xs
xsm
sm
md
lg

น้องชายของหญิงดับในบ่อขยะแฟลตทหาร เชื่อพี่สาวถูกฆาตกรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



น้องชายของหญิงเสียชีวิตในบ่อขยะแฟลตทหาร กองทัพภาค 1 เดินทางมาขอใบบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ เชื่อพี่สาวถูกฆาตกรรม

จากกรณีพบศพ น.ส.ประกายแก้ว โรจน์ธนวรกุล อายุ 36 ปี เจ้าของร้านของชำในแฟลตทหาร กองทัพภาคที่ 1 ภายในบ่อขยะ หลังหายตัวไปตั้งแต่คืนวันลอยกระทง กระทั่งมาพบว่า เสียชีวิตเมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดทางตำรวจ สน.บางซื่อ ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ว่า เป็นการเสียชีวิตด้วยการตกจากที่สูง ที่อาจจะเกิดจากการพลัดตกลงมาหรือถูกกระทำให้ตกลงมา ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ สน.บางซื่อ นายเสฎฐวุฒิ โรจน์ธนวรกุล อายุ 31 ปี หรือ โจ้ น้องชายของ น.ส.ประกายแก้ว ผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอใบบันทึกประจำวันกับพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ เพื่อนำไปขอรับศพที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ กลับไปประกอบพิธีทางศาสนา

โดย นายเสรฎฐวุฒิ เปิดเผยว่า ปกติแล้วพี่สาวจะพักอาศัยอยู่ที่แฟลตตึกเดี่ยว ลักษณะเป็นห้องครอบครัว ภายในแยกเป็นห้องพัก 2 ห้อง มีพี่สาว สามีและลูกชายวัย 2 ขวบ พักอยู่ห้องเดียวกัน ส่วนตนเองจะพักอีกห้องหนึ่ง โดยพี่สาวเปิดร้านขายของชำอยู่ที่ตึกนั้น ส่วนตึกที่พบศพพี่สาวอยู่คนละตึกเรียกว่า ตึกคู่ ซึ่งในอดีตพี่สาวเคยพักอยู่ที่ตึกนี้ แต่ย้ายออกมาได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ปัจจุบันปกติแล้ว พี่สาวไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปตึกนั้นเลย อีกทั้งจุดที่พบศพพี่สาว ก็อยู่คนละฝั่งกับห้องที่พี่สาวเคยพักด้วยซ้ำ

โดยในคืนเกิดเหตุ สามีพี่สาวเล่าให้ฟังว่า พี่สาวนั่งดื่มสุรากับเพื่อนอยู่ที่ตึกเดี่ยว แล้วหลังจากนั้นพี่สาวก็แยกออกมา โดยให้สามีกลับห้องไปดูแลลูกก่อน จากนั้นพี่สาวก็หายตัวไป ตนมาทราบอีกทีก็ตอนรุ่งเช้า ก่อนจะพยายามช่วยกันตามหา และสามีก็ไปลงบันทึกประจำวัน ก่อนจะพบร่างของพี่สาวในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ตนได้ข้อมูลจากตำรวจมาว่า พบภาพวงจรปิดเห็นพี่สาวของตนเดินไปที่ตึกนั้น ในลักษณะท่าทางปกติ และมีการหันมองออกมาเหมือนว่ามีคนจะเรียก ก่อนที่พี่สาวจะหันกลับไปและเดินขึ้นตึกที่เสียชีวิตเหมือนเดิม ก่อนจะหายตัวไปและพบเป็นศพในเวลาต่อมา อีกทั้งมีภาพวงจรปิดอีกมุม แสดงให้เห็นว่า พี่สาวออกจากห้องน้ำและหยิบโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋าเสื้อ แต่ปรากฏว่า ที่ศพของพี่สาว โทรศัพท์หายไป

ทั้งนี้ ตนเชื่อว่า การเสียชีวิตของพี่สาวมีเงื่อนงำและยังติดใจในการเสียชีวิต ไม่เชื่อว่า เป็นการฆ่าตัวตาย แม้ว่าพี่สาวจะมีปัญหาด้านสุขภาพเป็นโรคมะเร็งไทรอยด์ระยะที่ 3 แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้พี่สาวต้องเครียดหรือกังวล เพราะที่ผ่านมา พี่สาวก็รักษาตัวอย่างดีมาโดยตลอด อีกทั้งเขารักลูกและสามีของเขาเป็นอย่างมาก ตนจึงไม่เชื่อว่าพี่สาวตัวเองจะคิดสั้นฆ่าตัวตายได้ เชื่อว่าพี่สาวตนเองน่าจะถูกฆาตกรรม แต่จะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์หรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะที่แฟลตไม่มีประวัติเรื่องเหตุอาชญากรรมมาก่อน

อีกทั้งปกติแล้ว ตนกับพี่สาวจะพูดคุยกันตลอด ไม่เคยไม่สามารถโทรหาหรือติดต่อได้ ซึ่งติดต่อครั้งสุดท้ายในวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ไลน์ทักหาพี่สาวตามปกติตอนหนึ่งทุ่ม ก่อนพี่จะเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมง ทั้งนี้ ตนได้ส่งข้อความสุดท้ายในวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ถามพี่สาวว่า อยู่ไหน แต่ไม่มีการตอบกลับ และวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนสามารถโทรเข้าเครื่องโทรศัพท์ของพี่สาวตนเองได้ แต่ไม่มีใครรับสาย ก่อนที่หลังจากนั้นจะไม่สามารถติดต่อโทรศัพท์ของพี่สาวได้อีกเลย

ส่วนตัวสามีของพี่สาวซึ่งชื่อหนุ่ย ตนไม่ได้รู้สึกติดใจกับสามี เพราะหลังจากทราบข่าวว่าพี่สาวหายไปในช่วงเช้า สามีพี่สาวก็เป็นคนแรกที่ออกตามหา และไปแจ้งลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ อีกทั้งตอนที่ตั้งวงกินเหล้าในคืนวันลอยกระทง สามีพี่สาวก็ยืนยันว่าคืนนั้น พี่สาวไล่ให้เขากลับไปดูลูกที่ห้องก่อน โดยพี่สาวกับสามีคนนี้คบหากันมาได้ 5 ปีแล้ว มีลูกชายด้วยกัน 1 คน วัย 2 ขวบ ที่ผ่านมาก็มีทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็คืนดีกัน ไม่เคยถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือมีปัญหากันภายในครอบครัวจนเกิดภาวะเครียดทั้งสองฝ่าย

ส่วนประเด็นที่ตั้งข้อสงสัยว่า เป็นการฆาตกรรมเพื่อล้างหนี้หรือไม่ นายเสรฎฐวุฒิ ระบุว่า ที่ผ่านมา มีคนมาหยิบยืมเงินพี่สาวของตนจริง แต่เป็นจำนวนแค่หลักพัน ไม่ได้มากมาย และบางส่วนก็เป็นเพียงแค่การเซ็นของในร้านชำ อีกทั้งที่ผ่านมา พี่สาวก็ไม่ได้มีอริหรือมีปัญหาใดๆ กับใคร โดยหลังจากนี้จะนำศพพี่สาว ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดตะขบ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
กำลังโหลดความคิดเห็น