รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ คดีลวงล่อสาว 17 ศาลโซเชี่ยลเอียง เชียร์ข้างสมรักษ์
แม้ทางคดีอนาจารเด็ก ของ “บาส” สมรักษ์ คำสิงห์ อดีตฮีโร่โอลิมปิก จะยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย เพราะกระบวนการทางกฎหมาย ต้องใช้เวลาอีกเป็นปีๆ
แต่ “ศาลโซเชียล” ดูจะตัดสินแล้ว ยกมือให้สมรักษ์ลฃลชนะคะแนน อย่างไม่เป็นเอกฉันท์
ชาวเนตมากกว่าครึ่งให้ความเห็นใจในชะตากรรมของสมรักษ์ เพราะพยานหลักฐานต่างๆ ที่แพร่ออกมา เมื่อ ค.ว.ย. คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ออกมาแล้ว คดีนี้หมิ่นเหม่จะเป็นการแบล็กเมล์
และที่ชัดเจนมากก็คือ นักเรียนหญิงวัย 17 ปี 10 เดือน ผู้กล่าวหา พฤติกรรมของเธอ ไม่ธรรมดา แม้แต่พ่อแม่ผู้ปกครอง ก็ตามเธอไม่ทัน
คนที่โผล่มาทิ้งหมัดน็อกใส่สาว 17 ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล แต่เป็นเพื่อนของเธอเอง 2 คน ที่นัดไปเที่ยวผับ “สุขสันต์ขอนแก่น” ด้วยกัน เป็นประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น
จะไม่เห็นกับตา ก็แค่ฉากนัวเนีย ตอนสมรักษ์กับสาว 17 อยู่ในห้องที่โรงแรมสองต่อสอง เท่านั้น
สองสาว เพื่อนของสาว 17 ออกมาไลฟ์สด แฉสาว 17 เต็มๆว่า เพิ่งรู้จักสาว 17 คนนี้ แต่ก็เข้าไปนั่งดื่มกินด้วยกัน 4 คน จังหวะเข้าห้องน้ำออกมา ก็พบว่า สาว 17 ย้ายไปนั่งโต๊ะของสมรักษ์ซะแล้ว
เมื่อเข้าไปถามว่า ทำไมย้ายโต๊ะ สาว 17 ไม่ตอบ พอผับเลิก มายืนออกันหน้าผับ เพื่อนของสาว 17 ก็ชวนให้กลับด้วยกัน ถามว่า “จะไปกับเขาจริงๆ หรือ?” สาว 17 ก็ชักสีหน้าไม่พอใจ ยืนยันจะไปต่อกับสมรักษ์
และทุกคนก็เห็นกับตาว่า สาว 17 เดินขึ้นไปซ้อนสามบิ๊กไบค์ เพื่อไปโรงแรมกับสมรักษ์
สุดท้าย พอมารู้ว่าสาว 17 แจ้งความจับสมรักษ์คดีอนาจาร ทุกคนก็พากันงงไปหมด ว่าเกิดอะไรขึ้น
ทั้งนี้ เหตุที่สองสาว เพื่อนร่วมดื่มกิน จำเป็นออกมาเปิดโปงครั้งนี้ พวกเธอบอกว่า ก็เพราะถูกโลกโซเชียลประณาม กล่าวหาว่า “ทอดทิ้งเพื่อน ไม่ช่วยเพื่อน ไม่รักเพื่อน ไม่ห้ามเพื่อน”
ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่ใช่เช่นนั้น แต่เป็นเพื่อน จงใจจะทิ้งไปเอง ห้ามไม่ฟัง ใครก็ช่วยไม่ได้
คำชี้แจงของเพื่อนร่วมโต๊ะ ถือเป็นหมัดฮุคที่หนักหน่วงรุนแรง เพราะมันก็สอดรับกับหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ตรงหน้าผับ
วงจรปิดยืนยันชัดเจนว่า สาว 17 “ตวัดขา” ขึ้นคร่อมอานมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ด้วยตัวเอง แล้วก็มีสมรักษ์ตามขึ้นประกบปิดท้าย แล่นออกไปด้วยกัน ไม่ได้มีลักษณะของการฉุด ดึง ลาก จูง ไปขึ้นรถแต่อย่างใด
พฤติกรรมของสาว 17 จึงออกจะสวนทางกับภาพลักษณ์จากปากพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่อ้างว่า ลูกตัวเองเป็นเด็กดี โน่นนี่นั่น ในตอนแรก
แต่ตอนนี้ก็เริ่มยอมรับแล้วว่า ลูกตัวเองก็ไม่เบาเหมือนกัน จึงรับปากต่อสังคมว่า จะกลับไปดูแลสั่งสอนใหม่
แค่อ้างว่านัดเพื่อนจะไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย แต่ดันไปท่องราตรีถึงตีสาม แถมยังใช้บัตรประชาชนปลอม เพื่อเดินเข้าผับอีก เรื่องเหล่านี้ ไม่มีทางที่พ่อแม่ปู่ย่าตายาย จะไล่ตามทันตัวจริงของลูกได้เลย ถ้าไม่เกิดเรื่องนี้เสียก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการกล่าวหาเกิดขึ้น สมรักษ์ คำสิงห์ ก็เจอไฟต์บังคับ ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างไม่มีทางเลี่ยง
เขาถูกตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินคดี 4 ข้อหาหนัก 1.ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่ถึง 18 ปี 2.ร่วมกันพาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี ไปเพื่ออนาจาร 3.กระทำอนาจารเด็กอายุเกิน 15 ปี โดยใช้กำลังประทุษร้าย และ 4.พยายามข่มขืนผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย
ส่วนคนขับบิ๊กไบค์ ก็โดนหางเลข เจอแจ้งจับดำเนินคดีด้วยอีกคน ทั้งที่ตอนแรก นึกว่าทำหน้าที่เป็นทูต ส่งคนไปขึ้นสวรรค์ชั้น 7
คดีนี้ยังเข้าทาง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ออกโรงมาอยู่กลางแสง ลุยเอาผิดกับสมรักษ์ ถึงขั้นแนะนำให้รับสารภาพ เพื่อผ่อนหนักเป็นเบา
กฎหมายจะคุ้มครองเด็กแบบไม่ลืมหูลืมตาหรือไม่ ต้องติดตามหนังชีวิตของ “โม้ อมตะ” สมรักษ์ คำสิงห์ กันต่อไป
--------------------------------
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android