รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 วันพฤหัสบดีที่ 9 พฤศจิกายน 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ นับถอยหลัง “ชูวิทย์” ใกล้เวลาปิดม่าน หรือ? ตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ
หากชีวิตเปรียบเสมือนการเดินทางที่มีวาระสุดท้ายบนเชิงตะกอนเป็นจุดหมายที่รอคอยอยู่ การเดินทางของชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ บุรุษผู้มีภาพจำหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอดีตเจ้าพ่ออ่าง มาเฟียรื้อบาร์เบียร์ นักโทษวีไอพี นักแฉการเมือง ผู้มีอริรอบทิศ ก็กำลังอยู่บนหลักไมล์สุดท้ายที่มองเห็นป้าย สถานีสุดท้ายจุดจบการเดินทางอยู่ห่างออกไปแค่เอื้อม
โดยเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา นายชูวิทย์ได้ออกเดินทางจากประเทศไทยไปยังอังกฤษ ก่อนจะเดินทางต่อไปยังสก็อตแลนด์เพื่อรักษาตัว ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ตามที่เจ้าตัวเคยประกาศไว้ในภารกิจทิ้งทวน แฉข้อมูลกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน ซื้อขายที่ดินโดยเลี่ยงภาษีก่อนหน้าที่นายเศรษฐาจะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย
แต่การเปิดโปงครั้งสุดท้ายของนายชูวิทย์ก็ไร้ผลเมื่อทิศทางการเมืองเปลี่ยนแบบ 360 องศา ทำให้นายเศรษฐาได้รับเสียงสนับสนุนอย่างท้วมท้นในสภาให้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศจัดตั้งรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำชนิดไร้แรงต้านพร้อมกับคำนิยาม “รัฐบาลข้ามขั้ว”
และทำให้อดีตนายกฯ ที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร กลายเป็นนักโทษผู้ป่วยที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้เข้ารับการรักษาตัวอยู่บนชั้น 14 ของโรงพยาบาลตำรวจจนถึงปัจจุบัน
ก่อนหน้านั้นนายชูวิทย์ได้เปิดศึกกับฝ่ายตรงข้ามรอบทิศ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการออกมาแฉกลุ่มจีนสีเทาที่นำไปสู่การเผชิญหน้าท้าวางมวยกับนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจคนดัง ที่ถูกออกจากราชการ และถือหางฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับชูวิทย์มาโดยตลอด
จุดเสื่อมชูวิทย์เริ่มขึ้นในการเปิดศึกด่าทอใส่ร้ายป้ายสีนายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่ออาวุโสผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ซึ่งมีต้นทุนความเชื่อถือทางสังคมเหนือกว่าเพราะเป็นนักเลงจริง ทำให้คนที่เคยติดตามรู้สันดานแท้จริงชูวิทย์ ว่าที่แท้เป็นคนมโนเก่ง หาความจริงไม่ได้เลย
อีกทั้งในช่วงหาเสียงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา นายชูวิทย์ยังเดินสาย ตามราวีพรรคภูมิใจไทย โดยหยิบยกประเด็นนโยบายกัญชาเสรีมาโจมตี แต่ก็ไร้ผล กลายเป็นการสร้างแนวร่วมมุมกลับให้พรรคภูมิใจไทย
แม้ตลอดระยะเวลาที่นายชูวิทย์ออกมาปฏิบัติการ ที่อ้างว่าเป็นการแฉเพื่อชาติ นายชูวิทย์จะถูกสวนกลับเป็นระยะๆ ด้วยเรื่องฉาวโฉ่ที่ตนเองเคยกระทำในอดีต อาทิ การบริจาคที่ดิน การเลี่ยงภาษี การจ่ายส่วยน้ำกาม การเข้าพบบิ๊กทหารเพื่อต่อรองข้อเสนอผลประโยชน์ และถูกแอบถ่ายคลิปเอาไว้จนมีผู้ถูกนำมาแฉ
แต่นายชูวิทย์ก็มิได้ยี่หระ หรือแสดงท่าทีสะทกสะท้าน อีกทั้งยังเปิดศึกค้าความ ด้วยการฟ้องกลับคู่กรณีทุกคนที่ฟ้องตนเองในข้อหาหมิ่นประมาท พร้อมกับประกาศลั่นว่า หากชนะคดี เงินที่ได้จะนำไปบริจาคช่วยเหลือส่วนรวม ด้วยหวังว่าจะได้รับเสียงเชียร์จากสังคม เพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องเดียวดายหน้าบัลลังก์ในวันที่มีการสืบพยาน
แต่แล้วในท้ายที่สุด นายชูวิทย์ก็ต้องยอมสยบต่อสัจธรรมแห่งชีวิตที่ว่าด้วยเรื่องของการเกิดแก่เจ็บตาย เมื่อผู้ที่สามารถหยุดอหังการของนายชูวิทย์ได้ก็คือ โรคร้ายที่ชื่อมะเร็ง ซึ่งเจ้าตัวออกมายอมรับว่า กำลังเข้าสู่ระยะสุดท้าย และเวลาของตนเหลืออีกไม่มากนัก
จึงประเมินได้ว่า ในวันนี้หลักไมล์แรกของทางเดินไปสู่ป้ายของการลาจากของนายชูวิทย์ได้ใกล้มาถึงแล้ว ซึ่งเจ้าตัวได้เลือกที่จะเดินทางไปประคับประคองอาการในต่างประเทศ เพื่อให้การจากนี้พบกับความเจ็บปวดทรมานน้อยที่สุด
สงครามยื้อชีวิตที่ดูเหมือนไม่มีวันได้รับชัยชนะของนายชูวิทย์ได้เริ่มต้นขึ้นสู่การนับถอยหลัง แต่คนอีกไม่น้อยก็ยังสงสัยชูวิทย์บอกเป็นมะเร็งตับ เป็นความจริงหรือไม่ หรือว่าเป็นการตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ เพื่อปิดฉากการแสดงของเขา
ระหว่างความจริงกับความเท็จ เป็นอะไรกันแน่ นี่ก็อาจจะเพราะเป็นผลมาจากชูวิทย์ถูกจับผิดได้เสมอว่าเขาถนัดกุเรื่องนั่นเอง
*************************
**หมายเหตุ
แอป Sondhi App ดาวโหลดได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1