พ.ต.ท.คู่กรณี “เสี่ยหมู” โร่พบกองปราบ สอบถามคดีที่ถูกแจ้งความ ยันซื้อที่ดินตลาดใน จ.ปราจีนบุรี มูลค่า 40 ล้านถูกต้องตามกฎหมายจากกรมบังคับคดี โต้ไม่มีทุนจีนสีเทา ลั่นเตรียมแจ้งความกลับทั้งแพ่ง-อาญา
วันนี้ (14 ธ.ค.) ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ โกษะโยธิน พร้อมด้วย นายพสิษฐ์ คำชัย ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองปราบปราม เพื่อสอบถามถึงเรื่องการดำเนินคดีที่ นายวุฒิโรจน์ อริยเดชอนันต์ หรือ เสี่ยหมู นักธุรกิจพัฒนาที่ดิน ชาวปราจีนบุรี แจ้งความดำเนินคดี กรณีที่ดินซึ่งเป็นตลาดในจังหวัดปราจีนบุรี ถูกนายทุนคนจีนร่วมมือกับตำรวจระดับสูงยึดเอาไป
พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้ซื้อที่ดินมาจากโจทก์ทั้ง 4 โดยกรมบังคับคดีเป็นผู้มอบที่ดิน ภายหลังจากที่ นายวุฒิโรจน์ ถูกฟ้องขับไล่จนได้ทำการย้ายออกจากที่ดินไปเรียบร้อย จากนั้นเขาก็ได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับตน ซึ่งตนนั้นไม่ได้ทำความผิดอะไร จึงได้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ พร้อมหลักฐานคำสั่งศาลและสอบถามเรื่องการดำเนินคดีที่ศูนย์รับแจ้งความ บช.ก.ดังกล่าว
ด้าน นายพสิษฐ์ กล่าวว่า อยากขอแก้ข่าวเพื่อผู้เสียหายที่ถูกกล่าวหาว่ามีนายทุนจีนเทาเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งไม่มีมูลความจริง เนื่องจากนายทุนรายนั้นเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ที่ทำธุรกิจในไทยมาเป็นเวลากว่า 40 ปี จนประสบความสำเร็จ ซึ่งการซื้อที่ดินที่มีส่วนพัวพันนี้ก็ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายในราคา 40 ล้านบาท โดยมีการจดทะเบียนที่กรมที่ดินโดยถูกต้อง ซึ่งเสี่ยหมูไม่มีส่วนร่วมในที่ดินนี้ แต่มีการพาดพิงว่ามีการมอบเงิน 2 ล้านบาท ให้ภรรยาอัยการซึ่งไม่เป็นความจริง เนื่องจากอัยการนั้นไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ อีกทั้งเสี่ยหมูซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องการฉ้อโกงทางธนาคารกสิกรเพียงรายเดียวยังคงลอยนวลอยู่ โดยหลังจากนี้เตรียมรวบรวมข้อมูลเพื่อแจ้งความกลับทางอาญาและแพ่งต่อไป