MGR Online - “พ.ต.ต.ณฐพล” เรียก บ.ชิปปิ้ง รับทราบข้อหาพัวพันคดีหมูเถื่อน ด้านเจ้าของบริษัทหอบหลักฐาน แจงนำเข้าจริง 41 ตู้ ถูกกฎหมาย คาด จนท.รัฐ กลั่นแกล้ง แถมเผาทำลายของกลางทิ้ง
จากกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งดำเนินการขยายผลคดีลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน 161 ตู้ และมีการส่งสำนวน ป.ป.ช. เอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ประมาณ 10 ราย โดยมีการแยกสำนวนคดีพิเศษตรวจสอบกลุ่มบริษัทชิปปิ้งและนายทุนอีก 10 คดี และมีกลุ่มที่เป็นขบวนการองค์กรอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นการกระทำความผิดที่ส่งผลต่อความมั่นคงด้านอาหาร (สุกร) มีการนำเนื้อหมูเถื่อนกว่า 1 หมื่นตู้ ตั้งแต่ปี 2564-ปัจจุบัน
วันนี้ (1 ธ.ค.) เวลา 10.00 น. ห้องประชุมพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ร่วมสอบปากคำ นายบริบูรณ์ ลออปักษิณ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด พร้อมทีมฝ่ายกฎหมาย เพื่อชี้แจงกรณีทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว ไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศ
นายบริบูรณ์ เปิดเผยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า วันนี้เข้ามาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้าหมูเถื่อน โดยทั้ง 2 บริษัทนำเข้าสินค้าประเภทอาหารหลายชนิดเพื่อส่งไปจำหน่ายให้ประเทศเพื่อนบ้าน และไม่ได้ส่งจำหน่ายในประเทศไทยแต่อย่างใด ส่วนของเนื้อหมูที่เกิดปัญหานั้น ทั้ง 2 บริษัทได้มีการสั่งนำเข้าจากต่างประเทศมาทั้งหมด 41 ตู้ เมื่อเดือน ส.ค. 65 อย่างถูกต้องตามกฏหมายแต่มาติดขัดตรงกระบวนการขออนุญาตเคลื่อนย้ายซากสัตว์ที่กรมปศุสัตว์จะต้องเป็นผู้อนุญาตเนื่องจากไม่ยอมให้เคลื่อนย้าย
นายบริบูรณ์ กล่าวว่า ต่อมา ได้มีการยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อเอาผิดกรมปศุสัตว์กรณีที่ไม่อนุญาตให้เนื้อหมูของบริษัทตนเองส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านจนเกิดความล่าช้า ได้รับความเสียหายต่อธุรกิจ เพราะต้องเสียค่าไฟให้กับท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี วันละ 5 แสนบาท แต่กับเป็นว่ากรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์ ก็มาเหมารวมบริษัทตนเองเป็นตู้หมูเถื่อนไปด้วย รวมถึง ทำหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอความเป็นธรรมแล้ว
“อย่างไรก็ตาม ได้ตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นการถูกกลั่นแกล้ง เนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทของผมเคยร้องเรียนไปยังกระทรวงเกษตรฯ ถึงพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสมของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่นการเรียกรับผลประโยชน์จึงอาจทำให้ไม่พอใจ อีกทั้งหมูของกลาง 41 ตู้ของบริษัทก็ได้ถูกทำลายทิ้งไปแล้ว ทั้งที่เป็นของกลางที่ควรเก็บไว้เนื่องจากยังอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลปกครอง ยิ่งสร้างความเสียหายให้มากขึ้น วันนี้จึงต้องมาชี้แจงกับดีเอสไอเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับบริษัทด้วย”
ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล เปิดเผยว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมกับให้ข้อมูล และเอกสารบางส่วนแก่พนักงานสอบสวนแล้ว เช่น คำฟ้องศาลปกครองและหนังสือร้องเรียนถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยทราบว่าทั้ง 2 บริษัทนั้นเป็นบริษัทชิปปิ้งและนำเข้าสินค้าอาหารแช่แข็งหลายชนิดเพื่อส่งออกไปขายที่ สปป.ลาว เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558
พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า สำหรับคดีหมูเถื่อน 161 ตู้ มีการแยกออก อีกเป็น 10 คดี ก็ได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหาซึ่งเป็นบริษัทชิปปิ้ง 10 บริษัท และอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ประกอบด้วย 1. น.ส.มณีวรรณ จิรวรวงศ์ อายุ 38 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของ บริษัท อาร์.ที.เอ็น.โอเวอร์ซี จำกัด 2. นายโดม วัจนคุปต์ อายุ 45 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เดอะ คิวบ์ โลจิสติกส์ จำกัด 3. น.ส.นัทธมน สมบุญ อายุ 42 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท กู๊ด วอเตอร์ อีควิปเม้นท์ จำกัด 4. นายณัฐวุฒิ กันพร้อม อายุ 32 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของห้างหุ้นส่วนจำกัด กันตา ไทยโฟรเซ่นฟิช KANTA THAI FROZEN FISH LIMITED PARTNERSHIP
5. น.ส.เจนจิรา พรรัตนกุล อายุ 40 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของห้างหุ้นส่วนจำกัด กันตา ไทยโฟรเซ่นฟิช KANTA THAI FROZEN FISH LIMITED 6. นายศักดา ทองถนอม อายุ 51 ปี กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท มายเฮ้าส์ เทรดดิ้ง จำกัด MY HOUSE TRADING CO.,LTD. 7. นายโกญจนาท ศรมยุรา กรรมการผู้มีอำนาจลงนามบริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด , 8.นายวีรศักดิ์ กิจนัทธี กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหัสวรรษ ฟูดส์ 9. นายพิเชฐ แซ่ซี กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท ซี เวิร์ล โฟรเซ่น ฟูด จำกัด และ 10.นายสมนึก กยวัฒนกิจ กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม บริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด
พ.ต.ต.ณฐพล เผยอีกว่า ส่วนอีก 2 บริษัทที่เตรียมขอศาลออกหมายจับ คือ บริษัท ศิขัณทิน เทรดดิ้ง จำกัด และ บริษัท สมายล์ ท็อป เค เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด โดยมี นายบริบูรณ์ ลออปักษิณ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม ซึ่งวันนี้ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ มาเข้าพบพนักงานสอบสวน หลังจากที่ทราบว่าชื่อของบริษัทไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหมูเถื่อน และยังเกี่ยวข้องกับกลุ่มค้าหมูเถื่อนซึ่งเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่กลุ่มใหม่ ที่กรมสอบสวนพิเศษเพิ่งตรวจสอบพบว่ามีความเชื่อมโยงกับอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ อักษรย่อ ป.
“ในส่วนของกลุ่มนายทุนที่เป็นผู้สั่งบริษัทชิปปิ้งนำเข้าหมู ได้จับกุมไปแล้ว 2 ราย คือ สองพ่อลูก (นายวิรัช และนายธนกฤต ภูริฉัตร) และได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาซึ่งเป็นนายทุนเพิ่มเติมไปอีก 1 ราย โดยรายใหม่นี้เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด อย่างไรก็ตาม การเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายคดีหมูเถื่อนยังคงเดินหน้าต่อไป โดยจะเริ่มปฏิบัติการในสัปดาห์หน้าอย่างต่อเนื่อง”
