พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ นำคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม รับฟังข้อมูลจากทุกหน่วย ขับเคลื่อนนโยบาย Quick Win ปราบยาเสพติด การดูแลนักท่องเที่ยวเชิงรุก กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์ เน้นย้ำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดโครงข่ายใยแมงมุมหลังเกิดเหตุ พร้อมยกระดับงานสายตรวจ
วันนี้ (2 ธ.ค.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป1) พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผบ.ตร. (ปป3) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป4) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. (ปป5) ลงพื้นที่ออกตรวจราชการรับฟังข้อมูลและผลการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติประกอบด้วย บช.ก. บช.ปส. น. ภาค 1-9 กองบังคับการ และตำรวจภูธรจังหวัด โดยการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังการปฏิบัติงาน มีการกำหนดแผน เวลา เพื่อให้การรับฟัง เก็บข้อมูลให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน คือเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2566 เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาจัดทำคู่มือในการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานและได้รับการยอมรับจากข้าราชการตำรวจ เพื่อเสนอต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ความเห็นชอบ ขณะนี้ได้มีการลงพื้นที่ไปรับฟังข้อมูลและผลการปฏิบัติงานจากหลายกองบัญชาการแล้ว โดยยังคงเหลือตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 อีกเพียง 2 แห่งเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นประมาณกลางเดือน ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมรับฟังข้อมูลการปฏิบัติงานของแต่ละกองบัญชาการจะช่วยทำให้เห็นได้ว่าในการปฏิบัติภายใต้นโยบายเดียวกัน แผนปฏิบัติราชการเดียวกัน ยุทธศาสตร์ชาติเดียวกัน แต่ผลปรากฏว่า กองบัญชาการต่างๆ มีผลการปฏิบัติงานที่มีจุดโดดเด่นและเป็นต้นแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์ ทบทวน ปรับปรุง เพื่อจัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงาน (SOPs) ให้สอดคล้องกับนโยบาย สถานการณ์และหน้าที่ของตำรวจในยุคปัจจุบันได้ และสามารถนำมาปรับใช้เป็นมาตรฐานและแนวทางในการปฏิบัติงานกับทุกกองบัญชาการตำรวจทั่วประเทศต่อไปได้ในอนาคต
นอกจากนี้ วัตถุประสงค์การลงพื้นที่เพื่อนำนโยบาย แนวทางและข้อสั่งการในการปฏิบัติราชการแก่ทุกกองบัญชาการในประเด็นใหญ่ 3 ประเด็น ประกอบไปด้วย 1. นโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็น QUICK WIN ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เน้นหนักในเรื่องของการบำบัดเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาด, การดูแลตรวจสอบ การสุ่มตรวจและบังคับใช้กฎหมายต่อความผิดเกี่ยวกับงานตามกฎหมายสถานบริการ, การยกระดับการดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่แบบเชิงรุก ที่จะต้องดูแลตั้งแต่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตำรวจพื้นที่ต้องรู้ว่านักท่องเที่ยวพำนักอาศัยที่ไหน และมีการบูรณาการกับตำรวจท่องเที่ยวและฝ่ายปกครองในพื้นที่
2. นโยบายของ ตร. ซึ่งเป็น QUICK WIN ของ ผบ.ตร. ประกอบไปด้วย นโยบายเร่งด่วน 4 ประการ คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติด, การบริการ ดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์ของนักท่องเที่ยว, การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, การส่งเสริม เสริมสร้างสวัสดิการให้แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว 3.นโยบายและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวกับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม นอกจากนโยบายหลักแล้ว เรื่องเน้นย้ำให้กับหน่วยงานในพื้นที่ คือ เรื่องการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดที่จะต้องวางแผนในลักษณะของโครงข่ายใยแมงมุมเมื่อเกิดเหตุ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามแผนเมื่อเผชิญเหตุ การรื้อแผนการตั้งจุดสกัดที่ทุกหน่วย ต้องกำหนดพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบติดต่อกับพื้นที่ของภูธรจังหวัดใด สถานีตำรวจใดต้องมีการกำหนดแผนตั้งจุดสกัดให้เชื่อมต่อกันเมื่อเกิดเหตุ ทำให้ลดภาระของงานสืบสวนที่สามารถจับกุมได้ในทันที และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
เรื่องการทบทวนฝึกยุทธวิธีให้แก่ข้าราชการตำรวจที่จะต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่เมื่อรับแจ้งเหตุที่จะไประงับเหตุคลุ้มคลั่ง หรือเหตุใดเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากเกิดอันตรายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่และพบว่าผู้บังคับบัญชาไม่ใส่ใจในการฝึกทบทวนตามยุทธวิธี ผู้บังคับบัญชาจะต้องรับผิดชอบ, เรื่องการป้องกันและกำหนดมาตรการแผนเผชิญเหตุนักเรียนหรือนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท, การปราบปรามแหล่งอบายมุข บ่อนการพนัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการมั่วสุม มอมเมา และก่อให้เกิดอาชญากรรมตามมาอย่างจริงจัง เด็ดขาด และห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปมีส่วนในการเรียกรับผลประโยชน์จากแหล่งอบายมุขเหล่านั้น หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินการทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
เน้นสายตรวจ มิใช่ตรวจ เซ็นตู้แดงเพียงอย่างเดียว ต้อง Stop Walk & Talk กับประชาชน ตามบ้านเรือนต่างๆ และให้หัวหน้าสถานีทดสอบเจ้าหน้าที่สายตรวจเกี่ยวกับข้อมูลท้องถิ่นภายในเขตตรวจของตัวเอง ซึ่งต้องรู้ว่าในพื้นที่รับผิดชอบที่ตรวจตราอยู่นั้นมีข้อมูลท้องถิ่น มีบ้านเรือนและประชาชนผู้พักอาศัยอย่างไร ถ้าตอบไม่ได้ก็ต้องมีการปรับหน้าที่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่หัวหน้าสถานีควรจะต้องดำเนินการ เพื่อเป็นการสร้างมวลชนและภาคี เครือข่ายในพื้นที่เป็นแนวร่วมและแหล่งข้อมูลในการทำงานร่วมกันในด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมต่อไป, เข็มตกเพียงเล่มเดียว ผกก. ต้องรู้ให้เร็ว อะไรที่เกี่ยวกับหน้าที่ และมีอำนาจตามกฎหมาย ต้องรีบดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย และเรื่องการกวาดล้าง ตรวจค้น อย่ารอทำเป็นช่วงๆหรือเทศกาล ให้ดำเนินการด้วยคำสั่งของ ผบช./ผบก. ในพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่