หลานโหดแค้นฟ้องร้องที่ดินมรกดกับอาแท้ๆ แต่แพ้ 3 ศาล คุมอารมณ์ไม่อยู่ ใช้ปืนขนาด 9 มม.รัวยิงใส่ 15 นัด เสียชีวิตกลางถนนเลียบคลองหลุมลี บางใหญ่
วันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแม่นาง ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย เหตุเกิดบริเวณ หมู่ที่ 1 ถนนเลียบคลองหลุมลี ต.บ้านใหม่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปราถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พ.ต.อ.ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี แพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรีบตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุบนถนนเลียบคลองหลุมลี พบศพ น.ส.พะเยาว์ สีหลุ่น อายุ 50 ปี ใส่เสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อน กางเกงขาสามส่วนสีกรมท่า ใส่หมวกคลุม สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต ใกล้กันพบศพ นายพายัพ เอี่ยมผ่อง ไม่ทราบอายุ นอนตะแคงเสียชีวิต สวมเสื้อ แขนยาวสีฟ้า กางเกงขายาว สีน้ำตาล สวมหมวก ห่างไปเล็กน้อยพบปลอกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดตกอยู่
นายวัลลภ ชื่นบาน อายุ 34 ปี พนักงานกู้ชีพเทศบาลเมืองบางแม่นาง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ทีมกู้ชีพเทศบาลเมืองบางแม่นาง มาถึงจุดเกิดเหตุ พบศพชาย 1 หญิง 1 เป็นพี่น้องกัน ยืนยันเสียชีวิต มีชาวบ้านแจ้งว่าหลานผู้ตายเป็นคนยิง เรื่องปัญหาที่ดินที่สะสมมานานหลายปี ตอนเกิดเหตุ 2 คนพี่น้อง กำลังจะตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากนา บ้านผู้ก่อเหตุอยู่ข้างหน้าที่เกิดเหตุ คนที่ได้ยินเสียงปืนแจ้งว่า รอบแรก 11 นัด รอบสอง 4 นัด รวม 15 นัด คาดว่า อาวุธปืนเป็นลักษณะ 9 มม.
นายชาติชาย บุตรนุช สมาชิก อบต. หมู่ 1 ต.บ้านใหม่ กล่าวว่า ตนไปดูไก่อยู่ มีคนโทร.แจ้ง ตอนแรกนึกว่ารถล้ม ไม่คิดว่าจะยิงกัน คนก่อเหตุเป็นหลานของผู้ตายทั้ง 2 คน ส่วนผู้ตายเป็นอา น้องของพ่อผู้ก่อเหตุ ทราบว่า สาเหตุมาจากเรื่องที่ดิน แต่ศาลตัดสินจบแล้วทั้ง 3 ศาล เมื่อเดือนธันวาคม ที่ผ่านมา ผู้ตายเป็นคนได้ที่ดินทั้งหมด ส่วนหลานไม่ได้อะไรเลย คาดว่า ผู้ก่อเหตุคงอารมณ์ชั่ววูบ ปกติเห็นกันอยู่ คนก่อเหตุไม่ได้เป็นคนอารมณ์ร้ายอะไร ตอนนี้ผู้ก่อเหตุติดต่อขอมอบตัวที่บ้านกำนันแวน หมู่ 5 ต.บ้านใหม่ ตนคิดว่า ผู้ตายมีเลือดออกบริเวณศีรษะ ไม่รู้ว่าเขาทะเลาะอะไรกัน คนก่อเหตุก็ยังเด็กอยู่ และไม่ทราบว่าปืนใคร ตนมาถึงก็เห็นผู้ตายนอนอยู่ตรงจุดที่เอาน้ำเข้านาแล้ว
นางละเอียด เอี่ยมผ่อง อายุ 62 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ปกติลูกชายอยู่บ้านหลังนี้ หลังเกิดเหตุตนบอกกับลูกชายว่าไปยิงเขาก็ให้มอบตัว ไม่ต้องหนี ลูกชายบอกขอไปสงบสติอารมณ์ ขอไปทำใจก่อน บ้านผู้ตายอยู่ด้านในลึกๆ ต้องเดินเข้าไป รถเข้า-ออกไม่ได้ ปัญหาขัดแย้งกันเรื่องที่ดิน ลูกชายบอกกับตนว่าถ้าอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ ใครก็อยู่ไม่ได้ บ้านหลังนี้ต้องเป็นของผู้ตาย ไม่รู้ไปตกลงกันยังไง เพราะพ่อของสามีตนมีลูก 5 คน ไม่มีใครได้เลยนอกจากผู้ตาย ศาลตัดสินแล้วเราต้องย้ายออก แต่ลูกชายตนไม่ยอมออก ไม่ไป ทั้งที่ตนกับลูกคนเล็กก็ไปหาบ้านใหม่แล้ว บ้านหลังนี้สร้างมานานแล้วประมาณ 30-40 ปี ไม่รู้ไปเซ็นยกกันยังไง เคยขอซื้อคืนก็ไม่ได้ ตนก็ไม่ได้อะไรเลย ปืนที่ก่อเหตุมีทะเบียนของพ่อไม่ได้ไปซื้อ มีอยู่นานแล้ว ตนเคยไปกู้ขอค่ารื้อถอนบ้านเพื่อไปซื้อบ้านใหม่ก็ไม่ได้ คงรู้สึกเครียด คำสั่งศาลตัดสินเมื่อเดือนที่แล้ว แต่ยังไม่ได้บังคับออก ตนรอหมายศาลอย่างเดียว ตนยังไงก็ได้ แต่ลูกชายไม่ยอม ขอแลกที่ดินก็ไม่ได้ ตนเป็นพี่สะใภ้ของผู้ตาย โฉนดที่ดินก่อนหน้านี้เป็นชื่อของพ่อสามีตน ตอนหลังไม่รู้ไปจับมือยังไงกลายเป็นชื่อของ น.ส.พะเยาว์ ผู้ตายคนเดียว เคยมีเรื่องขึ้นศาลกัน ตนเว้นทางไว้ให้ผู้ตายเข้า-ออด รวมถึงที่ของพี่สาวอีก 3 ไร่ เพื่อขอให้ตนได้อยู่ตรงนี้ก่อน ก็ไม่ยอมจะเอาที่ดินตรงนี้ให้ได้
เบื้องต้น นายพิศิษฐ์ เอี่ยมผ่อง อายุ 40 ปี มือยิง ซึ่งเป็นหลานของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน ได้เข้ามอบตัวกับนายพนม พึ่งสุขแดง กำนันตำบลบ้านใหม่ อยู่ระหว่างนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแม่นาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายพิศิษฐ์ เอี่ยมผ่อง มือปืนกล่าวว่า ที่ทำไปเพราะผู้เสียชีวิตมาด่าทอตนที่บ้านมาไล่ที่ให้ตนออกจากบ้านไปใจจริงตนก็อยากย้ายออกเพราะมีปัญหาหลายอย่างซึ่งก่อนหน้านี้เป็นที่พ่อแม่ของตนตนมารู้ว่าผู้เสียชีวิตแอบซื้อก่อนตอนในศาลตนจะขอแลกที่ดินที่ทั้งหมดของตนที่แบ่งกันแล้วประมาณ 3ไร่จะเอาไปแลกกับแปลงที่บ้านที่ตนอยู่แต่เขาไม่ยอมเพราะเขาอยากได้พื้นที่ทั้งหมดตนเดินเข้าบ้านไปหยิบปืนออกไปยิงซึ่งตอนนั้นผู้เสียชีวิตจะมาตบตนลงไม้ลงมือตนไม่ได้ตั้งใจจะก่อเหตุเพราะตอนนั้นโมโหตนไม่เคยคิดที่จะฆ่าเขาเลยยอมเขามาตลอดเพราะเป็นญาติพี่น้องกันแต่เพราะไม่มีทางออกแล้วมีปัญหากันมานับ 10ปีที่ตนไม่ได้ย้ายไปที่ของตนเพราะเข้า-ออกลำบาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหานายพิศิษฐ์ 2ข้อหา 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีรับอนุญาต