร้างราคาหลักทรัพย์ อั้งยี่ซ่องโจรและร่วมกันฉ้อโกง” ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการสืบสวนแกะรอยตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลา 17.30 น. วันเดียวกัน พ. ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ. กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำเบื้องต้นแล้ว โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ส่วนรายละเอียดข้อเท็จจริงต่างๆ จะขอทำเป็นเอกสารชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดส่งกลับมาให้พนักงานสอบสวนพิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการแจ้งข้อกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่าทั้งหมดไม่มีพฤติกรรมในการหลบหนี มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ประกอบกับเป็นการมารับทราบข้อหาตามหมายเรียกไม่มีการออกหมายจับ จึงอนุญาตให้ได้รับการปล่อยตัวกลับไป โดยจะนัดหมายมาเข้าอีกครั้งหากมีบางประเด็นที่ยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติม