ศาลอาญามีนบุรี สั่งปรับ 5,000 บาท "จิน ธรรมวัฒนะ" โพสต์ดูหมิ่น "แซน-กระติก" ยกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท พร้อม สั่งชดใช้ผู้เสียหายคนละ 50,000 บาท
วันนี้ (29 ก.ย.) ศาลอาญามีนบุรี นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.807/2566 ที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ น.ส.อิศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ'กระติก' ผู้เสียหายที่ 1 เป็นโจทก์ร่วมที่ 1 และนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซมผู้เสียหายที่ 2 เป็นโจทก์ร่วมที่ 2 ยื่นฟ้อง นายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ หรือจินอดีตสามี น.ส.ปณิตา พัฒนาหิรัญ หรืือ หนิง ผู้จัดละครชื่อดัง ความผิดหมิ่นประมาทฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328, 393 และโจทก์ร่วมทั้งสอง ขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนคนละ 5 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับถัดวันที่ 27 เม.ย.2565 กับให้จำเลยโฆษณาคำพิพากษาหรือคำกล่าวขอโทษในสื่อโซเชียล ยูทูป เฟซบุ๊ก ติ๊กต็อก เพจส่วนตัวของจำเลย และลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหรือทางสื่อโซเชียลอย่างน้อย 3 สื่อ ไม่น้อยกว่า 3 วันด้วยค่าใช้จ่ายของจำเลย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2565 มีผู้นำภาพถ่ายผู้เสียหายทั้งสอง ขณะนั่งอยู่ในรถ ไปโพสต์ลงอินสตาแกรม ซึ่งขณะนั้นผู้ต้องหาทั้งสองตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเหตุการณ์เสียชีวิตของแตงโม ดาราสาว โดยจำเลยได้โพสต์ความเห็นใต้รูปภาพดังกล่าวทำนองว่า "...นั่งรถตู้สบายใจ...." ซึ่งอาจทำให้เข้าใจว่าโจทก์ร่วมเป็นคนไม่ดี
จำเลยให้การรับสารภาพ มาตรา 393 ฐานดูหมิ่นโดยการโฆษณา ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ความผิดหมิ่นประมาทต้องเป็นการใส่ความ กล่าวหาเรื่องร้ายแรง เมื่อพิเคราะห์ถึงข้อความที่จำเลยโพสต์และข้อความอื่นประกอบกันไม่ได้มีการกล่าวถึงการเสียชีวิตของแตงโม ดาราสาว ข้อความที่จำเลยแสดงความคิดเห็นไม่น่าจะทำให้โจทก์ร่วมทั้งสองเสียชื่อเสียง ถูกเกลียดชัง ประกอบกับกรณีที่โจทก์ร่วม เบิกความถึงเรื่องที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของแตงโม และเห็นว่าที่จำเลยโพสต์ทำให้บุคคลเข้าใจว่าโจทก์ร่วมเป็นคนไม่ดีเป็นเพียงความรู้สึกนึกคิดของโจทก์ร่วมเอง และการที่บุคคลอื่นแสดงความคิดเห็นต่อจากจำเลย เป็นการกระทำของบุคคลอื่นเอง พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมาจึงไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แต่ข้อความที่จำเลยโพสต์มีลักษณะเป็นการดูหมิ่นโดยโฆษณา จึงพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 393 ให้ปรับ 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 5,000 บาท
ส่วนที่โจทก์ร่วม มีคำขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมคนละ 5 ล้านบาทนั้น เมื่อการกนะทำของจำเลยไม่เป็นความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เป็นเพียงการดูหมิ่นฯ เท่านั้นจึงเห็นสมควรกำหนดค่าสินไหมทดแทนตามมาตรฐานความผิดและพฤติการณ์แห่งคดี จึงให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมฯ แก่โจทก์ร่วมทั้งสองรายละ 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปีนับถัดจากวันที่ 27 เม.ย.2565 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
สำหรับข้อหาอื่นและคำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โดยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความของนายจรินทน์ หรือ จิน กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลยกฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งตนเองเคยให้สัมภาษณ์ตั้งแต่วันแรกแล้วว่า กรณีของคุณจินที่โพสต์เรื่องของตัวเงินตัวทอง เป็นการดูหมิ่นไม่ใช่หมิ่นประมาท ซึ่งคุณจินก็รับสารภาพ แต่ต่อสู้ในเรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา เพราะยังไม่เข้าข่ายความผิดก็สู้ตามแนวฎีกา
นายษิทรา กล่าวต่อว่า แต่ศาลสั่งปรับในข้อหาดูหมิ่นผู้อื่น จำนวน 10,000 บาท จำเลยรับสารภาพ ลดค่าปรับเหลือ 5,000 บาท ส่วนค่าเสียหายที่ โจทก์เรียกมาเป็นเงินจำนวนคนละ 5 ล้านบาท ศาลมองว่าข้ออ้างที่ระบุว่า จินโพสต์ข้อความในทำนองนั้นทำให้ไม่มีงาน ขาดรายได้ เกิดจากสิ่งที่โจทก์โดนคดี อีกทั้งโจทก์ไม่สามารถที่จะนำสืบได้ว่าการที่ไม่มีงานเกี่ยวกับที่จินโพสต์ต่อว่า แต่ศาลสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย ให้แซน และกระติก คนละ 50,000 บาท ซึ่งจะอุทธรณ์คดี ในส่วนของค่าเสียหาย เพราะคิดว่ามากเกินไป
ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ เพราะการที่ไปแจ้งข้อหาเกินจากความเป็นจริง ทั้งที่เป็นแค่เรื่องดูหมิ่นแต่แจ้งในเรื่องหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ทำให้จิน เสียอะไรหลายอย่างและคนอาจจะมองว่าไปใส่ความหรืออะไรแบบนี้อยู่ระหว่างพิจารณาถ้ามีความผิดก็ต้องดำเนินคดีกลับ
ขณะที่นายจรินทร์ หรือ จิน กล่าวสั้นๆ ว่า ไม่มีความกังวลอะไร สบายๆทุกอย่างก็เป็นไปตามที่ทนายตั้มบอก