พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. " ส่ง ตร.ประชิดพรมแดน ประสานมารดา "ไซ มินโม"มือฆ่าชิงทรัพย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโคเปนเฮเกนกล่อมบุตรชายให้มอบตัว
วันนี้( 10 ต.ค.)เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังชุดสืบสวน บก.สส.บช.น.พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.สุทธิสาร ประสานกับทางการเมียนมา ในการขอให้ร่วมจับกุมตัว นายไซ มินโม (MR.SAI MYAT MOE) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาสัญชาติเมียนมา ซึ่งก่อเหตุฆาตกรรมอดีต เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 3438/2566 ลงวันที่ 8 ต.ค.66 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งขณะนี้พบข้อมูลว่า นางนานแสนหอม ผู้เป็นมารดาของผู้ต้องหา เป็นบุคคลซึ่งโอนเงินค่าสมัครงาน ที่ฆาตกรสังกัดอยู่
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของฝ่ายสืบสวนชุดคลี่คลายคดี พบว่า เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นายไซ มินโม หรือชื่อเรียกไทยว่า "นายฝน" ได้สมัครงานกับบริษัทจัดหางาน ในตำแหน่งคนสวน/ดูแลสัตว์เลี้ยง แบบอยู่ประจำกับนายจ้าง หรือเป็นพนักงานหน้าร้าน มีการระบุเรียกรับเงินเดือน เดือนละ 10,000 บาท ขอวันหยุด 1 วันต่อสัปดาห์ ขอค่าล่วงเวลาหรือโอทีชั่วโมงละ 550 บาท โดยเจ้าตัวระบุความสามารถพิเศษเรื่องการสื่อสารภาษาไทยทั้ง พูด ฟัง อ่านและเขียน ว่า สามารถทำได้ดี ซึ่งเจ้าหน้าที่บริษัทจัดหางาน มีการระบุคุณลักษณะ เฉพาะจากการสัมภาษณ์เบื้องต้นว่า "นายฝน" พูดเพราะ มีหางเสียง ยิ้มแย้ม สุภาพมีมารยาท ดูเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน พร้อมเรียนรู้งานจากนายจ้างและเพื่อนร่วมงาน ไม่เกี่ยงงานและมีร่างกายแข็งแรง อีกทั้งยังสามารถปั่นจักรยาน ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ นอกจากนี้ ยังเป็นคนไม่ดื่มเหล้าไม่สูบบุหรี่ ประกอบกับฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดมาแล้ว 2 เข็ม
จากคุณลักษณะดังกล่าวทำให้ผู้ตาย ตัดสินใจว่าจ้าง ผู้ต้องหาให้เข้าไปทำงานเป็นพ่อบ้านเมื่อวันที่ 22 ก.ย ที่ผ่านมา มีการติดต่อกันทางไลน์ส่วนตัว ของนายฝน ซึ่งใช้ชื่อว่า Sheng Poon Myat ก่อนที่ นายฝน จะนั่งรถแท็กซี่ไปหาผู้ตายที่บ้านในช่วงสายวันที่ 23 ก.ย. จากนั้นนายฝน ก็มาทำงานอยู่กับผู้ตายที่บ้าน กระทั่งก่อเหตุฆาตกรรมเหยื่อ โดยฝนเอาทรัพย์สินจำนวนมากทั้งแท็บเล็ต เครื่องประดับ เครื่องเพชร นาฬิกา ฯลฯ ออกมาจากบ้าน ผู้ตายเมื่อเวลา 03.22 น.วันที่ 28 ก.ย. โดยฆาตกรได้ตระเวนไปใช้แท็บเล็ต กดเงินสดจากตู้ ATM และนำของกลาง ไปยังที่พักในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ก่อนจะขึ้นรถทัวร์กลับไปที่ด่านแม่สาย และข้ามกลับสู่ประเทศภูมิลำเนา ล่าสุดทางชุดคลี่คลายคดีได้พยายามประสานแม่ของผู้ต้องหาให้ช่วยเกลี้ยกล่อม บุตรชายให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ประกอบกับวางกำลังไว้ส่วนหนึ่งกรณีรับตัวข้ามกลับจากเมียนมา มาดำเนินคดีในราชอาณาจักรไทย.