MGR Online - ฝ่ายกฎหมายกระทรวงเกษตรฯ และเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ เข้าพบ รมว.ยุติธรรม หารือแลกเปลี่ยนข้อมูลนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อน ด้าน “อธิบดีกรมปศุสัตว์” ยันไม่รู้จัก “เฮียเก้า” เป็นการส่วนตัว
วันนี้ (16 ม.ค.) เวลา 14.45 น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อม นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ตัวแทนฝ่ายกฎหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเจ้าหน้าที่สารวัตรปศุสัตว์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวข้องกับขบวนการสวมสิทธิส่งออกตีนไก่ โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายการเมือง รับเรื่อง และใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมง
นายธนดล กล่าวว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำคณะราชการกรมปศุสัตว์เข้าพบ รมว.ยุติธรรม เนื่องจากเรื่องนี้เป็นประเด็นที่ทำให้สังคมเคลือบแคลงใจต่อข้าราชการของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งจากการหารือถือเป็นนิมิตหมายที่ดี หลังจากนี้ หากดีเอสไอ ต้องการข้อมูลด้านใด ทั้งเอกสารหลักฐานหรือพยานบุคคลกระทรวงเกษตรฯ ก็ยินดีที่จะสนับสนุน
นายธนดล กล่าวอีกว่า ตนไม่ปฏิเสธว่า มีเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ ซึ่งทุกองค์กรล้วนมีคนดีและไม่ดี แต่ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้มีหนังสือสั่งการแล้วว่าหากพบข้าราชการในกระทรวงที่ทุจริต นอกจากจะถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงแล้วจะต้องถูกดำเนินคดีตามมาตรา 157 ด้วย และหากพบพยานหลักฐานก็สามารถออกหมายจับได้เลย
“ส่วนการดำเนินคดีเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวนว่าจำเป็นต้องเชิญใครมาบ้าง ยืนยันว่าวันนี้ไม่ใช่เป็นการออกหมายเรียก ไม่ใช่การมาบอกให้ถอนหมายจับ และไม่ได้มาในฐานะผู้ต้องหา แต่มาในฐานะหน่วยงานที่ถูกเคลือบแคลง และยังไม่มีการเรียกข้อมูลด้านใดเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องรอกรมสอบสวนคดีพิเศษทำหนังสือแจ้งมา หากพบว่าเฮียเก้าทำผิดก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย และหากอธิบดีกรมปศุสัตว์ทำผิด ก็ให้ว่าไปตามกฎหมายเช่นกัน” นายธนดล กล่าว
ด้าน นายสัตวแพทย์ สมชวน กล่าวยืนยันว่า ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับ “เฮียเก้า” หรือ นายหลี่ เซิ่งเจียว หนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการลักลอบสวมสิทธิ์ตีนไก่ โดยกรมปศุสัตว์มีหน้าที่ต้องประสานงานกับบริษัทเอกชนมากมายในการค้าระหว่างประเทศ จึงเป็นธรรมดาที่จะรู้จักกับบุคคลต่างๆ ในนามของบริษัทเอกชนที่เข้ามาพูดคุยและขอถ่ายรูป แต่เมื่อเกิดเป็นคดีความและมีการนำภาพไปเปิดเผยก็ทำให้กลายเป็นจำเลยของสังคม
ส่วนกรณีที่มีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน เป็นช่วงที่เข้ามาดำรงตำแหน่งแล้วหรือยังนั้น นายสัตวแพทย์ สมชวน กล่าวว่า ตนเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมปศุสัตว์ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2565 ก่อนหน้านั้น ตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการ ช่วงปี 2564 พร้อมรักษาการอธิบดีกรมประมง ซึ่งไม่สามารถออกนโยบายอะไรได้ เพราะเป็นการเข้าไปดำรงตำแหน่งรักษาการเท่านั้น นอกจากนี้ ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ก็พยายามปราบปรามขบวนการหมูเถื่อนมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายสมบูรณ์ เผยว่า จากการพูดคุยในวันนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้ยืนยันว่า จะดำเนินการตามพยานหลักฐานที่แท้จริง ไม่มีการปกป้องผู้ใดเป็นพิเศษและไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง หลังจากนี้ หากอธิบดีกรมปศุสัตว์และคณะ ประสงค์จะเข้ามาชี้แจงรายละเอียดก็สามารถดำเนินการได้ ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือจะทำเอกสารชี้แจงในภายหลัง และยืนยันว่าการขอเข้าพบเพื่อขอไม่ให้ออกหมายจับอธิบดีกรมปศุสัตว์นั้นไม่เป็นความจริง หากเป็นเรื่องจริงคงเจรจากันในทางลับ ไม่แจ้งให้สื่อมวลชนมาทำข่าว และคงไม่มีใครกล้ามาขอเรื่องนี้กับ รมว.ยุติธรรม และขณะนี้ยังไม่มีขั้นตอนการออกหมายเรียกข้าราชการระดับสูงตามที่เป็นกระแสข่าว ส่วนหลังจากนี้จะพิจารณาออกหมายเรียกใครบ้างนั้นก็ขึ้นอยู่กับดุลย์พินิจของพนักงานสอบสวน
ทางด้าน พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่มีการกดดันพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษในการทำคดีมีเพียงการให้กำลังใจเสียมากกว่า แต่ไม่ขอตอบในรายละเอียดของคดี เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการชี้นำ ขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดีกว่า
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงกรณีคลิปเสียงของนายมานพ ผู้สื่อข่าวพิเศษสำนักข่าวแห่งหนึ่งกับ อดีตอธิบดีกรมปศุสัตว์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการเจรจาวิ่งเต้นคดีนั้น ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการตรวจสอบ เพราะหลักฐานต่างๆ ก็สามารถนำมากล่าวอ้างได้อยู่แล้ว ส่วนการเอาผิดข้าราชการระดับสูงหรือนักการเมืองนั้น พนักงานสอบสวนจะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดตามอำนาจหน้าที่
ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ด้วยหรือไม่นั้น ยอมรับว่า มีการพูดคุยกัน และ ร.อ.ธรรมนัส ยินดีที่จะร่วมมือสนับสนุนข้อมูลทุกอย่าง หากต้องการข้อมูลก็สามารถติดต่อมาได้
