MGR Online - “อัจฉริยะ” ชักไม่มั่นใจการทำคดีหมูเถื่อน-ไก่เถื่อน หลังกระบวนการตรวจสอบเริ่มชะงัก หวั่นเป็นมวยล้มต้มคนดู เตรียมยื่นชี้แจง กมธ.ความมั่นคงฯ วันที่ 28 ม.ค.นี้
วันนี้ (16 ม.ค.) ที่กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารบี ชั้น 8 ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อพาพยานปากสำคัญในขบวนการสวมสิทธิตีนไก่ที่เคยได้ให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ตั้งแต่ปี 2565 มาขอรับการคุ้มครองพยาน จนสามารถขยายผลจับกุมขบวนการของ หลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” ได้ แต่สุดท้ายพนักงานสอบสวนไม่นำหลักฐานประกอบไว้ในสำนวน ทั้งยังถูกนายหยาง ยา ซุง หนึ่งในผู้ต้องหาชาวไต้หวัน ขบวนการสวมสิทธิตีนไก่ที่เข้ามอบตัววานนี้ (15 ม.ค.) ขู่ฆ่ามาตั้งแต่ปี 2565 แต่ยังถูกพนักงานสอบสวนเรียกเข้ามาให้ข้อมูล จึงเห็นว่า มีความไม่ชอบมาพากล และเป็นห่วงความปลอดภัย โดยจะพาเข้าพบ พ.ต.อ.ณัฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าชุดสอบสวนคดีหมูเถื่อนด้วย
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ขณะนี้เหลือความเชื่อมั่นในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ถึงร้อยละ 30 มีเพียงพนักงานสอบสวนบางกลุ่มที่ยังเชื่อใจได้ไม่กี่คน เช่น พ.ต.อ.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าชุดคดีหมูเถื่อน เนื่องจากข้อมูลทุกอย่างที่สอบสวนเพื่อดำเนินการจับกุมขบวนการค้าสัตว์เถื่อนกว่า 80% มาจากตนเอง และสามารถเชื่อมโยง ติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด ทั้ง ข้าราชการระดับสูง นักการเมือง แต่ผลที่เกิดขึ้นทำให้ตนเองเริ่มไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ เนื่องจากเห็นตัวอย่าง กรณีขบวนการค้าหมูเถื่อนก่อนหน้านี้ที่กระบวนการเข้าตรวจสอบชะงักกลางคัน และไม่เดินหน้าต่อทั้งที่มีพยานหลักฐานที่สามารถเชื่อโยง ไปถึงอดีตรัฐมนตรี ป.ปลา ซึ่งเป็นผู้บงการรายใหญ่ อีกทั้งไม่มีการเข้าตรวจค้นห้างสรรพสินค้าขายปลีกรายใหญ่ ทั้งที่มีการนำหมูเถื่อนไปขายให้กับประชาชนเช่นกัน จนสุดท้ายก็เงียบหายไป
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า คดีสวมสิทธิตีนไก่เถื่อนนี้ ก็เชื่อว่า มีแนวโน้มจะเงียบหายไปด้วยเช่นกัน เพราะมีการใช้อิทธิพลจากนักการเมืองเข้ามาแทรกแซง วิ่งเต้น และรับผลประโยชน์กัน จึงเห็นว่า คงต้องพึ่งพาฝ่ายค้าน ในวันที่ 18 ม.ค.นี้ จะนำหนังสือหลักฐานทั้งหมดไปยื่นให้กับ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบและกดดันการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอาผิดผู้เกี่ยวข้องให้ได้ต่อไป
“ทั้งนี้ ในคดีลักษณะดังกล่าวที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐกระทำความผิด มักจะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.พิจารณาชี้มูล แต่กลับไม่ดำเนินคดีอาญา เพราะมีเจตนาปกป้องกลุ่มผู้กระทำความผิดที่มีผลประโยชน์ต่อกัน ซึ่งผมเชื่อมั่นว่าหากดำเนินคดีอาญาผู้กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษทั้งหมดเนื่องจากมีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอ”
นายอัจฉริยะ ยังฝากไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ มีรายงานว่า นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และตัวแทนฝ่ายกฎหมายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเข้าพบ โดยมีข้อมูลว่า เป็นการร้องขอไม่ให้ออกหมายจับตนเอง และข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยอ้างว่า เป็นข้าราชการระดับสูง และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่หลบหนีนั้น ตนเองรู้ข้อมูลทุกอย่าง ดังนั้น จึงไม่ควรปกป้อง และไม่ควรใช้อำนาจสั่งการควบคุมไม่ให้พนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษไม่สามารถดำเนินคดีจนถึงที่สุดได้ อย่าทำมวยล้มต้มคนดู
นอกจากนี้ ยังอยากให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ให้เหมือนกับสมัยที่พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่รับผิดชอบเรื่องหมูเถื่อนในขณะนั้นด้วย
